ผมทำงานในวงการเพลง ในฐานะคอมโพสเซอร์ นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 งานโปรดิวซ์ครั้งแรก คือ งานชุดคนเขียนเพลงบรรเลงชีวิตของเธนศร์ วรากุลนุเคราะห์
ผมได้เห็นวัฏจักรวงการเพลงมาตั้งแต่ยุคเก่ารุ่นพ่อ ช่วงปลายๆ ต่อเข้ายุคมืด ที่นายทุนเอาเปรียบนักแต่งเพลงรุ่นครู จ่ายสองสามพันบาท เป็นค่าจ้างแต่งเพลง แล้วถือครองสิทธิ์ตลอดกาลจนถึงลูกเต้ามัน ... !!!
ในช่วงก่อนยุคเปลี่ยนผ่านครั้งที่หนึ่ง เรียกว่า ยุคปฏิวัติวงการ ก็ได้ (มันจะมีครั้งที่สอง ที่เรียกดิสรัพชั่น) ผมกำลังเรียนรู้ อยู่ที่บริษัทบัตเตอร์ฟลาย ความที่มีครูดีเป็นแบบอย่าง ได้เรียนรู้ระบบแบบฝรั่งว่าเป็นอย่างไร ทำให้เราเข้าใจกลไกของมัน รู้แล้วก็อยากจะสร้างความเปลี่ยนแปลง เลยริเริ่ม ไปเรียกร้องกับนายทุนมาเฟียค่ายเพลงคนนึง ที่วงที่ผมไปเล่นอยู่ด้วยสังกัดอยู่ กำลังจะมีการทำงานชุดใหม่ ก็เลยไปเสนอว่า อยากให้มีการจ่ายค่าผลิตอย่างเป็นธรรม ทั้งเรียบเรียง คำร้องทำนอง มิกซ์เสียง ค่าควบคุมการผลิตต่างๆ รวมทั้งขอส่วนแบ่งจากยอดขาย ผลคือ "มึงหัวหมอหรือ ?"
งานหยุดชะงัก... พวกผมถูกแบนจากสังกัดนั้น จนภายหลังพากันออกมาตั้งชื่อวงว่า "วงตาวัน" แต่ไม่วายยังโดนไอ้เสี่ยคนนั้น ตามมากลั่นแกล้งภายหลังได้ ตอนที่ออกผลงานชุดแรกของ วงตาวัน หุ่นกระบอก แม้จะสังกัดแกรมมี่แล้ว แต่ต้องขายกับบริษัทจัดจำหน่ายของพวกมัน ( แกรมมี่ยังไม่มีระบบจัดจำหน่ายในตอนนั้น) เอ็มจีเอ เกิดขึ้นในภายหลัง
.... เสี่ยมันให้สถานีวิทยุในเครือของมันมาเรียกวงไปสัมภาษณ์ เสร็จแล้วเรียกไปเชือดที่ห้องทำงานมัน แล้วบอกเราว่า "มึงคิดว่าจะหนีกูพ้นหรือ" ?
ตอนนี้มันเป็นคนจัดจำหน่ายอัลบั้มของพวกผม มันคุมยี่ปั๊ว ซาปั๊ว สถานีวิทยุทั่วประเทศ มันว่าอย่าหวังเลยว่ามึงจะขายได้ และกูจะไม่ให้สถานีวิทยุของกู ที่มึงเห็นปักหมุดอยู่เต็มบนแผนที่ประเทศไทยนั่นเล่นเพลงของพวกมึง ... มันกดอินเตอร์คอมหาเลขาฯ และถามว่า ....
"เฮ้ย ไอ้อัลบั้มหุ่นกระป๋องนี่ขายได้เท่าไหร่แล้ววันนี้... ?
สองพันค่ะ...
... สองพัน! มึงได้ยินไหม มึงคงขายได้ประมาณนี้แหละ อย่าหวังว่าจะมากกว่านี้"
สองพันค่ะ...
... สองพัน! มึงได้ยินไหม มึงคงขายได้ประมาณนี้แหละ อย่าหวังว่าจะมากกว่านี้"
พี่หมูมือกีต้าร์เลือดขึ้นหน้าเกือบลุกขึ้นเตะก้านคอมัน แต่รู้ว่าอยู่ในตึกมัน หากไปกระทืบมันเข้า วงตาวันวันนั้นคงหามใส่เปลกันออกมาจากตึกนั่นทั้งวง
นายทุนยุคมืด มีความระยำเช่นนี้ ศิลปินคนไหนขายได้ มันแจกสร้อยทอง แจกเงินให้ตามความพอใจ ขายดีมากมันให้กุญแจรถไปขับ หมดพิสวาทก็เรียกกุญแจคืน ชอบนักร้องหญิงของวง ก็เอาทำเมีย ไม่มีส่วนแบ่งจากการขายใดๆ ทั้งสิ้น มีเสี่ยในวงการยุคมืด อยู่สองสามคนที่รู้จักกันนับแต่เวลานั้น """
การดำเนินธุรกิจด้วยความเป็นธรรมในวงการเพลงนั้น เป็นสิ่งที่หาแทบไม่ได้จากเถ้าแก่พวกนี้ เจ่กแปะพวกนี้ โน๊ตตัวเดียวก็ไม่กระดิก แต่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์นับร้อยนับพันเพลงไปได้อย่างน่าขนลุก ....
นักแต่งเพลง ไม่เคยถูกให้เกียรติ ทั้งที่ธุรกิจนี้จะอยู่มีไม่ได้เลย หากไม่มีคนสร้างสรรค์ .. แต่สิทธิ์ผู้ประพันธ์ของผู้สร้างสรรค์ กลับกลายเป็นของนายทุนพวกนี้ นับจากนาทีนั้น ผมสาบานกับตัวเองว่า จะดิ้นให้หลุดจากบ่วงอุบาทว์ นี้สักวัน รวมทั้งกฏหมายที่ว่าด้วย การจ้างทำของ และแน่นอนว่า ผมพบทางสลัดหลุดจากวังวนพวกนี้ได้ในที่สุด ....
คุณธรรม กรรมใดที่ใครก่อ
ย่อมบ่งชี้เจตนาของบุคคลนั้น
และบุคคลย่อมต้องรับผลนั้นในสักวัน
ไม่ช้าก็เร็ว.....
วันนึง เมื่อผมดำเนินอาชีพของผม มาถึงจุดที่เป็นคอมโพสเซอร์ที่มีค่าตัวแพงที่สุดคนนึง ดนตรีผมหนึ่งนาที มีราคาประมาณแสนบาท ผมรับดนตรีประกอบภาพยนตร์เรื่องละหนึ่งล้านบาท และไม่เคยเสียสิทธิ์ผู้ประพันธ์ไปให้ใครอีกเลย
วันนั้น ที่งานออกร้านของนักโทษกรมราชทันฑ์ มีพ่อค้าแม่ค้า มาร่วมเปิดท้ายขายของ ผมเห็น ไอ้เสี่ยระยำที่เคยยิ่งใหญ่นั่น หอบกล่องอัลบั้มเพลงเก่าๆ ทั้งเทปเก่าและซีดีเก่า มาขายถูกๆ น่าสมเพชที่เมืองไทยมาถึงจุดพินาศ เพราะมีเทปผีซีดีเถื่อนเกลื่อนเมือง ซึ่งพวกเพื่อนเสี่ยในยุคของมันบางคนก็มีส่วนในธุรกิจผีพวกนี้... ผมเห็นมันนั่งหน้ามัน อยู่ข้างแผง และกล่องอัลบั้มแทบไม่มีใครซื้อ เพลงพวกนี้มีโหลดได้ฟรีๆ ทั่วไปหมด ผมไปหยุดยืนดูมันหัวจรดตีน ด้วยใบหน้าเหยียดหยาม สะใจสุดๆ ยามรุ่งเรืองฟุ้งเฟ้อใช้ชีวิตสุดโต่ง ยามตกต่ำสิ้นไร้มีแต่หนี้สิน ....
ทำไมผมถึงรำลึกถึง พี่เต๋อ ด้วยความยกย่องเสมอ ก็เพราะเหตุนี้ ระบบที่ดีกว่าเป็นธรรมกว่า อย่างที่ผมไปพลีชีพเรียกร้องกัน ในที่สุดเกิดขึ้นเพราะพี่เต๋อ ไปก่อตั้งแกรมมี่ แล้วสร้างระบบแบบนี้ขึ้นมา ได้สำเร็จ !!!
ทำไมผมถึงรำลึกถึง พี่เต๋อ ด้วยความยกย่องเสมอ ก็เพราะเหตุนี้ ระบบที่ดีกว่าเป็นธรรมกว่า อย่างที่ผมไปพลีชีพเรียกร้องกัน ในที่สุดเกิดขึ้นเพราะพี่เต๋อ ไปก่อตั้งแกรมมี่ แล้วสร้างระบบแบบนี้ขึ้นมา ได้สำเร็จ !!!
ทีมผลิต มีค่าผลิตเป็นสัดส่วนครบถ้วน ตามหน้าที่แบบฝรั่ง และมีการแบ่งเปอร์เซ็นต์จากยอดขายให้ผู้ประพันธ์ และโปรดิวเซอร์
**ผมไม่ยกย่องคุณไพบูลย์ในข้อนี้หรอก เพราะระบบเช่นนี้ บังเกิดขึ้นได้เพราะพี่เต๋อ ไม่ใช่พี่บูลย์ ถ้าพี่บูลย์ไม่ยอมรับ ให้สร้างระบบธุรกิจเช่นนี้ พี่เต๋อคงไม่เอาด้วย และพวกพี่ๆ จากบัตเตอร์ฟลาย ก็คงจะไม่ไปเป็นกำลังผลิตให้ บริษัทแกรมมี่ ก็จะไม่เกิด พอแกรมมี่เริ่มระบบนี้ ทุกค่ายเพลงต้องเดินตาม เปลี่ยนมาใช้ระบบแบบเดียวกันทุกค่าย .... เอาตรงๆ เขาไม่ได้อยากเปลี่ยนกันหรอกนะ แต่มันจำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะแกรมมี่แจ้งเกิดสำเร็จ แล้วแซงทุกค่ายจนใครๆ ก็อยากไปอยู่ที่นั่น ค่ายอื่นก็ต้องปรับตาม ต่างกันเล็กน้อยที่บางพวกยังจ้องเอาเปรียบอยู่ แม้แต่ค่ายมาเฟีย ก็ต้องปรับตาม ไม่เช่นนั้นศิลปินทุกคน คนมีฝีมือจะเดินไปที่แกรมมี่หมด กระนั้นพวกเสี่ยนั่น ก็ปรับตัวได้ไม่ดี ผลประโยชน์ยังเอาเปรียบ ค่าผลิตและส่วนแบ่งต่ำกว่าที่อื่น และคุณภาพงานไม่ดี ...
อย่างไรก็ตาม มีรุ่งเรืองก็มีเสื่อมถอย
อย่างไรก็ตาม มีรุ่งเรืองก็มีเสื่อมถอย
สำหรับผม มันเริ่มเสื่อมลงเมื่อมี mp3 แต่ยิ่งเสื่อมกว่าหลังจากพี่เต๋อเสียชีวิต.. หนึ่งปีให้หลังจากนั้น ผมก็ลาออกจากแกรมมี่ มูลเหตุของการลาออก น่าจะเคยเล่าให้บางคนฟังบ้างแล้ว พวกเราทีมผลิตที่อยู่ในทีมใบตองได้รับอนุญาตให้ขึ้นลิฟท์ตัวเดียวกับที่พี่เต๋อพี่บูลย์ขึ้น วันหนึ่งผมเจอพี่บูลย์ ตอนนั้น เราแยกจากแกรมมี่แกรนด์ มาตั้งเป็นอีกเลเบลหนึ่งคือ RPG (Rewat's Producer Group) แล้ว ในลิฟท์พี่บูลย์พูดกับผม...
"พี่ปุ้ม.. ผมว่าเราต้องทำงานหนักให้เป็นสองเท่าเพื่อกำไรเท่าเดิม ต้องผลิตให้เร็วขึ้น... ผมว่าอย่างพี่เอาตีนเขี่ยแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว... เก่งไม่กลัวกลัวช้า..."
ผมจำประโยคนี้แจ่มชัด แม้ผ่านไปยี่สิบปี พวกเราไม่ได้ช้า ไม่มีใครในตึกมีทักษะทางดนตรี และทักษะทางเทคนิคัลเท่าพวกเราอีกแล้ว เราทำงานละเอียด แม้แต่เสียง Snare แค่แทร็คเดียว เรายังพิถีพิถัน เลือกกันอยู่หลายชั่วโมง ทุกเทคทุกแทร็ค ปราณีต เล่นและบันทึกอย่างตั้งใจ มันปลูกฝังกันมาจากการทำงานกับพี่ๆ กับครูของเรา และพี่เต๋อ ทุกวันนี้ย้อนไปฟังงานยุคนั้นดูได้ คุณภาพเสียงยังดีอยู่เลย ความตั้งใจนี้เป็นสันดาน และ มัน "เอาตีนเขี่ยไม่ได้..." ผมออกจากลิฟท์วันนั้น แล้วตรงไปลาออก กับโอม ชาตรี คงสุวรรณ ซึ่งนั่งแท่นเป็น managing director อยู่ ...
เพียงหนึ่งปีให้หลัง
การเสียชีวิตของพี่เต๋อ
เพียงหนึ่งปีให้หลัง
การเสียชีวิตของพี่เต๋อ
ผมรู้สึกได้เลยว่า..
คุณธรรมที่เคยมีก็เสื่อมลง...
คุณธรรมที่เคยมีก็เสื่อมลง...
ผมรู้ทันทีว่าถึงเวลาต้องไป จากวันนั้นเป็นต้นมา ผมรู้ว่าแกรมมี่จะเสื่อมถอยลง อีกปีต่อมา ผมกับเพื่อนชื่อฝิ่น คณิต พฤกษ์พระกานต์ ซึ่งเป็นคนลงทุน เราเปิดสถาบันผลิตบุคคลากรสายอาชีพบันเทิงชื่อ Gen-X Academy เปิดอยู่ 14 ปี สอนวิชาที่ไม่เคยมีสอนในมหาวิทยาลัยเมืองไทยมาก่อน นอกจากที่ต่างประเทศ เช่น Songwriting, Arranging, Computer Music, Studio Sound Engineer, Live Sound Engineer, Film Scoring, Sounddesign, Video Post Production, Motion Graphics...
เราผลิตบุคคลากรให้กับวงการบันเทิงอาชีพไปนับพันคน ผลิตนักแต่งเพลงไปประมาณสองร้อยกว่าคนเป็นอย่างน้อย ซาวด์เอนจิเนียร์สตูดิโอไม่ต่ำกว่าสามร้อยคน ไลฟ์ซาวด์เอนจิเนียร์อีกไม่ต่ำกว่าสามร้อยคน ยังไม่นับสาขาอื่นเช่น คอมพิวเตอร์กราฟฟิค นักตัดต่อวิดิโอ ทีวีรีพอร์ตเตอร์ ดีเจ นักพากย์...
จนกระทั่งมหาวิทยาลัย-วิทยาลัยทั่วทั้งประเทศเกิดการปรับตัวครั้งใหญ่ บรรจุการสอนวิชาเหล่านี้เข้าในระดับปริญญาตรีของคณะดนตรีทุกแห่ง มีห้องอัด มีแลบคอมพิวเตอร์ให้นักศึกษาใช้ ในที่สุดพวกเขาทำตามทุกอย่างที่เรานำร่องมาก่อน แม้ธุรกิจจบ แต่ผมกลับภูมิใจที่ภารกิจจบ GenX Academy ปิดลงเพราะเราไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปแล้ว สิ่งที่เราทำมันได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นผลไปทั่วอย่างที่เราอยากเห็น ....
มันปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ผลลัพธ์จากการได้แบบอย่างที่ดีมาก่อนหน้านั้น มันได้ขยายผลอย่างเป็นรูปธรรมในภายหลัง ตอนอยู่ที่บัตเตอร์ฟลาย พี่ๆ ทำโรงเรียน B.I.T. กัน ให้ผมเห็นเป็นตัวอย่าง สอนกันอยู่หลายรุ่น ผมได้ช่วยสอนเรื่อง Synthesizer พอมาทำงานกับพี่เต๋อ ไม่ว่าพี่เขาจะมีงานบริหารตื่นเช้าเพียงใด ตกเย็นพี่เต๋อ จะมาขลุกอยู่กับพวกเรา ที่สตูดิโอแทบทุกวัน มีเรื่องมากมายที่ผมได้เรียนรู้ ตอนนั้นยึดหัวหาดที่ห้องอัดศรีสยาม เป็นหลัก
ผมยังจำประโยคที่พี่เต๋อพูดตอนที่ทานอาหารร่วมกันในคืนหนึ่ง ผมอยู่กับทีม และมีน้องๆ รุ่นใหม่บางคนกำลังเรียนรู้การทำงาน ดูเหมือนวันนั้นจะมีก๊อล์ฟวายนอทเซเว่น... พี่เต๋อพูดว่า ...
"เราต้องสอนน้องๆ ต้องสร้างน้องๆ รุ่นใหม่ที่คิดเหมือนเรา ตั้งใจทำงานให้ดีมีคุณภาพ เชื่อในมาตรฐานการทำงานแบบที่เราทำ"
คุณธรรมในวงการเพลง ไม่ใช่สิ่งที่หาได้ง่ายโดยทั่วไป แม้เคยเจอกับพวกยุคมืด แต่ผมก็ยังโชคดี ที่เห็นมันในยุคของพี่เต๋อ และการทำงานกับพี่ๆ หลายคน ผมมีน้องๆ ที่รู้จักชอบพอกันหลายคนอยู่ในค่ายเพลงอื่น ผมมักจะได้ยินเสียงสะท้อนออกมาให้รู้เสมอ หลากหลายเรื่องราว.. อย่างหนึ่งที่มักได้ยินจากฝั่งของอาร์เอส พูดตามจริง ไม่ค่อยดีนัก การดูแลชีวิต และให้เกียรติคนทำงานผลิตไม่ได้ดีเท่าไหร่ ความเป็นธรรมในการจ้าง ส่วนแบ่งในรายได้ ที่สำคัญคือ การปันผลให้คนสร้างสรรค์ ไม่ค่อยดีนัก และลิขสิทธิ์อยู่กับนายทุนหมด ผู้ประพันธ์ไม่มีสิทธิ์เลย อย่างน้อยก็ได้ยินมาอย่างนั้น อย่างที่เคยเป็นข่าวไป ผู้แต่งไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเล่นเพลงที่ตัวเองสร้างขึ้น เพราะสิทธิ์ไปอยู่กับเสี่ยเจ้าของค่าย ... และน่าทุเรศคือ มันฟ้องผู้แต่งที่เอาเพลงที่ตนเองแต่งมาเล่นโดยไม่ขออนุญาตมัน... !!! ยังดีที่แกรมมี่ถือลิขสิทธิ์ร่วมกันกับผู้ประพันธ์ แม้ว่าระบบจะไม่มีการปรับระดับเพดานให้ดีมากขึ้นตามกาลเวลา และค่าครองชีพ แต่ระบบจัดเก็บ และดูแลพับลิชชิ่งของแกรมมี่ยังคงทำงานมาตลอด และยี่สิบปีที่ผ่านมายังคงมีส่วนแบ่งโอนเข้าบัญชีเสมอไม่ได้ขาด มากบ้างน้อยบ้าง ....
มีนายทุนสายบันเทิงไม่น้อย
ที่ผมรู้เช่นเห็นชาติมาแต่โบราณ
ต้องใช้คำนี้ เช่น บริษัทหนึ่ง ที่โดดเด่นในการทำคาราโอเกะ มีนางแบบโป๊เดินอล่างฉ่างประกอบ แบ๊คกิ้งแทร็ค วันนึง ร่วมกับบริษัทญี่ปุ่น ที่มีเน็ทเวิร์คโฟโต้บุ๊ค วัยรุ่นนุ่งน้อยห่มน้อยซึ่งบางที น้อยมาก... ทำค่ายไอดอลข้ามชาติกัน
ผมเคยพยายามเตือน ผลคือทัวร์ลง !!! ไม่มีใครรู้ว่า สัญญาที่เซ็นต์นั้นครอบคลุมการเป็นเจ้าของตัวตนไปจนถึงภาพถ่ายเซลฟี่ส่วนตัวของศิลปินในสังกัดคนนั้น พวกนั้นสามารถอ้างได้แม้ลิขสิทธิของภาพที่เป็นส่วนตัว ในพื้นที่การทำงาน เช่น คอนเสิร์ท การปรากฏตัวในที่ต่างๆ ฯ เขาไม่อนุญาตให้ช่างภาพอื่นที่เป็นคนนอกถ่ายภาพเลย แต่จะมีช่างภาพของเขาเท่านั้นที่จะตามถ่ายตลอดเวลา แม้จะเป็นเวลาและพื้นที่ ที่ไม่สมควรถ่าย ก็จะถูกถ่ายไปได้ คลังภาพจำนวนมากถูกเก็บไว้ และเป็นสิทธิของเขาตามกฏหมาย และคุณไม่มีทางรู้ว่ามีภาพอะไรที่ไม่ควรถ่ายถูกถ่ายเก็บไว้ !!!
คุณธรรมในวงการนี้หายากมาก
และยิ่งในยุคนี้ คุณจะยิ่งสิ้นหวังมากขึ้นไปอีก เพราะมาตรฐานทางจริยธรรมของมนุษย์ตกต่ำมาก ไม่กี่วันมานี้ มีคุณแม่คนหนึ่ง ออกมาพูดออกสื่อโซเชียลแทนลูกชายที่โดนคดีทำร้ายผู้หญิงว่า...
"อย่าให้เรื่องทะเลาะกันของชายหญิง มาทำให้อนาคตเสียเลย มันเล็กน้อยมาก ขอให้คิดว่าน้องเขาเป็นเด็กเรียนดี เรียนเก่ง ให้ดูที่การเรียนของน้องเป็นสำคัญ เรื่องอื่นมันเล็กน้อย"....
นี่คือตรรกะของสังคมที่ป่วย และผู้คนขาดวิจารณญาณในการพิจารณาชั่วดี ....
กรรมเป็นตัวกำหนด คนที่ทำกรรมใดไว้จะได้รับผลของกรรมนั้นแล...
กราบขอบพระคุณ พี่ๆ และครูอาจารย์ที่ปูทางให้โลกของผมตลอดสามสิบกว่าปีที่ผ่านไป มีความดีงามและอุ้มชูผมมาตลอดอาชีพการทำงาน
ขอภาวนาให้สิทธิผู้ประพันธ์คืนกลับไปยังผู้สร้างสรรค์ทุกท่าน
กรรมเป็นตัวกำหนด คนที่ทำกรรมใดไว้จะได้รับผลของกรรมนั้นแล...
กราบขอบพระคุณ พี่ๆ และครูอาจารย์ที่ปูทางให้โลกของผมตลอดสามสิบกว่าปีที่ผ่านไป มีความดีงามและอุ้มชูผมมาตลอดอาชีพการทำงาน
ขอภาวนาให้สิทธิผู้ประพันธ์คืนกลับไปยังผู้สร้างสรรค์ทุกท่าน
บทความโดย : Pongprom Snitwong Na Ayuthaya
หุ้น RS ดิ่งหนัก ร่วง 14.29% ลดลง 0.07 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 0.42 บาท ผิดนัดชำระดอกเบี้ย 27 ล้าน ไตรมาส 1/68 ขาดทุนสุทธิเท่ากับ 274.6 ล้านบาท จากธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ที่อ่อนตัว ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย CB มีผล 19 พ.ค.2568