โศกนาฏกรรม ในลอนดอนปี 1814 เมื่อถังหมักเบียร์แตก เบียร์กว่า 1.5 ล้านลิตร ไหลท่วมย่านคนจน คร่าชีวิตผู้คน เหตุการณ์แปลกแต่โหดร้ายในประวัติศาสตร์โลก
ณ ใจกลาง กรุงลอนดอน ในย่านเซนต์ไจลส์ (St. Giles) ซึ่งในต้นศตวรรษที่ 19 นั้น เป็นที่รู้จักในนาม "The Rookery" หรือ "รังอีกา" (ชุมชนแออัด) และมี โรงกลั่นขนาดใหญ่นามว่า Moorgate and Meux's Horse Shoe Brewery ตั้งตระหง่านอยู่ข้างบ้านเรือนที่แออัดยัดเยียด แห่งนี้ ....
ย่าน "รังอีกา" ไม่ได้เป็นเพียงชุมชนธรรมดา แต่เป็นสลัมที่เลวร้ายที่สุดแห่งหนึ่ง ของลอนดอน เป็นพื้นที่ที่ความยากจนกัดกินทุกอณู บ้านเรือนที่ทรุดโทรมแออัดยัดเยียด ราวกับรังนก ถูกสร้างอย่างหลวมๆ ไม่มีสุขลักษณะที่ดี สิ่งปฏิกูลไหลปนกับสิ่งสกปรกในตรอกซอกซอยที่แคบและมืดมิด
และที่น่าเศร้าที่สุด คือ... ผู้ยากไร้จำนวนมาก ต้องอาศัยอยู่ใน ห้องใต้ดิน (Cellar Dwellings) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อับชื้น มืดมิด นั่นเพราะมันมีราคาถูกที่สุด พวกเขาดิ้นรนหาเลี้ยงชีพด้วยอาชีพที่ต่ำต้อย มีหลายครอบครัว ใช้ชีวิตภายใต้ระดับพื้นดิน (ห้องใต้ดิน) โดยมีเพียงผนังอิฐบางๆ กั้นพวกเขาออกจากถนนที่โกลาหล
ใกล้กัน .... คือที่ตั้งของ โรงกลั่น Meux's ที่สูงใหญ่ ตั้งตระหง่านราวกับป้อมปราการ ภายในเต็มไปด้วยถังบ่มเบียร์ (fermenting vats) ขนาดมหึมา ซึ่งสูงราว 22 ฟุต บรรจุเบียร์พอร์เตอร์ (Porter) ชนิดเข้มข้น ที่ชาวเมืองหลวง รักใคร่ไว้เต็มเปี่ยม มันคือ ความมั่งคั่งที่บังเอิญไปตั้งอยู่ติดกับ ความสิ้นหวัง ...
🌊 คลื่นเบียร์ ถล่มย่านคนจน
ช่วงบ่ายของวันอังคารที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 1814 ท้องฟ้าหม่นๆ เหนือเซนต์ไจลส์ ดูเหมือนจะเป็นปกติของทุกๆวัน จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 16:30 น. ความเงียบสงบก็ถูกทำลายลง ด้วยเสียงคำรามที่ดังสนั่นราวกับฟ้าผ่า...!!!
ถังบ่มเบียร์ขนาดใหญ่ที่สุดถังหนึ่งในหลายๆถัง ซึ่งบรรจุเบียร์ไว้มากกว่า 135,000 แกลลอน ได้เกิดการปะทุขึ้นด้วยแรงดันมหาศาล เสียงฉีกขาดของห่วงรัดเหล็ก ทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ ถังแล้วถังเล่า ที่อยู่ใกล้เคียงแตกตามกันมา จนรวมปริมาณเบียร์ที่ไหลทะลักออกมาทั้งหมดสูงถึง 323,000 แกลลอน หรือราว 1.5 ล้านลิตร!
คลื่นยักษ์สีน้ำตาลเข้ม ที่เกิดจากการรวมตัวของเบียร์นับล้านลิตร พุ่งทะลักผ่านผนังโรงกลั่น ส่งเสียงดังคำรามดั่งพายุ มันไม่ใช่ของเหลวใสที่ไหลเอื่อย แต่เป็นมวลเบียร์หนาหนัก ที่พุ่งเข้าใส่ถนนสายเล็กๆ อย่าง New Street และ George Street ด้วยความเร็ว และพลังที่น่าตกใจ กลายเป็นกำแพงของเหลวสูงราว 15 ฟุต กวาดทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า
ที่ที่ความตายมาถึงอย่างรวดเร็ว
และโหดร้ายที่สุดคือ ห้องใต้ดิน ..
คลื่นเบียร์ที่รุนแรงได้พังประตู และหน้าต่างที่เปราะบาง ของบ้านเรือนคนจนใน สลัม "รังอีกา" เข้าไปอย่างบ้าคลั่ง และเนื่องจากห้องใต้ดินเหล่านี้ อยู่ต่ำกว่าระดับถนน นั่นเท่ากับว่า เป็นกับดัก ปิดตายที่ถูกเติมเต็มด้วยเบียร์อย่างรวดเร็ว แทบจะในพริบตา ถนนสายต่างๆ กลายเป็นแม่น้ำเบียร์ ส่งกลิ่นรุนแรงตลบอบอวล คือ กลิ่นของเบียร์พอร์เตอร์เข้มข้น ที่ไหลท่วมถนนปะปนกับสิ่งสกปรก โคลน และน้ำเสียในย่านสลัมเซนต์ไจลส์ (The Rookery) เมื่อของเหลวหนาแน่น จำนวนมหาศาลนี้ ซึมเข้าไปในพื้นดิน และอาคารที่อับชื้น และเริ่มกระบวนการหมักหรือเน่าเสียอย่างต่อเนื่อง จึงเกิดกลิ่นที่ "หมักหมมรุนแรง" และคงอยู่ยาวนานกว่ากลิ่นเบียร์สดทั่วไป
หลงเหลือเพียง ซากปรักหักพัง รวมถึงร่างผู้เคราะห์ร้ายลอยปะปนอยู่ บางคนต้องปีนป่ายขึ้นไปบนหลังคา หรือตามโต๊ะเพื่อเอาชีวิตรอดจากอุทกภัย ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้นี้ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 8 ศพ ส่วนใหญ่เป็น สตรีและเด็ก
ในความสับสนอลหม่านนั้น ยังมีบันทึกหนึ่ง ที่น่าหดหู่ว่า ท่ามกลางความโกลาหล และเสียงร้องไห้ของผู้คน แต่ก็มี พลเมืองบางส่วน ที่รอดชีวิต ได้ใช้หม้อและถ้วยตักเบียร์ที่ไหลท่วมถนนขึ้นมาดื่มกิน ราวกับว่า การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คือ สิ่งเยียวยาเดียว ที่พวกเขารู้จัก แม้ในยามวิกฤตที่สุด ....
เมื่อมีการตั้งคณะลูกขุนสอบสวนเหตุการณ์นี้ ข้อสรุปที่ออกมาก็สะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นอย่างรุนแรง
👨⚖️ คณะลูกขุนสรุปว่า สาเหตุของการแตกของถังบ่มเบียร์นั้น เป็นผลมาจาก "อุบัติเหตุจากพระผู้เป็นเจ้า" (Act of God) ซึ่งเป็นการตัดสินที่ทำให้โรงกลั่น "พ้นจากความรับผิดชอบทางกฎหมายใดๆ" ไม่มีการชดใช้ค่าเสียหายใดๆ แก่ครอบครัวผู้สูญเสีย และไม่มีใครต้องรับผิดชอบต่อความตายที่เกิดขึ้นด้วยเบียร์นับล้านลิตร
ไม่พอ..... โรงกลั่นยังได้รับ “เงินคืน” จากภาษีสรรพสามิต สำหรับเบียร์ที่สูญเสียไป และสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ในขณะที่ผู้คนในย่าน "รังอีกา" ต้องเก็บกวาดซากปรักหักพัง ของชีวิตตนเอง โดยไม่ได้รับความยุติธรรมหรือการชดเชยที่สมเหตุสมผลใดๆ ....
The Great London Beer Flood จึงไม่ได้เป็นเพียงโศกนาฏกรรมของภัยพิบัติที่ประหลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนที่สะท้อนถึงชีวิตอันเปราะบางของผู้ยากไร้ในลอนดอน ยุคอุตสาหกรรม ที่แม้แต่ความตายจากเบียร์นับล้านลิตร ก็ยังถูกตีความให้เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ เพื่อให้ผู้มีอำนาจไม่ต้องรับผิดชอบต่อสภาพสังคมที่ตนเองสร้างขึ้น
คือ เหตุการณ์ที่ไม่ถูกจดจำ
The Great London Beer Flood
ไม่ค่อยถูกพูดถึงในประวัติศาสตร์กระแสหลัก
ไม่มีอนุสาวรีย์
ไม่มีวันรำลึก
ข้อมูลทั่วไป เกี่ยวกับ Meux's Brewery Co. Ltd
(Horse Shoe Brewery)
โรงเบียร์ Meux’s Brewery Co. Ltd เป็นโรงเบียร์เก่าแก่ของอังกฤษ ตั้งอยู่ที่ Horseshoe Brewery, Tottenham Court Road, London WC1 ซึ่งก่อนหน้านั้น มีประวัติยาวนานก่อนปี ค.ศ. 1764 มีการเปลี่ยนมือหลายครั้ง และต่อมาถูก Sir Henry Meux ได้เข้าซื้อ Horseshoe Brewery ในปี ค.ศ. 1807 และดำเนินการเรื่อยมาเพียง 7 ปี ก็เกิดเหตุที่สลดใจในปี ค.ศ.1814
หลังจากเกิดเหตุการณ์ โรงเบียร์ยังคงดำเนินการผลิตต่อไปจนถึงปี ค.ศ. 1921 และได้ปิดโรงงานลง โดยสาเหตุทางธุรกิจ และย้ายการผลิตหลักทั้งหมดไปยังโรงเบียร์ Thorne Brothers ใน Nine Elms, Wandsworth
หลังปิดโรงงาน อาณาบริเวณอาคาร ถูกทุบทิ้ง และสถานที่ดังกล่าวในปัจจุบัน คือ ที่ตั้งของ Dominion Theatre โรงละครขนาดใหญ่ในย่าน West End ของกรุงลอนดอน เปิดใช้งานครั้งแรกในปี ค.ศ. 1929 รองรับผู้ชมได้กว่า 2,000 คน ใช้จัดแสดง ละครเวทีขนาดใหญ่ , มิวสิคัลระดับโลก , คอนเสิร์ต และการแสดงพิเศษ ถือเป็นหนึ่งในโรงละครหลักของลอนดอนยุคใหม่
ปัจจุบัน บริเวณที่ตั้งของ Rookery จากที่เคยเป็นย่านสลัม ที่มีตรอกและบ้านทรุดโทรมหนาแน่น ในศตวรรษที่ 18–19 บริเวณนั้นในปัจจุบัน ถูกพัฒนาใหม่หมดแล้ว และไม่เหลือสภาพเดิมให้เห็นในฐานะ “rookery” อีกต่อไป โดย สถานที่สำคัญที่ตั้งอยู่บนพื้นที่เดิม คือ เป็นสำนักงานขององค์กรต่าง ๆ เช่น Centrepoint (องค์กรช่วยเหลือคนไร้บ้าน) และสำนักงานของ Google และ บริเวณใกล้เคียง ยังมีการพัฒนาอาคารสมัยใหม่ เช่น Central Saint Giles
แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับ London Beer Flood 1814
- Wikipedia: London Beer Flood — London Beer Flood (Wikipedia)
- Historic UK – The London Beer Flood of 1814 — The London Beer Flood of 1814 (Historic UK)
- History.com – The London Beer Flood — The London Beer Flood (History.com)
- Wikipedia: Dominion Theatre — Dominion Theatre (Wikipedia)
- (ข้อมูลสถานที่ โรงละคร และยืนยันว่า Dominion Theatre ตั้งอยู่บนที่ตั้งเดิมของ Horse Shoe Brewery)
- Mayhew’s London Labour and the London Poor Internet Archive
เรียบเรียงโดย : Admin Bee Misc.today
Tweet








.jpg)
