เราควรเรียนรู้อะไรจากเนปาล.....
ใน 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ความอึมครึมในประเทศเนปาล ลุกลามไปเป็นแดนมิคสัญญี ในชั่วข้ามคืน มีเด็กสีส้ม (สามนิ้ว) หลายคนพยายามอ้าง เอาเนปาลเป็นต้น แบบการต่อสู้กับการกดขี่ “เราจะไม่ทน” ฯลฯ ซึ่งมันก็เลยมี สีเหลืองหลายคนอีกเหมือนกัน ที่ไปมองม็อบในเนปาลเป็นม็อบ 3 กีบ ประเด็นม็อบในเนปาลนั้นต่างจากสถานการณ์ในไทยเอามาก ๆ และเป็นกรณีศึกษาที่ทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง และเสื้อส้มควรดูไว้ ....
Chain Reaction
ปฏิกิริยาลูกโซ่ ... เนปาล มีปัญหาความขัดแย้งภายใน ที่รุนแรงมาตลอดช่วง 20 ปี เริ่มจาก การล้มของราชวงศ์ จากการฆ่าล้างกันภายใน จนประชาชนหมดศรัทธา และการเข้ามาของพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ได้เสียงข้างมาก แต่ขัดแย้งกับพรรคการเมืองเดิม กองทัพ และกลุ่มชาติพันธุ์ ... กระทั่งที่สุด พรรคคอมมิวนิสต์ ก็แตกออกเป็นสายเหมา กับสายเลนิน แล้วก็ช่วงชิงอำนาจกันเองในกลุ่มอำนาจ จนศาลรัฐธรรมนูญ ต้องมาเบรกไกล่เกลี่ย ก็ยังเล่นเอาเถิดไม่หยุด ....
ในขณะเดียวกัน ลูกหลานนักการเมือง ก็แสดงความร่ำรวย เต็มที่ ในฐานะ NEPO kid ตรงนี้ คือสาเหตุหลัก ที่ทำให้ประชาชนขาดศรัทธา ต่อสถาบันการเมืองทั้งแผง ไม่ใช่วาทกรรม “พรรคเทพ–พรรคมาร” vs “พรรคประชาธิปไตย–พรรคเผด็จการ” แบบไทยที่ประชาชนแยกเป็นฝ่าย ....
กรณีเนปาล เขาเจอ Vacuum จนม็อบประชาชนเป็นหนึ่งเดียว และพร้อมลุกขึ้นมาปฏิเสธระบบทั้งแผง !!! ขอเพียงแค่ มีตัวกระตุ้นฟางเส้นสุดท้าย ?!!
Critical Mass
"มวลวิกฤต"
พื้นที่ระบายอารมณ์ของเด็ก Gen Z เนปาล ก็คือ "โซเชียลมีเดีย" การประกาศปิดโซเชียลมีเดีย 26 แพลตฟอร์ม ที่ไม่สามารถสร้างระบบปิดกั้นสื่อ (ที่รัฐอ้างว่าเป็น Fake News) ได้ทันตามกรอบเวลาที่รัฐกำหนด (เหมือนจะมีแค่ TikTok เจ้าเดียวที่ปรับระบบทัน) ... ถ้าเทียบกับไทย มันจะคล้ายกรณี Single Gateway ที่สมัยลุงตู่ เคยคิดออกมา แล้วโดนถล่มยับจนต้องถอยแทบไม่ทัน (ตอนนั้น netizen ไทยมีราว 45% ของประชากร) แต่นโยบายแบนโซเชียลมีเดียของเนปาลนั้น กระทบคนถึง 55% ของประชากร โดยส่วนใหญ่คือกลุ่ม Gen Z ที่สุขภาพสมบูรณ์ และพร้อมปะทะบนถนน ...
จุดสำคัญให้สังเกต ก็คือ แรงปะทุครั้งนี้ รุนแรงจริง เพราะผลกระทบ เกิดโดยตรง มันต่างจากการพยายามปลุกระดมแบบเด็กเสื้อส้ม (สามนิ้ว) เพราะประเด็นการปะทุนี้ แทบไม่ได้เกี่ยวกับการปราบปรามจากรัฐเลยด้วยซ้ำ ผู้ประท้วงน่ะ เลือดเข้าตา ตั้งแต่ตอนเปิด Facebook, X หรือ Instagram ไม่ได้แล้วต่างหาก !!!
The Collapse
"การล่มสลาย"
เมื่อม็อบจุดติด ของที่อัดอั้นไว้ มันก็โผล่ออกมาทีเดียวทั้งหมด ไม่ว่าจะเรื่อง คอร์รัปชัน , ความเหลื่อมล้ำ , ความน้อยเนื้อต่ำใจ , สินค้าแพง , รายได้ถูก , งานหาไม่ได้ และเพราะที่ผ่านมา คนเนปาลสัมผัสได้ถึงการแบ่งชนชั้นที่ชัดเจน — นักการเมืองพรรคไหนๆ ที่ขึ้นมาเป็นรัฐบาลล้วนเป็นชนชั้นคนรวย แม้แต่พรรคคอมมิวนิสต์ก็ยังเป็นชนชั้นรวย ?!
ดังนั้น จากข่าว เมื่อระบบการเมืองถูกล้ม ม็อบก็ไปเอาคืนกับคน องค์กร หรือบริษัทที่เป็นของชนชั้นนักการเมือง จะท่านนายกฯ , ท่านรัฐมนตรี และลูกเมีย , โรงแรม , ห้างสรรพสินค้า ,ธุรกิจที่เชื่อว่าเป็นของนักการเมือง ก็โดนประชาชนล่า เผาทำลายให้ราบคาบ เผาทั้งเป็น อย่างที่เราเห็น ...
Restoration ?
การบูรณะ..
โดยปกติ ประเทศที่เกิดการปฏิวัติ ผู้ปฏิวัติก็ขึ้นมาจัดตั้งรัฐบาล แต่กรณีนี้ ของเนปาลต่างออกไป .... กล่าวคือ มันเป็นรูปแบบการ Collapse จาก Critical Mass คือ ฟางเส้นสุดท้าย ถูกวางในสภาพที่อารมณ์ปริ่ม พร้อม Chain Reaction (ปฎิกริยาลูกโซ่) ปล่อยนิวตรอนอิ่มตัว ในสังคมเต็มที่ พร้อมระเบิดตลอดเวลา !!!
ดังนั้น จากข่าว เมื่อระบบการเมืองถูกล้ม ม็อบก็ไปเอาคืนกับคน องค์กร หรือบริษัทที่เป็นของชนชั้นนักการเมือง จะท่านนายกฯ , ท่านรัฐมนตรี และลูกเมีย , โรงแรม , ห้างสรรพสินค้า ,ธุรกิจที่เชื่อว่าเป็นของนักการเมือง ก็โดนประชาชนล่า เผาทำลายให้ราบคาบ เผาทั้งเป็น อย่างที่เราเห็น ...
Restoration ?
การบูรณะ..
โดยปกติ ประเทศที่เกิดการปฏิวัติ ผู้ปฏิวัติก็ขึ้นมาจัดตั้งรัฐบาล แต่กรณีนี้ ของเนปาลต่างออกไป .... กล่าวคือ มันเป็นรูปแบบการ Collapse จาก Critical Mass คือ ฟางเส้นสุดท้าย ถูกวางในสภาพที่อารมณ์ปริ่ม พร้อม Chain Reaction (ปฎิกริยาลูกโซ่) ปล่อยนิวตรอนอิ่มตัว ในสังคมเต็มที่ พร้อมระเบิดตลอดเวลา !!!
ผู้นำม็อบอย่าง Sudan Gurung เอง ก็เป็นนักกิจกรรมเคลื่อนไหว ผมคิดว่า เขาเองอาจไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าจะล้มรัฐบาลได้ แต่พอรัฐบาลล้มไปแล้วแบบระเบิดหายไปทีเดียวหมด ก็เจอสภาพสูญญากาศ ไร้ผู้นำอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ ....
ในสภาพปัจจุบัน ตัวเลือกที่เป็นไปได้ของเนปาล นอกเหนือจากการให้ทหาร เข้ามาจัดตั้ง ก็คือ ศาลรัฐธรรมนูญของเขา อาจไปหนุนคนนอก ที่พร้อมอย่าง Balendra Shah (Balen) นายกเทศมนตรีกาฐมาณฑุ ซึ่งได้รับความนิยมจาก Gen Z พอควร และมาจากนอกระบบพรรคเดิม มีเครือข่ายการบริหารท้องถิ่นสนับสนุนเข้ามาตั้งเป็นรัฐบาลชั่วคราว จนกว่าจะเริ่มกระบวนการเลือกตั้งใหม่ได้ ....
แต่ถึงกระนั้น การที่สถาบันทางการเมืองหายไปทั้งกระบิ พรรคใหม่ ก็ใช่ว่าจะเกิดได้ง่าย มันก็คงเป็นคนในเครือข่ายพรรคการเมืองเดิมๆ นั่นแหละ เปลี่ยนหน้าแต่งตัวใหม่ มาในพรรคชื่อใหม่ แล้วกลับมาโกงกินเป็น NEPO kid ชนชั้นรวยอีกครั้ง ....
Thai Lesson
ผมเล่ามายาวเหยียด ก็มาสรุปตรงนี้
— ทำไมผมต้องค้นและเขียนวิเคราะห์เรื่องประเทศนี้ ...
นั่นก็เพราะ .... คนไทยในปัจจุบัน สิ้นหวัง กับพรรคการเมืองไทยมาก จากผลนิด้าโพล 13–14 ส.ค. 2568 ระบุว่า 76% ของประชาชนรู้สึกสิ้นหวัง หรือค่อนข้างสิ้นหวังกับนักการเมืองทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะรัฐบาล แต่รวมถึงฝ่ายค้านด้วย ....
เคสเนปาล คือเยี่ยงอย่าง สำหรับพรรคการเมืองไทยว่า
.... ถ้ามัวแต่เล่นการเมือง ระวังจะไม่มีการเมืองให้เล่น เพราะมันมีอีกทางออก คือประชาชนลุกขึ้นมา “ไสหัวออกไปให้หมด”
อย่าเล่นกับฟางเส้นสุดท้าย — การคอร์รัปชันไม่โปร่งใส อาจยังไม่ทำให้ระบบพังง่าย ๆ แต่การลุแก่อำนาจ บีบคั้นประชาชนแบบโง่ ๆ มันเคยพังมาแล้วนักต่อนัก
บทความโดย :
Tweet