..... และการเดินทางนั้น ไม่ได้จบลงพร้อมกับลมหายใจสุดท้าย แต่ร่างกายที่ไร้วิญญาณยังคง “เดินทางต่อ” ในอีกรูปแบบหนึ่ง นั่นคือ กระบวนการย่อยสลาย ซึ่งเป็นกระบวนการทางธรรมชาติที่ซับซ้อน และน่าทึ่ง เปรียบเสมือน การคืนร่างกายกลับสู่ธรรมชาติอย่างช้าๆ .....
หลังจากหัวใจหยุดเต้น ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะสงบนิ่ง แต่ภายในกลับ “วุ่นวาย” และ “คึกคัก” Clinical death คือ ภาวะที่หัวใจหยุดเต้น และหยุดหายใจ ทำให้ไม่มีการสูบฉีดเลือด และออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่ายการ เรามองเห็นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของวงจรใหม่ ซึ่งเริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเคมีและชีวภาพอย่างรวดเร็ว ภายในไม่กี่ชั่วโมงแรก ร่างกายจะเริ่มเย็นลง ในกระบวนการนี้ ที่เรียกว่า "Algor Mortis" หรือการลดลง ของอุณหภูมิร่างกายไปสู่ระดับเดียวกับสภาพแวดล้อม พร้อมกับกล้ามเนื้อทั่วร่างกายเริ่มแข็งเกร็งในภาวะ "Rigor Mortis" ที่หลายคนคุ้นเคย ผิวหนังจะซีด และมีรอยด่างสีม่วงในบริเวณที่เลือดไหลไปกอง ซึ่งเป็นสัญญาณแรกของการเปลี่ยนแปลงที่มองเห็นได้ ...
"นักย่อยสลาย"
เมื่อเข้าสู่วันที่สาม แบคทีเรีย ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของเราตลอดชีวิตที่ผ่านมา จะเริ่มทำหน้าที่ของมันในฐานะ "นักย่อยสลาย" พวกมัน จะขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว และปล่อยก๊าซออกมา ซึ่งทำให้ร่างกายเริ่ม บวมพอง ท้องและอวัยวะภายใน จะขยายตัวจนทำให้ผิวหนังตึง และเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีเขียวจากภายในสู่ภายนอก นี่คือจุดที่กระบวนการย่อยสลายเริ่มส่งกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรง ซึ่งเกิดจากสารเคมีที่ถูกปล่อยออกมาจากการทำงานของแบคทีเรียเหล่านี้ ...
ภายในหนึ่งเดือน ร่างกายจะผ่านช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยกิจกรรมของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก "แมลงวัน" จะวางไข่ และลูกหนอนที่ฟักตัว จะเข้ามามีส่วนช่วยในการย่อยสลายเนื้อเยื่ออย่างรวดเร็ว ก๊าซในร่างกายจะค่อย ๆ ระบายออก และส่วนที่เคยบวมพองก็จะยุบลง เนื้อเยื่ออ่อน เช่น กล้ามเนื้อ และไขมันจะเริ่มสลายตัวอย่างมาก เหลือเพียงส่วนที่แข็งกว่าอย่างกระดูกและเส้นเอ็น ...
เมื่อก้าวสู่ช่วงเวลาประมาณ 100 วัน
ร่างกายส่วนใหญ่จะกลับคืนสู่ธรรมชาติ ในรูปแบบของ สารอินทรีย์ ที่สมบูรณ์แบบ สิ่งที่เหลืออยู่ นั่นก็คือ โครงกระดูก ที่แข็งแกร่ง ซึ่งยังคงเป็นหลักฐานสุดท้ายของการมีอยู่ของมนุษย์คนหนึ่ง ทว่า ... กระดูกก็ไม่ได้คงอยู่ตลอดไป เมื่อเวลาผ่านไป กระดูกจะถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ในดิน และสารเคมีตามธรรมชาติ ทำให้ธาตุอาหารกลับคืนสู่ดินอีกครั้งเพื่อเริ่มต้นวงจรชีวิตใหม่ ...
กระบวนการย่อยสลายของร่างกายมนุษย์จึงไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด แต่เป็น วงจรชีวิต ที่สมบูรณ์แบบและเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ มันคือการคืนชีวิตให้กับโลกใบนี้อย่างช้า ๆ และงดงาม
ข้อมูลจากพิพิธภัณฑ์ออสเตรเลีย (The Australian Museum) นำเสนอเกี่ยวกับ "Stages of Decomposition" (ขั้นตอนการย่อยสลาย) ซึ่งได้แบ่งกระบวนการสลายตัวของร่างกายออกเป็นหลายระยะ โดยกระบวนการเหล่านี้จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้รับอิทธิพลอย่างมากจากปัจจัยภายนอก เช่น อุณหภูมิ ความชื้น และการเข้าถึงของแมลง
สรุปขั้นตอนการย่อยสลาย
ตามข้อมูลของ The Australian Museum:
ขั้นตอนการย่อยสลาย (Stages of Decomposition) โดย The Australian Museum
1. Initial Decay (การสลายตัวเบื้องต้น)
0 ถึง 3 วันหลังการเสียชีวิต
- ร่างกายภายนอก อาจยังดูสดใหม่ แต่ภายใน แบคทีเรีย ที่เคยอยู่ในลำไส้จะเริ่มย่อยสลายผนังลำไส้และอวัยวะภายใน ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะแข็งทื่อ (Rigor Mortis) และเย็นลง (Algor Mortis) แมลงวัน (เช่น แมลงวันหัวเขียว) จะเริ่มวางไข่รอบ ๆ บาดแผลหรือช่องเปิดตามธรรมชาติของร่างกาย (เช่น ปาก จมูก)
2. Putrefaction / Bloat (การเน่าเปื่อย / การบวมพอง)
3 ถึง 10 วันหลังการเสียชีวิต (ระยะเวลาอาจแตกต่างกัน)
- แบคทีเรีย ยังคงทำงานหนัก และปล่อยก๊าซ ต่างๆ ออกมา ทำให้ร่างกายบวมพองขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผิวหนังอาจมีสีเขียวเข้มถึงดำ จากกระบวนการเน่าเปื่อย ของเหลวจากภายในจะเริ่มไหลซึมออกมา ตัวอ่อนแมลงวัน (Maggots) ที่ฟักตัวแล้ว จะเริ่มเคลื่อนไหว และดำเนินการบริโภคเนื้อเยื่ออย่างรวดเร็ว กลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงจะกระจายออกไป
3. Butyric Fermentation / Active Decay (การย่อยสลายขั้นรุนแรง)
10 ถึง 20 วัน และต่อเนื่อง
- ร่างกายจะยุบตัวลง เมื่อก๊าซที่สะสมอยู่หนีออกไป เนื้อเยื่ออ่อนจะเริ่มเป็นของเหลวและสลายตัวอย่างมาก ผิวหนังและกล้ามเนื้อจะกลายเป็นเมือกและเปลี่ยนเป็นสีดำ พื้นผิวที่สัมผัสจะถูกย่อยสลายอย่างมาก ตัวอ่อนแมลงวันเริ่มไม่กินซากเนื้อเยื่อที่นิ่มแล้ว แต่ ด้วง (Beetles) ที่มีปากแบบเคี้ยวจะเข้ามาแทนที่เพื่อย่อยสลายสิ่งที่เหลืออยู่
4. Dry Decay / Skeletisation (การสลายตัวแบบแห้ง / การเหลือแต่โครงกระดูก)
หลังจากหลายสัปดาห์ ถึง 1 ปี (ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อม)
- เนื้อเยื่ออ่อนและเส้นผมส่วนใหญ่ จะถูกย่อยสลายจนหมดสิ้น เหลือเพียงกระดูก (Skeleton) ในระยะนี้กิจกรรมของแมลงจะลดลงอย่างมากเนื่องจากไม่มีเนื้อเยื่อให้บริโภคอีกต่อไป การย่อยสลายของกระดูกจะเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ ตามกระบวนการทางเคมีและทางกายภาพในดิน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังมีหลายปัจจัย ที่ส่งผลต่ออัตราการสลายตัว ...โดย พิพิธภัณฑ์ออสเตรเลียยัง ระบุว่าเวลาที่ใช้ในการสลายตัวนั้น ผันแปรได้ มากหรือน้อย โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทางภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมดังนี้
- อุณหภูมิและความชื้น (Climatic Conditions) สภาพอากาศที่อบอุ่นและชื้นจะเร่งอัตราการสลายตัวให้เร็วขึ้นมาก
- การเข้าถึงของแมลง (Accessibility to Insects): หากแมลงสามารถเข้าถึงร่างได้ง่าย การสลายตัวก็จะเร็วขึ้นมาก ตัวอย่างเช่น ในสภาพที่เหมาะสม ร่างกายที่เปิดโล่งสามารถถูกลดเหลือเพียงกระดูกได้ภายใน 10 วัน
- การฝังศพ (Burial): ร่างกายที่ถูกฝังลึกประมาณ 1.2 เมตร อาจยังคงเนื้อเยื่อส่วนใหญ่ไว้ได้เป็นเวลาหนึ่งปี อย่างไรก็ตาม ตัวอ่อนแมลงวันบางชนิดก็สามารถเจาะลงไปถึงร่างที่ฝังตื้นได้
ข้อมูลอ้างอิงโดย : https://australian.museum/
เรียบเรียงโดย : Misc.today




.jpg)
