โครงการนอนสามัคคี คือ โครงการเพื่อ "การกลืนชาติ"
โครงการนอนสามัคคี & โครงการนอนส่องแสง ยุคคอมมิวนิสต์ปลดปล่อยอินโดจีน
โครงการนอนสามัคคี คือ โครงการเพื่อ "การกลืนชาติ" กล่าวคือ เวียดนามต้องการกลืนชาติ เขมร ลาว ไทย และประเทศอื่นๆ ตามลำดับ ทั้งนี้ เพื่อเชื้อชาติญวนจะได้มีมากที่สุดในอินโดจีนและในแหลมทอง และในที่สุดญวนหรือเวียดนาม ก็จะมีอิทธิพลยึดครอง และเป็นประเทศใหญ่ที่สุดประเทศหนึ่งในเอเซีย คือ สาธารณรัฐแหลมทองตามแผนการที่วางไว้
โครงการกลืนชาตินั้น ก็เช่นเดียวกับการกลืนชาติลาว มีโครงการ 2 โครงการ คือ โครงการนอนสามัคคี โดยโครงการนี้ จะเอาผู้หญิงเขมรทั่วๆไป ไปหลับนอนกับทหารญวน เพื่อผสมพันธุ์กัน โครงการนี้พิจารณาเฉพาะเรื่องสุขภาพอนามัยเท่านั้น
พรรคคอมมิวนิสต์เขมร นั้น เมื่อเทียบกับ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเหนือ แล้ว ก็นับว่าเล็กกว่าหลายเท่า ลำพังเขมรแดงแล้ว ไม่อาจจะเอาชัยชนะเหนือเขมรขาวได้ ดังนั้น กองกำลังผสม หรือกองกำลังสากล หรือ กองทหารปลดปล่อยอินโดจีน ซึ่งมีศูนย์บัญชาการกลางอยู่ที่ฮานอย ก็ได้ตัดสินใจเอากองกำลัง คอมมิวนิสต์สากล ซึ่งมีกองทัพเวียดมินห์ หรือ เวียดนามเหนือเป็นหลัก จำนวน 8 หมื่นคน เข้าตีเขมรตั้งแต่เดือน มีนาคม 2515
ในประเทศเขมรนั้น เดิมเคยมีญวนอพยพ หรือ ญวนพลัดถิ่น อาศัยอยู่ก่อนแล้ว ประมาณ 8 หมื่นคน เขมรมีประชากรเพียงไม่ถึง 8 ล้านคน แสดงว่าชาวญวนอยู่ในเขมรมีอัตราส่วนเมื่อเทียบกับประชากรแล้วสูงกว่าในประเทศไทย ญวนที่อยู่ในเขมรก่อน จำนวน 8 หมื่นคนนั้น เป็นพวกเวียดมินห์ประมาณ 2 หมื่นคน ดังนั้น เมื่อเอากองทหารจากกองกำลังสากลลอีก 8 หมื่นคน ซึ่งเป็นเวียดนามเหนือไปรวมเข้ากับพวกเวียดมินห์ เป็นจำนวน 1 แสนคน รวมกันเข้ากับกองกำลังเขมรแดงฝ่ายกองกำลังสากล ภายใต้การนำของนายเขียว สัมพัน และนายพอล พต ซึ่งมีอยู่แล้วประมาณ 17,000 คน
สรุปแล้ว ฝ่ายคอมมิวนิสต์มีกำลังรบ 117,000 คน สู้กับกองกำลังรบของเขมรขาวซึ่งมีจำนวน 110,000 คน เช่นนี้ฝ่ายคอมมิวนิสต์ก็เป็นฝ่ายได้เปรียบ และนอกจากนั้นพวกข้าราชการ กับ ประชาชนที่นิยมองค์สีหนุ ก็ได้หันไปสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์ ตามคำเรียกร้องขององค์สีหนุ ทำให้ฝ่ายคอมมิวนิสต์ได้เปรียบมากขึ้น ประกอบกับฝ่ายขวาที่ขาดอุดมการณ์ ขาดการตื่นตัวทางการเมือง และ หลงกลคอมมิวนิสต์อยู่แล้ว จึงเป็นพลังตายด้านไป และในที่สุด เมื่ออเมริกาถอนกำลังทหารออกไปจากเอเซียตามแผนการเดินงานของรัสเซีย ที่กระทำต่อนักการเมืองอเมริกัน จนเป็นเหตุให้รัฐสภาอเมริกัน ถอนกำลังทหารออกจากเอเซียนั้น ก็นับว่าเป็นการเปิดประตูคอมมิวนิสต์ วิ่งเข้าสู่ชัยชนะได้ และในที่สุดเขมรก็ต้องตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของคอมมิวนิสต์ 17 เมษายน 2518 เป็นต้นมา
เขมรต้องตกไปอยู่ภายใต้อิทธิพล การปกครองระบอบคอมมิวนิสต์
คือถูกคอมมิวนิสต์ยึดครองนั้น ไม่ใช่เพราะเขมรแดงล้วนๆ หากแต่เป็นเพราะกองกำลังคอมมิวนิสต์สากล เข้ายึดครอง ซึ่งมีทหารเวียดนามเหนือเป็นหลัก มีพรรคคอมมิวนิสต์เขมร และ ญวนเวียดมินห์ ในเขมรร่วมด้วย ขณะนั้นในเขมรมีทหารเวียดมินห์อยู่ประมาณ 6 กองพล ซึ่งพร้อมที่จะเข้ารบในประเทศไทย พลพรรคเหล่านี้มีชื่อว่า " หน่วยอาสาสมัครตาย " หรือที่เรียกว่ากองกำลังปลดปล่อยอินโดจีนนั่นเอง
ในระหว่างสู้รบซึ่งมีกำลังรบของเวียดนามเหนือ เข้าไปในเขมร เวียดนามเหนือได้ใช้โอกาสนี้ฆ่าผู้ชายเขมรไปประมาณ 75,000 คน ทั้งนี้เพื่อจะลดจำนวนผู้ชายเขมรลงให้มากที่สุด
เพื่อที่จะเหลือผู้หญิงเขมรเอาไว้แล้ว ให้ผู้ชายเวียดนามเหนือไปผสมพันธุ์กับผู้หญิงเขมร และเด็กที่เกิดมาก็จะมีความนิยมฝ่ายพ่อด้วย... การกระทำเช่นนี้เรียกว่า "การกลืนชาติ"
อีกโครงการหนึ่ง คือ โครงการนอนส่องแสง
โครงการนี้เป็นแผนการผู้ใหญ่ในพรรคคอมมิวนิสต์ หรือ ผู้มีตำแหน่งสูงในพรรคคอมมิวนิสต์ ต้องการร่วมหลับนอนกับเด็กสาวอายุ 17 - 21 ปี
โดยอ้างว่า... เพื่อที่จะให้ผู้ใหญ่ในพรรค ได้อบรมสั่งสอนให้เด็กสาวมีความรู้ เรื่องการต่อสู้ของชนชั้นกรรมมาชีพ เป็นกงล้อประวัติศาสตร์และสัจธรรม ถ้าได้ร่วมหลับนอนกับผู้ใหญ่ดังกล่าวแล้ว ก็จะเกิดแสงสว่างไสว มีความเข้าใจเรื่องคอมมิวนิสต์ดีขึ้น จึงเรียกว่า " โครงการนอนส่องแสง "
สรุปแล้วทั้งโครงการนอนส่องแสง และ โครงการนอนสามัคคี เป็นโครงการกลืนชาติเขมร และ โครงการกลืนชาติลาวนั่นเอง และหากกองกำลังสากลได้ชัยชนะต่อประเทศไทยก็คงจะต้องใช้โครงการนี้ในประเทศไทยเช่นเดียวกัน..........
หนังสือ แผนชิงชาติ : Our Great Spring Victory
แผนชิงชาติ ผลิตผลหนึ่งหลังสงครามเวียดนามสิ้นสุดลง เขียนขึ้นโดย พลเอก วัน เทียน ดุง นายทหารคนสำคัญแห่งกองทัพประชาชนเวียดนาม และเป็นบุคคลสำคัญผู้นำและวางแผนในสงครามการรุกในฤดูใบไม้ผลิ เดือนสิงหาคม 2518 อันนำมาสู่การปิดฉากประวัติศาสตร์สงครามเวียดนามใต้
ที่มา : จากหนังสือเรื่อง " แผนญวนยึดไทย "
เขียนโดยท่าน ประสิทธิ์ ไชยทองพันธ์ พิมพ์เผยแพร่เมื่อ 12 กันยายน พ.ศ. 2519
Smart Wallet bi-fold
100% Handstitcing Made with 💖
กระเป๋าสตางค์หนังแท้ ที่ใช้กรรมวิธี การตัดเย็บด้วยมือ ( Hand-stitcing 100% ) จากวัสดุหนังแท้ ชนิดฟอกฝาด ที่มีคุณลักษณะ ของความแข็งแกร่ง ทำให้มีอายุการใช้งานสูง ดีไซน์การออกแบบที่เน้นความเรียบง่ายกระทัดรัด ช่อง full-lengthbillfold อยู่ด้านนอก
>> ดูเพิ่มเติม
สถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ไม่ต่างจาก”สงคราม” โดยผู้คนรับรู้(เพียง)ว่ามีความรุนแรงเกิดขึ้นแบบ วันนี้มีการวางระเบิดกี่ลูก มีคนตายกี่ศพ บาดเจ็บเท่าไร? ขณะที่”ความจริง”ก็คือ ยังไม่เคยมีใครมา”ตอบคำถาม”ได้ว่า”ไฟใต้”ที่กำลังเผาด้ามขวาน เกิดจากอะไร ใครเป็นมือเพลิง หรือ”รับงาน”จากใคร