ศึกละแวก 2568 ครั้งนี้ ใหญ่หลวงนัก ตอนที่ 6 | ฮุนเซนสกี้

ดูเหมือนว่า  ระหว่างไทยกับเขมร สหรัฐจะให้การสนับสนุนเขมรมากกว่าไทย และการที่สหรัฐสนับสนุนเขมรมากกว่าไทยนั้น ก็เนื่องจาก ไทยเป็นหมูอยู่ในอวยของสหรัฐอยู่แล้ว จากการที่สหรัฐมีอิทธิพลเหนือการเมือง และความมั่นคงของไทยมาเป็นเวลานานตั้งแต่หลังสงครามโลกคร้ังที่ 2

     ความพยายามของสหรัฐในการกลับเข้ามามีบทบาทในเขมร  เป็นส่วนหนึ่งของเกมภูมิรัฐศาสตร์ที่ต้องการปิดล้อมจีนทางทหาร ด้วยเหตุนี้สหรัฐจะต้องเอาใจ ฮุนเซน เป็นพิเศษ  

    ...ฮุนเซน ต้องได้รับหลักประกันความช่วยเหลือ  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินๆทองๆ  และอาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯ  ถึงได้กล้าเปิดฉากทำสงครามกับไทย  จะด้วยเป้าหมายของอุณเซนที่จะขโมยดินแดนไทย หรือจะฮุบบ่อน้ำมันในอ่าวไทยก็ตาม  ..... แต่สิ่งที่จะตามมา  ก็คือสหรัฐ  จะเข้ามาเสียบแทนจีนในกัมพูชา  ด้วยเหตุผลในเรื่องความมั่นคง ....

     ความขัดแย้ง  หรือสงครามระหว่างไทยกับเขมร ต้ังแต่เดือนพฤษภาคม 2568  ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้  จึงเป็นความขัดแย้ง  ที่อยู่ภายใต้การควบคุม ( controlled conflict)  เพื่อที่จะทำให้ท้ังไทยและเขมรอ่อนแอ และต้องต้องพึ่งพาสหรัฐมากขึ้น  ทั้งทางด้านการทหาร และความมั่นคง โดยที่สหรัฐ จะคุมให้ไทยกับเขมรรบกัน ในลักษณะที่จะไม่มีผู้ใดแพ้หรือชนะอย่างเด็ดขาด  ...  ในขณะเดียวกัน  ก็จะพยายาม กันจีนออกจากวงโคจร และให้ทั้งกัมพูชากับไทย  พึ่งพาหรือซื้ออาวุธจากสหรัฐมากขึ้น ....

ผู้กำกับฮอลลีวู๊ด  จึงวางบทบาทเขมรให้เป็นยูเครน
ส่วนไทยให้สวมบทรัสเซีย ... ?! 

    ความขัดแย้งระหว่าง ไทยกับเขมร  มีความเป็นไปได้  ที่จะมีการยกเอาโมเดลของความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซียมาไว้ที่บ้านเรา 

    ยูเครน  ถูกตะวันตกปั่นหัว เพื่อรบรัสเซีย และทำให้รัสเซียอ่อนแอลง  ตามเป้าหมายทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ใหญ่กว่าของพวกอีลิทในลอนดอน  ที่ต้องการสกัด ไม่ให้รัสเซียก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจในยูเรเซีย มีการสนับสนุนยูเครน ให้เข้าไปเป็นสมาชิกของนาโต้ เพื่อปิดล้อมรัสเซียทางทหาร จะได้ส่งขีปนาวุธมาติดตั้งที่ชายแดนกับรัสเซีย  เพื่อคุกคามมอสโคว ....

    สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย  ดำเนินมาเป็นเวลากว่าสามปีแล้ว และสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง  ให้กับทั้งสองประเทศ ที่ประชาชนมีเชื้อชาติ และเป็นญาติกัน แต่ในที่สุดแล้ว  รัสเซียจะมีชัยเหนือยูเครนที่อ่อนกำลังลงทุกวัน  เนื่องจากมีสายป่านที่สั้นกว่าในการทำสงครามที่ยืดเยื้อ ....

ฮุนเซน จึงรับบทเป็นโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้

       โดยเป็นฝ่ายยั่วยุ และเปิดเกมสงครามกับไทย  ที่บริเวณชายแดนก่อน เหมือนกับที่เซเลนสกี้รับมรดกของการเป็นผู้นำยูเครน  ในการกลั่นแกล้ง ทำร้ายและต่อมาทำสงครามกับผู้ที่มีเชื้อสายรัสเซียใน แคว้นดอนบาสส์ ซึ่งเคยเป็นดินแดนของรัสเซียมาก่อน ทำให้ประธานาธิบดีปูติน  ตัดสินใจส่งกองกำลังทหารเข้าไปทำสงครามกับเซเลนสกี้  ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐและนาโต้ เพื่อปกป้องแคว้นชาวรัสเซียนในดอนบาสส์ และเพื่อสกัดไม่ให้ยูเครนเข้าไปเป็นสมาชิกของนาโต้ ....

       ต่อมา  รัสเซียได้ผนวกเอาดินแดนของดอนบาสส์ไป รวมท้ังไครเมีย  ซึ่งเป็นดินแดนเดิมของรัสเซียอยู่แล้ว และมีความเป็นไปได้ที่ปูตินจะยึดยูเครนท้ังประเทศให้หมดปัญหาไปเลย ยูเครนจึงกลายเป็นสงครามตัวแทน  ที่มุ่งทำลายรัสเซีย แต่ในทางตรงกันข้ามกลับมีผลทำให้ยุโรปกำลังอ่อนแอลง จากเศรษฐกิจที่เปราะบางอยู่แล้ว ...

ฮุนเซนใช้แทคติกไม่ต่างจากเซเลนสกี้... 

   ฮุนเซน สั่งการโจมตีบ้านเรือน โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน ห้างค้าปลีก ในไทย  เพื่อดึงดูดความสนใจของนานาชาติ และยั่วยุให้ไทยออกอาวุธหนักหน่วงขึ้น เพื่อเป้าหมายในการบีบให้ไทย  เข้าสู่โต๊ะการเจรจาปัญหาพรมแดน  -- ก่อนที่ความเสียหายจะลุกลามใหญ่โต -- ภายใต้การกำกับของอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีของมาเลย์เซีย  และประธานของอาเซี่ยน และมาร์โก รูบิโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ และเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีของฝรั่งเศส  ที่จะมีการร่วมมือกันในการตีเส้นดินแดนใหม่ระหว่างไทยกับเขมร โดยที่จะแบ่งผลประโยชน์กันในทรัพยากรพลังงานในอ่าวไทยของไทยให้กับทุกฝ่าย ซึ่งจะทำให้ไทยสูญเสียอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดน ....

      การที่สหรัฐอยู่เบื้องหลัง  ไทยกับเขมรให้รบกัน โดยที่สหรัฐบริหารจัดการให้ความขัดแย้งอยู่ภายใต้การควบคุม  เพื่อที่จะนำไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่กว่าของสหรัฐในการขจัดอิทธิพลของจีนท้ังในกัมพูชา และในไทยต่อไป ....

      รูปแบบของการอยู่เบื้องหลังของท้ังเขมรและไทยรบกัน  คล้ายกับสิ่งที่ตระกูลรอทไชลด์เคยทำในอดีตในสงครามระหว่างนโปเลียนกับอังกฤษ 

ตระกูลรอธไชด์ นำโดย มาเออร์ แอ็มเชล รอทไชลด์ และบุตรชายทั้งห้าคน ได้สถาปนาเครือข่ายธนาคารที่ทรงอิทธิพลทั่วทวีปยุโรป ( ลอนดอน ปารีส แฟรงก์เฟิร์ต เวียนนา และเนเปิลส์ ) ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ถึงต้นศตวรรษที่ 19 มีทฤษฎีที่แพร่หลายว่า   พวกรอธไชด์มีบทบาทที่สำคัญในการไฟแนนซ์ท้ังอังกฤษและนโปเลียนในการทำสงครามกันในระหว่างปีค.ศ. 1803–1815 โดย นาธาน มาเออร์ รอทไชลด์ ในลอนดอนเป็นนายแบงค์ที่ไฟแนนซ์การสงครามฝ่ายอังกฤษ และ เจมส์ (จาค็อบ) มาเออร์ รอทไชลด์ ในปารีสเป็นนายแบงค์ไฟแนนซ์สงครามให้กับฝ่ายนโปเลียน

     ไม่ว่าอังกฤษ นำโดยดยุกแห่งเวลลิงตันจะชนะหรือแพ้ หรือนโปเลียนจะชนะหรือแพ้ในศึกวอเตอร์ลู ในปี ค.ศ. 1985 ตระกูลรอธไชด์ จะฟันกำไรจากการปล่อยเครดิตเพื่อไฟแนนซ์สงครามด้วยอัตราดอกเบี้ยหน้าเลือด 

     **พวกรอธไชด์มีข่าวกรองที่ดีที่สุด ....  มีการปล่อยข่าวว่า  เวลลิงตัน กำลังพ่ายแพ้ต่อกองทัพนโปเลียนที่วอเตอร์ลู ทำให้เกิดแพนิกในตลาดหุ้นลอนดอน มีการเทขายหุ้นอย่างหนัก แต่หลังจากที่รอธไชด์ทราบข่าวจากม้าเร็วว่า  ดยุกเวลลิงตันสามารถตีโต้กลับมาได้เปรียบกองทัพนโปเลียน นาธาน รอดไชด์ก็เข้าไปไล่ซื้อหุ้นที่ราคาถูก  ที่ถูกเลขายลงไปที่ฟลอร์ และสร้างความมั่งคั่งจนสามารถเข้าไปควบคุมธนาคารกลางของอังกฤษ หรือBank of England  ได้ ....

      แม้ว่านักประวัติศาสตร์  จะมีการโต้แย้งว่าเรื่องนี้ไม่เป็นเรื่องจริง หรือเป็นตำนานที่แต่งขึ้นมา  เพื่อให้ร้ายพวกนายธนาคารยิว แต่โมเดลของจักรวรรดิ ในการให้การปั่น หรือสนับสนุนให้ท้ังสองฝ่ายรบกัน เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ตัวเองต้องการ  ยังคงมีการใช้อยู่ตลอดเวลาจนถึงทุกวันนี้ กรณีความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาไม่ได้ออกจากกฎเกณฑ์นี้ ...

มองไปข้างหน้า สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง 

      เพราะว่าฮุนเซน  จะไม่ยอมให้ชายแดนไทยอยู่เย็นเป็นสุข จะพยายามยั่วยุ หรือก่อกวนไปเรื่อยๆ  ไม่ให้สงบ ด้วยการใช้โดรนบินเข้ามามั่ง หรือยิงกระสุนเข้ามาฝั่งไทยเป็นระยะๆ  เพื่อบีบให้ไทยบรรลุข้อตกลง แบ่งเขตชายแดนใหม่กับเขมร  ...

     เมื่อออกมาในรูปนี้ มันจึงยังความปลอดภัยที่จะอนุญาตให้พลเรือนไทยกว่า  150,000  คน ที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดนกับกัมพูชา  และถูกสั่งให้อพยพออกจากพื้นให้เดินทางกลับบ้าน ...

      มหาอำนาจตะวันตกจะสนับสนุนฮุนเซน ให้ทำกับไทยเหมือนกับที่สนับสนุนเซเลนสกี้ให้ทำกับรัสเซีย ทำให้มีความเสี่ยงว่า  สงครามไทยรบเขมร  จะกลายเป็นสงครามตัวแทนของมหาอำนาจ ....

      ฮุนเซนจะได้รับอาวุธยุทโปกรณ์ที่ทันสมัยกว่าไทย จะได้ไม่เกรงกลัวไทย หากต้องมีการปะทะกันใหม่ในขอบเขตที่รุนแรงขึ้น ในขณะเดียวกัน ก็จะกดดันให้ไทยต้องหยุดยิง หรือรักษาสันติภาพ ...

       ว่าที่ทูตอเมริกันประจำเมืองไทยคนใหม่  นายฌอน โอนีล  ได้เผยไต๋ออกมาแล้ว  ผ่านการให้การที่สภาเซเนทว่า เมื่อได้รับมอบหมายให้ไปเป็นทูตที่เมืองไทยแล้ว จะบอกกับฝ่ายไทยว่า อย่าไปทำสงครามกับเขมร เพราะว่า  มันไม่ก่อประโยชน์ใดๆ   ต่อคนไทย และไม่ได้ช่วยเสริมสร้างพันธมิตรของสหรัฐ และไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหา  หรือความท้าทายที่ทั้งสองประเทศเผชิญอยู่ ...

        แทนที่จะไปปรามหรือตำหนิเขมรที่เปิดฉากยั่วยุ และทำสงครามกับไทยก่อน โอนีล  กลับมุ่งที่จะเล่นงานไทยฝ่ายเดียว ?! 

     มีรายงานที่น่าเชื่อถือว่า มีระดับผู้นำไทยคนหนึ่ง  ที่ออกคำสั่งให้กองทัพไทย  ไม่ให้ตอบโต้เขมรในความขัดแย้งที่ผ่านมาอีกด้วย ทำให้กองทัพไทยต้องทำงานหนักภายใต้แรงกดดันทางการเมือง  ที่ไม่เป็นเอกภาพ กับกองทัพไทย  ในการดำเนินการเพื่อปกป้องอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพของดินแดนไทย ....

กองทัพไทย  จึงไม่มีทางเลือกที่ต้องมุ่งเน้นเพิ่มศักยภาพทางแสนยานุภาพ  ด้วยการจัดหาอาวุธยุทโปกรณ์ที่ทันสมัย รวมท้ังโดรนสอดแนม หรือโดรนพลีชีพ ซึ่งเป็นสิ่งที่เร่งด่วนที่สุดที่ควรทำ และในขณะเดียวกันต้องพยายามบาลานซ์อิทธิพลของมหาอำนาจผ่านความร่วมมือกับจีนมากขึ้น

By Thanong Khanthong

2/8/2025

Tweet

Admin Bee

สนับสนุน Misc.Today

นี่คือ ลิ้งค์พันธมิตร หรือที่เรียกว่า affiliate link ซึ่งหมายความว่า... หากคุณคลิ๊กลิ้งค์นี้ และซื้อผลิตภัณฑ์ อะไรก็ได้ ฉันจะได้ค่าคอมมิชชั่นเล็กน้อย สิ่งนี้จะช่วยสนับสนุนเว็บไซด์ และช่วยให้กำลังใจเราต่อไป

ลิ้งค์พันธมิตร > คลิ๊กที่นี่