ไทยจะแก้เกมอย่างไร ? กับกลเกมส์การจัดฉากสงครามเทียม ( Fake War) ระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่อำนวยการสร้างโดย ซีไอเอ แต่สร้างความเสียหายจริงให้กับชีวิตและทรัพย์สินในระดับที่เราไม่ได้เห็นมาก่อนในรอบหลายสิบปี ?
มีคำกล่าวภาษาอังกฤษที่น่าฟังว่า Never let a crisis go to waste. แปลว่า อย่าปล่อยให้วิกฤตสูญเปล่า ซึ่งสะท้อนภาษิตจีนโบราณที่ว่า "วิกฤตคือโอกาส .... "
ไทยควรใช้โอกาสที่วิกฤตของสงครามเทียมสร้างขึ้นมา เพื่อจัดการกับ "พระญาละแวก" ให้เด็ดขาด !!! จะได้ไม่เป็นหอกข้างแคร่กับไทยต่อไป
ในขณะเดียวกัน ก็เป็นจังหวะในการกวาดล้างนักการเมือง ข้าราชการ นักธุรกิจ นายทุนหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความเสียหายให้กับประเทศตลอดระยะเวลาหลาย 10 ปี ที่ผ่านมา ที่ทำมาหากินกับระบบประชาธิปไตย จนประเทศไทยแทบที่จะล่มจมแล้วในเวลานี้ ....
ในขณะที่ มาร์โก รูบิโอ รมว. ต่างประเทศสหรัฐ ส่งทีมงานพิเศษไปที่มาเลย์เซีย เพื่อช่วยกำกับการเจรจาหยุดยิงระหว่างนายกฯ อ้วนของไทย กับนายกฮุน จูเนียร์ ของกัมพูชาให้อยู่ในสกริ๊ปที่เตรียมเอาไว้ .... " กองทัพไทย" ต้องเดินหน้าทำสงครามกับทหารเขมรต่อ เพื่อปกป้องอำนาจอธิปไตยในบูรณภาพของดินแดนไทย ด้วยการขับไล่ทหารให้พ้นจากพื้นที่ที่เป็นดินแดนไทย .....
นายกฯ อ้วนอยากเจรจาก็เจรจาไป แต่ภาระกิจของกองทัพไทยจะไม่จบสิ้นจนกว่าไทยจะบรรลุเป้าหมายของผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ ( Strategic Interest ) ซึ่งหมายถึง การยึดคืนดินแดนไทยในอดีตที่สูญเสียไปให้ฝรั่งเศสในยุคล่าอาณานิคม และเวลานี้ตกเป็นของกัมพูชาโดยไม่มีความชอบธรรม ....
ดร.ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เขียนข้อความเอาไว้น่าสนใจว่า
".... ไทยมีความชอบธรรม ในการยึดพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ รวมทั้งประจันตคีรีเขตร์ และปราสาทพระวิหาร (ที่เราสงวนสิทธิ์ในการเรียกร้องคืน) ได้โดยทันทีจากกัมพูชา ...." !!!
“... ข้อตกลงวอชิงตัน ค.ศ. 1946 (Washington Accord 1946) คือความตกลงระงับกรณีระหว่างประเทศไทยกับประเทศฝรั่งเศส ซึ่งได้ลงนามกัน ณ กรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ.1946 (พ.ศ.2489) ซึ่งทำการยกเลิกอนุสัญญากรุงโตกิโอ (กรุงโตเกียว) ฉบับวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ.1941 เป็นข้อตกลงที่ไม่ผ่านการให้สัตยาบันของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2489 มาตรา 76 ดังนั้นข้อตกลงวอชิงตันจึงไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถยกเลิกอนุสัญญากรุงโตกิโอได้
“ด้วยเหตุนี้ พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ จึงยังคงเป็นดินแดนของประเทศไทย ที่เราสามารถสงวนสิทธิ์ ในการยึดคืนกลับมาได้ โดยชอบด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ หรืออย่างน้อย ประเทศไทยมีความชอบธรรม ที่จะต่อสู้ในเวทีสากล ระหว่างประเทศในการเข้าครอบครองดินแดนดังกล่าว ....
เพราะฉะนั้น ในสภาวการณ์การสงคราม (ที่ไม่ประกาศ) ระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชาในขณะนี้ จึงเป็นโอกาสที่ ประเทศไทยจะสามารถเข้ายึดคืนดินแดนอันประกอบด้วย พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ รวมทั้งประจันตคีรีเขตร์ และปราสาทพระวิหาร (ที่เราสงวนสิทธิ์ในการเรียกร้องคืน) ได้โดยทันที
“ผมขอเรียกร้องต่อฝ่ายกองทัพไทย ทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศอย่าปล่อยโอกาสครั้งนี้ให้หลุดมือไป โดยความอ่อนหัดของรัฐบาลไทย หรือกระทรวงการต่างประเทศไทย
“ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 นอกจากเราจะไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียวแล้ว ต้องเป็นการทวงคืนดินแดนที่เราได้สูญเสียไปในอดีตโดยปราศจากความชอบธรรมให้กลับคืนมาด้วย”
- ดร.ธีรภัทร์เขียนลงเฟสบุ๊ค
เป็นเวลากว่า 100 ปี ที่คนไทยรอคอยว่า เมื่อไหร่จะได้ดินแดน ??
พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ ประจันตคีรีเขตร์ รวมท้ังปราสาทพระวิหารที่ศาลโลกตัดสินเข้าข้างกัมพูชา คนไทยส่วนมากคิดว่า ไม่มีวันที่เราจะได้ดินแดนเหล่านี้กลับคืนมา แต่ความจริงก็มีคนไทยจำนวนอีกไม่น้อยที่เชื่อว่า ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไทยจะได้ดินแดนที่เสียไปในเหตุการณ์ รศ 112 กลับคืนมา ...
พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ ประจันตคีรีเขตร์ รวมท้ังปราสาทพระวิหารที่ศาลโลกตัดสินเข้าข้างกัมพูชา คนไทยส่วนมากคิดว่า ไม่มีวันที่เราจะได้ดินแดนเหล่านี้กลับคืนมา แต่ความจริงก็มีคนไทยจำนวนอีกไม่น้อยที่เชื่อว่า ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไทยจะได้ดินแดนที่เสียไปในเหตุการณ์ รศ 112 กลับคืนมา ...
อะไรที่เคยเป็นของเราต้องกลับมาเป็นของเรา ...
ถ้าหากกองทัพไทย ตั้งเป้าหมายของผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของประเทศดังนี้ ก็จะต้องเตรียมการในการทำสงครามที่ยืดเยื้อ หรือรุนแรงขึ้น ในการรุกเข้าไปในกัมพูชาเพื่อชิงดินแดนคืนมา แทนที่จะคอยปกป้อง หรือต้ังรับเหมือนในเวลานี้เป็นส่วนใหญ่ ...
เป้าหมายของผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์นี้ ของกองทัพไทย อาจจะไม่ตรงกับนโยบายของรัฐบาลของนายกฯอ้วน ในเวลานี้ ที่ต้องการหยุดยิงกับกัมพูชาตามกรอบของ “Controlled Conflict” หรือความขัดแย้งภายใต้การควบคุม เพื่อที่จะนำไปสู่ข้อตกลงเส้นแบ่งดินแดนใหม่ หรือแบ่งปันผลประโยชน์ของทรัพยากรพลังงาน โดยที่ไม่ได้รักษาผลประโยชน์ของประเทศ หรือสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของประเทศโดยรวม ...
ใน Controlled Conflict ในเวลานี้ที่สหรัฐเป็นคนกลาง ในการเล่นละครไกล่เกลี่ย ซึ่งแน่นอนเลยทีเดียวที่สหรัฐนอกจากเรื่องพลังงานน้ำมันแล้ว ต้องการใช้ทั้งไทย และกัมพูชาเป็นฐานทัพในการปิดล้อมจีนตามยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิค ....
หากกองทัพไทยเดินหน้าทวงดินแดนของพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ ประจันตคีรีเขตร์ รวมท้ังปราสาทพระวิหารคืน จะเท่ากับเป็นการแหกคอกออกจาก Controlled Conflict ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐ ....
ใน Controlled Conflict นี้ต้องการให้สงครามจบเร็วในขอบเขตบริเวณพรมแดน จะได้แบ่งผลประโยชน์ด้านทรัพยากรกันเร็วๆ หรือตั้งฐานทัพอเมริกันในทั้งสองประเทศต่อไป อย่างสะดวกโยธิน แน่นอนเลยทีเดียว ที่สหรัฐ ฝรั่งเศส หรือยุโรปจะให้การสนับสนุมกัมพูชาอย่างเต็มที่ท้ังการเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์ในกรณีที่เกิดสงครามกับไทยเต็มรูปแบบ
ถ้าหากกองทัพไทย ตั้งเป้าหมายของผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของประเทศดังนี้ ก็จะต้องเตรียมการในการทำสงครามที่ยืดเยื้อ หรือรุนแรงขึ้น ในการรุกเข้าไปในกัมพูชาเพื่อชิงดินแดนคืนมา แทนที่จะคอยปกป้อง หรือต้ังรับเหมือนในเวลานี้เป็นส่วนใหญ่ ...
เป้าหมายของผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์นี้ ของกองทัพไทย อาจจะไม่ตรงกับนโยบายของรัฐบาลของนายกฯอ้วน ในเวลานี้ ที่ต้องการหยุดยิงกับกัมพูชาตามกรอบของ “Controlled Conflict” หรือความขัดแย้งภายใต้การควบคุม เพื่อที่จะนำไปสู่ข้อตกลงเส้นแบ่งดินแดนใหม่ หรือแบ่งปันผลประโยชน์ของทรัพยากรพลังงาน โดยที่ไม่ได้รักษาผลประโยชน์ของประเทศ หรือสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของประเทศโดยรวม ...
ใน Controlled Conflict ในเวลานี้ที่สหรัฐเป็นคนกลาง ในการเล่นละครไกล่เกลี่ย ซึ่งแน่นอนเลยทีเดียวที่สหรัฐนอกจากเรื่องพลังงานน้ำมันแล้ว ต้องการใช้ทั้งไทย และกัมพูชาเป็นฐานทัพในการปิดล้อมจีนตามยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิค ....
หากกองทัพไทยเดินหน้าทวงดินแดนของพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ ประจันตคีรีเขตร์ รวมท้ังปราสาทพระวิหารคืน จะเท่ากับเป็นการแหกคอกออกจาก Controlled Conflict ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐ ....
ใน Controlled Conflict นี้ต้องการให้สงครามจบเร็วในขอบเขตบริเวณพรมแดน จะได้แบ่งผลประโยชน์ด้านทรัพยากรกันเร็วๆ หรือตั้งฐานทัพอเมริกันในทั้งสองประเทศต่อไป อย่างสะดวกโยธิน แน่นอนเลยทีเดียว ที่สหรัฐ ฝรั่งเศส หรือยุโรปจะให้การสนับสนุมกัมพูชาอย่างเต็มที่ท้ังการเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์ในกรณีที่เกิดสงครามกับไทยเต็มรูปแบบ
ไทยจะกลายเป็นรัสเซีย1 กัมพูชาจะกลายเป็นยูเครน2 ไปทันที เหมือนกับสงครามตัวแทนระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ดำเนินมานานกว่าสามปีแล้ว ไทยจะถูกรุมกินโต๊ะเหมือนกับที่รัสเซียถูกนาโต้ และพันธมิตร รวมกันกว่า 32 ประเทศรุมแบบหมาหมู่ผ่าน proxy war กับยูเครน ...
ส่วนกัมพูชา จะได้รับสรรเสริญเยินยอจากนานาชาติของฝ่ายตะวันตกว่า เป็นประเทศเล็กที่ถูกประเทศใหญ่กว่ารังแก เพราะว่าไทยบุกรุกเพื่อช่วงชิงดินแดน คล้ายๆ กับรัสเซียที่ทำสงครามกับยูเครน เพื่อช่วงชิงไครเมีย และแคว้นดอนบาสส์ทางตอนใต้ และตะวันออกของยูเครนที่เคยเป็นดินแดนของรัสเซียกลับคืนมา
ไทยจะถูกแซงชั่น กัมพูชาจะได้อาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงจากตะวันตก ....
หากไทยไม่ได้จีนสนับสนุน เหมือนกับที่รัสเซียได้รับการสนับสนุนจากจีน ไทยก็จะพ่ายแพ้แบบบอบช้ำที่สุดจากการถูกรุมกินโต๊ะ ....
ในที่สุด ไทยก็มาถึงทางสองแพร่ง
- ทางแรก คือ เล่นตามเกม Controlled Conflict ต่อไป ผลที่ตามมาจะสูญเสียอำนาจอธิปไตยเหนือบูรณภาพของดินแดน และกลายเป็นบริวารประเทศของสหรัฐในยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิค ที่ออกแบบมาเพื่อปิดล้อมจีนทางทหาร หากมาในแนวทางนี้ในอนาคตอาจจะสิ้นชาติได้ในยุคหลังสงครามโลก
- ทางสอง คือ ต้องเดินหน้าทำสงครามกับกับพูชาต่อไป จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายของผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งจะมีความเสี่ยงว่า จะถูกมหาอำนาจตะวันตกรุมกินโต๊ะ โดยที่ผลลัพธ์สุดท้ายไม่มีความแน่นอนว่าเราจะชนะ หรือประสบกับหายนะมากน้อยเพียงใด ....
สรุปง่ายๆ ในเวลานี้ไทยยอมถอยก็อาจจะล่มจม หรือสิ้นชาติได้ หากเดินหน้าสู้ต่อ ก็จะถูกรุมทึ้งจนเหลือแต่กระดูก ทั้งขึ้นท้ังล่อง สู้ก็ตาย ไม่สู้ก็ตาย แต่เมื่อรู้ว่าต้องตาย น่าจะสู้ดีกว่า
By Thanong Khanthong
28/7/2025
นี่คือ ลิ้งค์พันธมิตร หรือที่เรียกว่า affiliate link ซึ่งหมายความว่า... หากคุณคลิ๊กลิ้งค์นี้ และซื้อผลิตภัณฑ์ อะไรก็ได้ ฉันจะได้ค่าคอมมิชชั่นเล็กน้อย สิ่งนี้จะช่วยสนับสนุนเว็บไซด์ และช่วยให้กำลังใจเราต่อไป
.jpg)
