๒๐ ข้อ ที่คุณอ่านแล้ว จะรู้ว่า เราจัดเลือกตั้งไปทำไม ?
ทั้งหมดเกิดจาก ...
• เข้าใจผิด• ไม่รู้ / ไม่หาความรู้ / ไม่มีคนให้ความรู้ / ไม่เชื่อคนที่ให้ความรู้• หงุดหงิด• ผิดหวัง
เพียงตั้งสติแล้วฟัง
ก็จะ 'รู้' ได้ไม่ยาก, ว่า...
๑. การจัดการเลือกตั้ง ที่ใช้เงิน ๖,๐๐๐ ล้านบาทนั้น เป็นการจัดให้ราษฎรเลือก "ผู้แทน" ของเขา เป็นการเลือกตัวแทนประชากรในแต่ละพื้นที่ ไปทำงานร่วมกันใน "สภา" เรียกว่า "สภาผู้แทนราษฎร" โดยตัวแทนที่ได้รับเลือก เรียกว่า "สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร" หรือ ส.ส. นั่นเอง
๒. การจัดการเลือกตั้งดังกล่าว เป็นการให้ประชาชนเลือกผู้แทนหรือตัวแทน "ทางตรง" คือ เลือกด้วยตัวเอง
๓. จากนั้น พรรคการเมืองจะดำเนินการรวบรวมเสียง ให้มากพอ ที่จะ "ตั้งรัฐบาล" โดยตกลงกันว่าจะ "เสนอใครเป็นนายกรัฐมนตรี"
๔. "ให้มากพอ" ในที่นี้ แบ่งเป็นสองส่วน คือ ให้มากพอต่อการเป็นรัฐบาล โดยรัฐบาลที่มั่นคง ต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด กับ "ให้มากพอ" ที่จะเป็น "นายกรัฐมนตรี" เราเรียกว่าเป็นการ "เลือกตั้งทางอ้อม" คือ ให้คนที่ประชาชนเลือก ไปทำหน้าที่เลือก
๕. กติกาปัจจุบัน (อันเป็นที่รู้กันอยู่แล้ว) คือ ผู้ที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะต้อง "มีเสียงสนับสนุน" - "เกินกึ่งหนึ่ง" ของจำนวน ส.ส. และ ส.ว. รวมกัน เนื่องจากมี "บทเฉพาะกาล" ของรัฐธรรมนูญปี ๒๕๖๐ ให้ ส.ว. มาร่วมโหวตนายกฯ ด้วย (มีผลแค่ภายในระยะเวลา ๕ ปี หลังใช้รัฐธรรมนูญ)
๖. คะแนนเลือกตั้ง หรือ จำนวน ส.ส. ที่ได้จากการเลือกตั้ง ไม่เกี่ยวกับการที่ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีเลย
๗. เลือกตั้ง = ประชาชนเลือกตัวแทน... จากนั้น ให้ตัวแทน "เลือกนายกฯ"
๘. ประชาชนไม่ใช่ผู้เลือกนายกฯ ... การเลือกตั้งให้เลือกผู้แทน ไม่ใช่เลือกนายกฯ จะได้คะแนนเลือกตั้งเท่าไร ก็เป็นคะแนนเลือก ส.ส. ไม่ใช่คะแนนเลือกนายกฯ เมื่อ กกต. ใช้คะแนนจากการเลือกตั้ง รับรอง ส.ส. คะแนนนั้นก็จบแล้ว ใช้แล้ว จะใช้ซ้ำแบบ "กางเกงลิงกลับด้าน" ไม่ได้
๙. จึงหยุดฟูมฟาย ส่งต่อความเข้าใจผิด ด้วยคำถามว่า "แล้วจัดการเลือกตั้งไปทำไม" ได้แล้ว
๑๐. เข้าใจว่า หลายท่านมีความกระอักกระอ่วนใจ ว่า เขาชนะเลือกตั้งแล้ว เขารวมเสียงข้างมากของ ส.ส. ได้แล้ว ทำไมยังถูกขัดขวางจาก ส.ว.
๑๑. ส.ว. มีหน้าที่ตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ ให้ร่วม "กลั่นกรอง" ผู้จะดำรงตำแหน่ง "นายกรัฐมนตรี" เขาไม่ได้ผิดอะไร ที่ไม่โหวตสนับสนุน "นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์" เพราะนายพิธากับพรรคก้าวไกล ไม่สามารถให้ความมั่นใจ ทั้งเรื่อง ม.๑๑๒ เรื่องแบ่งแยกดินแดน และไหนจะเรื่องคุณสมบัติส่วนตัวของนายพิธาอีก
๑๒. การโหวต เป็นเอกสิทธิของ ส.ส. และ ส.ว. เพียงแต่ ส.ส. มีความเป็น "สมาชิกพรรค" แต่ ส.ว. มีอิสระในตัวเอง ที่จะโหวต เห็นชอบ, ไม่เห็นชอบ ให้นายพิธาเป็นนายกฯ หรือจะ "งดออกเสียง" ก็ได้
๑๓. ส.ว. จะไม่ใช่เรื่องที่เป็นปัญหาเลย หากพวกเขามาจาก "การเลือกตั้งโดยประชาชน" เหมือนนายพิธา และ ส.ส. ทั้งสภา มันมีความอิหลักอิเหลื่ออยู่ตรงนี้
๑๔. แต่ ส.ว. ที่มีที่มาแบบนี้ จะมาร่วมโหวตนายกฯ ไม่ได้เลย ถ้าไม่มี "บทเฉพาะกาล" ของรัฐธรรมนูญกำหนดให้ทำ ... โดยที่บทเฉพาะกาลนั้น ผ่าน "ประชามติ" ของประชาชนมาแล้ว ... หากคุณยอมรับเสียงที่เลือกก้าวไกลว่าเป็นเสียงของประชาชน "คุณ" ก็ต้องยอมรับเสียงประชามติว่าเป็นเสียงของ "ประชาชน" ด้วยเช่นกัน แม้ระหว่างทำประชามติ จะมีคนจำนวนหนึ่งถูกกีดกัน ปิดกั้น และนำตัวไปปรับทัศนคติ เพียงเพราะไปแสดงออก และเชิญชวนผู้คนให้ "ไม่รับรัฐธรรมนูญและบทเฉพาะกาล" (ซึ่งวิธีการปิดกั้นดังกล่าวนี้ ทำให้มติมันไม่ขาวสะอาด เพราะไม่เปิดให้มีการรณรงค์ที่เป็นธรรม และกลายเป็นปมปัญหามาจนทุกวันนี้)
๑๕. กลับมาที่ ส.ว. (ซึ่งมีข้อครหาว่ามาจากการแต่งตั้งของรัฏฐาธิปัตย์ ซึ่งถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เผด็จการ) เมื่อยอมรับการแต่งตั้งให้เป็น ส.ว. แล้ว ก็ต้อง "ทำหน้าที่ร่วมกลั่นกรอง" ซึ่งพวกเขาก็ทำแล้ว
๑๖. ผมเอง ซึ่งลงประชามติ "ไม่รับบทเฉพาะกาล" มีหน้าที่ยอมรับความเป็น "กติกา" ของบทเฉพาะกาลนี้ ที่คนส่วนใหญ่ยอมรับ พรรคการเมืองที่ส่งคนลงเลือกตั้งภายใต้กติกาที่รู้อยู่แล้วนี้ ก็ควรยอมรับ ถ้าไม่ยอมรับ ก็ควรปฏิเสธ การลงแข่งขันตั้งแต่ต้น มิใช่มางอแงในภายหลัง ...
๑๗. ส.ว. จะไม่เป็นอุปสรรคใดๆ เลย หากนายพิธา "เป็นที่ยอมรับ" ของ "ผู้แทนราษฎร" ในสภา เพราะหากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพร้อมใจกันโหวต "เห็นชอบ" ให้นายพิธาเป็นนายกฯ ส.ว. ก็ขวางไม่ได้ แต่นายพิธากลับไม่ได้รับการสนับสนุนเช่นนั้น เพราะอะไร? ก็เป็นเรื่องที่ ต้องคิด ด้วย ?
๑๘. สังคมประชาธิปไตย มิใช่สังคมที่ใครจะ "ได้ดั่งใจ" ไปทั้งหมด
๑๙. ไม่มีกฎหมายใด บอกว่า ไปลงคะแนนเลือกตั้ง เพื่อเลือกนายกฯ "ชนะเลือกตั้ง" จึงไม่ได้แปลว่า จะได้นายกฯ ไม่มีกฎหมายใดบอกว่า พรรคที่มี ส.ส.มากที่สุดเท่านั้น ที่มีสิทธิจัดตั้งรัฐบาล และต้องได้เป็นรัฐบาล ต้องได้เป็นนายกฯ ดูอย่างตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร นั่นปะไร พรรคก้าวไกลยังไปเอา ส.ส. จากพรรคประชาชาติ ซึ่งมี ส.ส. แค่ไม่กี่คนมาเป็นได้เลย ?
๒๐. ดังนั้น สลัดความเข้าใจผิด ออกไปจากหัวสมองได้แล้ว การเลือกตั้ง ยังต้องมีต่อไป ใครไม่อยากไปลงคะแนน ก็ไม่ต้องไป
แต่อย่ามาเกรี้ยวกราดใส่การเลือกตั้งที่ตนเข้าใจไปเองว่า เป็นการ "เลือกนายกฯ" !!
บทความโดย : ปู จิตกร บุษบา
Tweet Hi-Light
by Misc.Today
https://t.co/02NsgVWKCl < นี่คือ ลิ้งค์พันธมิตร หรือที่เรียกว่า affiliate link ซึ่งหมายความว่า... หากคุณคลิ๊กลิ้งค์นี้ และซื้อผลิตภัณฑ์ อะไรก็ได้ ฉันจะได้ค่าคอมมิชชั่นเล็กน้อย สิ่งนี้จะช่วยสนับสนุนเว็บไซด์ และช่วยให้กำลังใจเราต่อไป
— 𝘔𝘪𝘴𝘤.𝘛𝘰𝘥𝘢𝘺 |🇹🇭 (@miscthailand) June 8, 2023
ขอขอบคุณ
https://t.co/Wgegx2fuGY pic.twitter.com/WwtxgqbhKr