ค้นหาบทความ 🙄





3/24/68

ความเฉลียวฉลาด (Intelligence) ตอนที่ 3 - ความเฉลียวฉลาดกับชีวิต

หลังจากได้อ่านตอนที่ 2 จบแล้ว มีคำถามมากมายจากเพื่อนรุ่นเยาว์หลายๆ คนซึ่งสามารถเอามาสรุปได้สั้นๆว่า .....ผม (หนู) ไม่ได้เป็นคนฉลาดอะไร แล้วจะทำยังไงดี ? ซึ่งหากแปลแบบไม่อ้อมค้อม ก็คือ ผม(หนู)ไม่ได้ฉลาดอะไร แล้วชีวิตจะเป็นยังไง ? 

....  ผมก็ตอบไปว่า รอนิดนึง ผมมีเรื่องราวเกี่ยวกับคนที่เชื่อกันว่า เขาเฉลียวฉลาดมากที่สุดในโลก  จะเล่าให้ฟัง น่าจะอีกซักสี่ห้าตอน เพราะจะเล่าแบบเรื่องความเชื่อมโยง ของความเฉลียวฉลาดต่อชีวิตก่อน เพื่อคนอ่านจะได้เข้าใจได้ดีขึ้น ...

     แต่ตอนนี้  ต้องเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย จะสลับเอาเรื่องนี้ ขึ้นมาก่อน เพราะคนอ่านวัยรุ่นใจร้อน อยากรู้ไวๆ
การเล่าอะไรให้คนฉลาดๆ  นี้ยากแฮะ ช้านิดช้าหน่อย  ก็ไม่ทันใจ บางคนถามล่วงหน้าไปไกล บางคนเอาเรื่องที่จะเล่ามาสปอยล์ แต่ก็สนุกดี สนุกกว่าเล่าอะไรให้คนไม่ฉลาดแน่นอน .... 


เอาล่ะนะ !!! 

       วิลเลียม เจมส์ ซิดิส (William James Sidis) ชาวอเมริกัน ลูกชายของผู้อพยพเชื่อชาติยิว จากอูเครนที่ลี้ภัยจากการปฏิวัติรัสเซีย ได้รับการเรียกขานว่า  เป็นผู้ที่เฉลียวฉลาดที่สุดในโลก !!!   ในขณะที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ มีไอคิวสูงประมาณ 200  แต่  
วิลเลียม เจมส์ ซิดิส  ทดสอบความเฉลียวฉลาดหลายครั้ง โดยที่ผลลัพธ์อยู่ระหว่าง 250 ถึง 300  !!!! 



    ชิดิส  เกิดในปี ค.ศ. 1898 ถูกเลี้ยงอย่างเข้มงวด และเคร่งครัด โดย พ่อนักจิตวิทยา และแม่ที่เรียนจบแพทย์  เพื่อให้เขาได้เป็นอัจฉริยะ ตั้งแต่อายุไม่กี่เดือน ซิดิส ถูกปล่อยให้หาวิธีป้อนอาหารเอง  ซึ่งเขาก็ทำได้ หลังจากนั้น พ่อและแม่เขา เริ่มสอนให้เขาหัดอ่านหนังสือตั้งแต่อายุไม่ถึงหนึ่งขวบ ซึ่งทำให้เขาสามารถอ่านหนังสือได้ไวกว่าเด็กรุ่นเดียวกันมาก  โดยสามารถอ่านหนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์ได้เมื่ออายุแค่หนึ่งขวบครึ่ง

    ชีวิตในวัยเด็กของซิดิส   ต่างจากเด็กทั่วไป เขาไม่สนใจที่จะเล่นกับเด็กคนอื่นๆ  ไม่สนใจกีฬา โดยสิ้นเชิง เขาชอบขึ้นรถรางในบอสตัน  เพื่อไปพิพิทธภัณฑ์ ไปห้องสมุด ชอบสะสมตั๋วรถราง แต่พ่อและแม่เขาต่างก็บอกกับสื่อ  ที่แห่ไปทำข่าวเด็กอัจฉริยะในขณะนั้นว่า ลูกชายไม่ได้ต่างอะไรกับเด็กคนอื่นๆ เลยยกเว้นเรื่องของสติปัญญา 

      เมื่ออายุแปดขวบ ซิดิสสามารถอ่านได้ 8 ภาษา  นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ แถมยังคิดภาษาใหม่ที่เขาเรียกชื่อว่า Vendergood ขึ้นมา โดยเขียนเป็นหนังสืออธิบายคำศัพท์ และไวยากรณ์เอาไว้อย่างละเอียด 

     ซิดิสสามารถเรียนจบชั้นประถมได้ในเวลาไม่ถึงสองปี จบหลักสูตรมัธยม  ในเวลาหกอาทิตย์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดรับเขาเข้าเรียนเมื่ออายุ 9 ขวบ และเข้าเรียนจริงเมื่ออายุ 11 ปี เพราะพ่อและแม่  ต้องการมีเวลาสอนลูกต่อ ระหว่างที่เรียนที่ฮาร์วาร์ด ซิดิสถูกนักศึกษาอื่นแกล้ง  และรังแกตลอดเวลาเพราะคนอื่นๆ  คิดว่าเขาแปลก เขามีช่วงเวลาที่ยากลำบากที่มหาวิทยาลัย แต่ก็ได้แสดงความปราดเปรื่องด้วยการบรรยายเรื่องโครงสร้างสี่มิติ ให้กับนักศึกษาในชมรมคณิตศาสตร์ให้เป็นที่ฮือฮากันด้วย  หลังจากเรียนจบ ซิดิสได้บอกกับสื่อที่มาสัมภาษณ์ว่า เขาต้องการมีชีวิตที่สมบูรณ์ และชีวิตที่สมบูรณ์คือการอยู่คนเดียว ไม่ต้องเกี่ยวข้องอะไรกับใคร ....

     ซิดิส   ไม่ได้งานสอนหนังสือที่ฮาร์วาร์ด  เพราะบรรดานักเรียนต่อต้าน  และคิดว่าเขาเป็นตัวประหลาด เขาเลยต้องไปสอนคณิตศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยไรซ์  ในรัฐเท็กซัส แต่ไม่ถึงปี  ก็ต้องออกมาเพราะนักศึกษาล้อเลียน  ที่เขาแตกต่างกับคนอื่นๆ  ไม่เคยมีแฟน  ไม่สนใจผู้หญิง ขนาดที่นักศึกษาผู้หญิงแกล้งทำเป็นชอบเขา เพื่อที่จะได้หัวเราะเยาะ 

     หลังจากนั้น  ซิดิส ก็ใช้ชีวิตแบบเงียบๆ ไม่เปิดเผยตัวจนอายุ 39 ปี เมื่อนิตยสารนิวยอร์กเกอร์ ได้ตีพิมพ์เรื่องราวของซิดิส ซึ่งเขาคิดว่า เป็นการหมิ่นประมาทและเขาได้ฟ้องร้องในศาลจนชนะคดี ในหลายปีหลังจากนั้น

      โดยเรื่องราวระหว่างที่ซิดิสหายเงียบไป  คือ เขาทำงานรายได้น้อยๆ   ที่ไม่ต้องใช้ความรู้ความสามารถใดมากนัก และเชื่อว่าเขาเขียนหนังสือจำนวนมากด้วยในช่วงเวลานั้น แต่ไม่มีใครรู้ว่ามากแค่ไหน  เพราะเขาใช้นามปากกามากถึง แปดชื่อ แต่มีเล่มหนึ่งที่เขียนในปี  ค.ศ. 1925 ที่เป็นแนวคิดทางฟิสิกส์   ที่เชื่อว่า ในที่สุดพลังงานทุกอย่างในจักรวาล  จะเป็นศูนย์  ซึ่งคือ  จุดสิ้นสุด โดยหนังสือเล่มนี้ชื่อว่า The Animate and the Inanimate แต่ก็ไม่มีนักฟิสิกส์ หรือนักคณิตศาสตร์คนใด  สนใจจะพิสูจน์  หรือคัดค้านแนวคิดนี้แต่อย่างใด  ....

ในปี  ค.ศ. 1944   ชิดิส ในวัย 46 ปี  ได้เสียชีวิต อย่างเงียบๆ   โดยลำพัง  จากอาการเลือดออกในสมอง  ณ บ้านเช่าราคาถูก ในกระเป๋าของเขา  มีภาพถ่ายของ Matha Foley หญิงสาวอายุมากกว่า  ที่เขาพบเมื่อเรียนที่ฮาร์วาร์ดและตกหลุมรัก และเคยออกไปเที่ยวด้วยกันหนึ่งหน

นี่คือเรื่องราวตลอดชีวิต 46 ปี ของ วิลเลียม เจมส์ ชิดิส คนที่เชื่อกันว่า เฉลียวฉลาดที่สุดในโลก ซึ่งสำหรับผมเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก น่าเศร้าอย่างที่สุด !!!!



คราวนี้ เรามาทำความรู้จักกับ  คนที่เฉลียวฉลาดมากๆ  คนอื่นๆ กันบ้าง ได้แก่
  • ร๊อดนีย์ อัลคาล่า Rodney Alcala IQ 170
  • เท็ด แค๊คซินสกี้ Ted Kaczynski IQ 167
  • ชาร์ลีน กัลเลโก Charlene Gallego IQ 160
  • แครอล เอ็ดวาร์ด โคล Carroll Edward Cole IQ 152
  • แอนดรู คูแนแนน Andrew Cunanan IQ 147
  • เอ็ดมันด์ เคมเปอร์ Edmund Kemper IQ 145
ทั้ง 6 คนนี้    เป็นคนอเมริกันที่เฉลียวฉลาด และโด่งดัง เป็นที่รู้จักอย่างมาก เพราะว่า พวกเขาทุกคนล้วนแต่เป็น ฆาตกรต่อเนื่อง ที่ประสบความสำเร็จ เพราะสามารถสังหารเหยื่อ ได้ต่อเหนื่อง ในจำนวนมากในระยะเวลายาวนาน ก่อนที่จะถูกจับกุม บางคนฆ่าผู้บริสุทธิ์นับสิบๆ คนในช่วงเวลาหลายสิบปี 

       นอกจากนี้ ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ มีผู้ที่เฉลียวฉลาดอย่างมาก และประสบความสำเร็จในการงานอย่างสูง อย่างเช่น   ไอแซค นิวตัน ผู้ให้กำเนิดวิชาแคลคูลัส และกฏของนิวตัน ที่มีไอคิวอยู่ระหว่าง 190 ถึง 200 แต่กลับล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง  ในเรื่องส่วนตัว ที่ไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียว และไม่มีครอบครัวจนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิต .....

       นอกจากนั้น ก็ยังมีผู้ที่เฉลียวฉลาดมาก  ที่ใช้ความเฉลียวฉลาดของตนหลอกลวงผู้อื่น  เพื่อประโยชน์ของตนเอง อย่างเมื่อเร็วๆ  นี้ก็มี อลิซาเบท โฮล์ม (Elizabeth Holm) อดีตนักศึกษาสแตนฟอร์ด ผู้ก่อตั้ง Theranos ที่หลอกลวงเศรษฐีที่มาลงทุนทำเครื่องตรวจวินิจฉัยโรคที่ไม่มีอยู่จริง และ โด ควอน (Do Kwon) ผู้ก่อตั้ง Terra Platform เจ้าของคริปโต Luna ที่หลอกทั้งเศรษฐีปละผู้ที่อยากเป็นเศรษฐี   รายแรกสร้างความเสียหายประมาณ $4 bn หรือ สี่แสนล้านบาทถูกตัดสินจำคุก 11 ปี ส่วนรายหลังกว่า $40 bn หรือ 1.2 ล้าน ล้านบาท และถูกจับได้แล้ว และกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาคดี

ถึงตรงนี้   เราคงเห็นพ้องต้องกันว่า ความเฉลียวฉลาด ก็เป็นเหมือนกับคุณสมบัติอื่นๆ  ของมนุษย์คือ เป็นแค่ คุณลักษณะเดียวเท่านั้น  ไม่ต่างอะไรกับ รูปร่าง หน้าตา สีผิว ฯลฯ ความเฉลียวฉลาดแต่เพียงอย่างเดียว  ไม่สามารถกำหนดชีวิตของเราได้ การที่เราจะมีชีวิตที่ดีได้ หรือไม่นั้น  จำเป็นต้องมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่ช่วยให้เราอยู่ร่วม มีความสัมพันธ์ ที่ดีกับคนอื่นๆ อย่างเช่น ความเห็นอกเห็นใจ , ความเมตตากรุณา ความยอมรับ และ  "เคารพกฏกติกาของสังคม ความสุจริต"  หรือมีคุณสมบัติที่ทำให้เราสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากได้ เช่น ความอดทน ความอึด ความมุ่งมั่น ความสามารถในการรอคอย มีอารมณ์ขัน และอื่นๆ

ความเฉลียวฉลาดช่วยให้เราสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ไวก็จริง แต่เราต้องมีความใฝ่รู้ มีเป้าหมาย มีความ "รู้จักพอ" ด้วย เราจึงสามารถใช้ประโยชน์  จากการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆได้ในทางที่ถูกต้อง


ดังนั้น ไม่ว่าใครจะเฉลียวฉลาดมากน้อยแค่ไหน ก็สามารถมีชีวิตที่ดีได้  ทั้งแก่ตนเองและสังคมได้แน่นอน ตามแต่วิถีชีวิตที่ตนเองเลือกให้เหมาะสม

      สำหรับผมเอง ความเฉลียวฉลาดคือ การรู้ว่าเราต้องการอะไร ต้องทำอะไร อย่างไร เมื่อไหร่ นานแค่ไหนเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ และเมื่อรู้แล้ว  ก็เริ่มลงมือทำเลย และเมื่อได้ผลลัพธ์ที่ต้องการแล้ว  ก็รู้จักพอ หรือ เมื่อทำไปแล้วไม่ได้ผล  ก็มีความยืดหยุ่น มีความกล้าหาญที่จะเปลี่ยนวิธี  เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น โดยมีความสุจริต  เป็นที่ตั้ง ซึ่งไม่ตรงเป๊ะกับคำนิยามในตอนที่ 1 แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะผมไม่ได้เขียนตำราวิชาการ


บทความโดย : Sompob Pordi
      ....  ผมอยากฉลาด  และชอบคนฉลาด ผมเชื่อว่า   ความเฉลียวฉลาดและคนฉลาดมีประโยชน์มากกว่าโทษ  และคือสิ่งที่นำพาให้มนุษยชาติมาถึงวันนี้ ผมก็เลยสนใจเรื่องความเฉลียวฉลาดของมนุษย์มาก   มากพอที่จะตะลุยหาความรู้ในเรื่องนี้อย่างจริงจัง 
     
     ใครที่สนใจ ที่มีเวลา โดยเฉพาะ คนที่ยังมีลูกหลานเล็กๆ ผมแนะนำสุดใจครับ เพราะจะเป็นประโยชน์แน่นอน 

     ความเฉลียวฉลาด (Intelligence) เป็นส่วนผสมทางชีววิทยา และประสบการณ์ชีวิต หากตั้งใจ หากทำเป็น สร้างเสริมได้ เพิ่มพูนได้ พัฒนาได้ ....  และเมื่อเฉลียวฉลาดแล้ว โลกทัศน์จะต่างจากคนทั่วไป จะเห็นสิ่งต่างๆ  ได้ชัดเจนกว่า  จะเห็นโอกาส  และจะมีทางเลือกมากกว่า และสามารถจะใช้โอกาสและทางเลือกที่ดีกว่าเพื่อประโยชน์ของตนเอง ครอบครัว และสังคม ได้แน่นอนครับ !!!  



Admin Bee

สนับสนุน Misc.Today

นี่คือ ลิ้งค์พันธมิตร หรือที่เรียกว่า affiliate link ซึ่งหมายความว่า... หากคุณคลิ๊กลิ้งค์นี้ และซื้อผลิตภัณฑ์ อะไรก็ได้ ฉันจะได้ค่าคอมมิชชั่นเล็กน้อย สิ่งนี้จะช่วยสนับสนุนเว็บไซด์ และช่วยให้กำลังใจเราต่อไป


  ชาหมักคอมบูชะ Scoby doit  


 






 

คุณอาจสนใจ

5 บทความ ยอดนิยม ในรอบ 30 วัน

🟡 โพสต์แนะนำ

คริสเตียนไซออนนิสท์ คือใคร ? - Christian Zionist

ช่วงนี้ ผมติดตามหาข้อมูลเกี่ยวกับ อิสราเอล กับ ปาเลสไตน์ ครับ ส่วนใหญ่จะเป็นแนวประวัติศาสตร์เสียมาก เพราะผมมีความเชื่อส่วนตัวว่า การที่เราจะ...

Popular Posts

แนะนำหนังสือ


  BOOKs OF THE DAY








ผู้สนับสนุน







Xiaomi Kingsmith Walking Pad

 Xiaomi Kingsmith Walking Pad R1 Pro/ R2 ลู่เดิน/วิ่งไฟฟ้า พับเก็บได้ สำหรับการออกกำลังกายภายในบ้าน >> คลิ๊กดูเพิ่มอีก


ป้ายกำกับ / Tag labels

2475 (1) กฎหมาย (5) กฐิน (2) กรรม (5) กระเป๋า (3) กรุงเทพฯ (21) กรุงศรีอยุธยา (12) กล้องถ่ายภาพ (7) กลอน (4) กลาโหม (9) การเกษตร (7) การขาย (1) การจัดเก็บ (3) การปกครอง (3) การเมือง (63) การลงทุน (1) การศึกษา (144) กิจกรรมกลางแจ้ง (2) กีฬา (3) เกษตร (3) เกี่ยวกับสัตว์ (16) ไกลกังวล (1) ขงจื้อ (1) ขนม (2) ขอมไม่ใช่เขมร (6) ข้าว (3) ข่าวสาร (22) ขิง (1) เขมร (10) โขน (2) คณะราษฎร (11) คติธรรม (1) คนเล่านิทาน (15) ครอบครัว (8) ครัว (1) ครู (6) ความเฉลียวฉลาด (8) ความเชื่อ (16) ความรู้ (181) คอมมิวนิสต์ (34) คำภีร์ (2) คำสอน (13) เครื่องบิน (7) เงินตรา (4) จอมพล ป. พิบูล (1) จอมพล ป. พิบูลสงคราม (13) จีน (54) ช้าง (1) ชายแดนใต้ (5) ญี่ปุ่น (16) ดนตรีไทย (1) ดอกไม้ (1) เด็ก (5) เดนมาร์ก (1) ต้นไม้ (4) ตลาดนัด (1) ตำรวจ (2) เตา (1) เตือนภัย (19) แต่งงาน (1) ไต้หวัน (1) ทรัพยากร (2) ทวิตเตอร์ (1) ทหาร (9) ท่องเที่ยว (28) ทะเล (3) ทัศนะ (65) ทำบุญ (5) ทำอาหาร (4) เทคโนโลยี (13) โทรศัพท์มือถือ (2) ธนบัตร (1) ธนาคาร (4) ธรณี (1) ธรรมชาติ (12) ธรรมในคำกลอน (1) ธรรมะ (6) ธรรมาธิปไตย (2) ธุรกิจ (11) นราธิวาส (3) นวดไทย (1) นักบิน (1) นักเรียน (4) นางใน (1) นาซี (1) นายกรัฐมนตรี (3) น้ำมัน (1) นิทานพื้นบ้าน (1) นิยาย (3) นิวเคลียร์ (1) เนปาล (1) แนะนำสินค้า (39) โนรา (1) ในหลวง ร.10 (1) ในหลวงรัชกาลที่ 9 (15) บริการ (4) บริหาร (3) บ่อน (1) บัตรเครดิต (2) บัตรประชาชน (1) บาลีวันละคำ (5) บุคคล (43) บุญ (3) บุหรี่ (1) เบตง (1) แบรนด์ไทย (5) โบราณวัตถุ (13) โบราณสถาน (7) โบสถ์ (2) ประชาธิปไตย (61) ประท้วง (7) ประเทศไทย (182) ประธานาธิบดี (2) ประวัติศาสตร์ (151) ปรัชญาชีวิต (22) ปรีดี (2) ปลูกต้นไม้ (3) ปูติน (1) ผลไม้ (2) ผลิต (3) ผัก (1) ผิวสี (1) แผ่นดินไหว (3) ฝรั่งเศส (6) พม่า (6) พยาบาล (2) พระเจ้าตากสินมหาราช (2) พระนเรศ (1) พระพุฒาจารย์ (1) พระพุทธเจ้า (1) พระราชกรณียกิจ (4) พระสงฆ์ (12) พราหมณ์ (1) พิธีกรรม (1) พิบูลสวัสดี (1) พิพิธภัณฑ์ (10) พุทธทาส (1) พุทธศาสนา (14) เพชรบุรี (3) เพลง (8) เพลงผ้า ปรพากย์ (1) แพทย์ (5) ฟาโรห์ (1) ไฟ (4) ไฟฉาย (1) ไฟฟ้า (1) ภัยพิบัติ (3) ภาคใต้ (6) ภาคอีสาน (1) ภาษา (13) ภาษิต (1) ภูเขาไฟ (1) ภูมิปัญญา (19) ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ (1) มวยไทย (5) มหาสมุทร (1) มาเลเซีย (1) มุมไบ (2) มุสลิม (2) แม่ (1) แมลง (1) ไม้ไผ่ (1) ยา (1) ยิว (3) ยูเครน (1) ยูนนาน (1) เยาวชน (1) เยาวราช (1) รถเมล์ (4) รองเท้า (2) รอบโลก (4) ระบบนิเวศน์ (1) ระเบิด (3) รัชกาลที่ ๒ (1) รัชกาลที่ ๔ (3) รัชกาลที่ ๕ (7) รัชกาลที่ ๖ (2) รัชกาลที่7 (8) รัชกาลที่ ๘ (6) รัฐประหาร (7) รัสเซีย (13) ราชาศัพท์ (1) รามเกียรติ์ (1) เรือ (3) เรื่องเก่า (82) เรื่องเล่า (24) โรค (5) โรคระบาด (5) โรงงาน (1) โรงพยาบาล (11) โรงเรียน (17) โรฮิงญา (1) ลอนดอน (1) ละคร (1) ลัทธิ (2) ลัทธิมาร์กซ์ (3) ล้านนา (3) ลาว (4) ลิง (1) เลือกตั้ง (9) โลก (8) โลกร้อน (4) วัฒนธรรม (2) วัด (14) วันแม่ (1) วันสำคัญ (5) วิทยาศาสตร์ (9) วิทยุ (2) วิหาร (4) เวียดนาม (4) ไวรัล (1) ศัพท์ (2) ศาสนา (38) ศิริราช (5) ศิลปะ (5) ศิลปาชีพ (1) เศรษฐกิจ (3) สงขลา (1) สงคราม (51) สถานีรถไฟ (1) สนามบิน (2) สเปน (1) สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร (2) สมัยเมจิ (1) สยาม (13) สวนสนุก (1) สวิตเซอร์แลนด์ (2) สังคม (46) สัตว์ปีก (1) สายสังคม (3) สำนวน (8) สิ่งประดิษฐ์ (13) สื่อ (4) สุขภาพ (14) สุภาพจิต (6) สุสาน (1) เสรีภาพ (1) ไสยศาสตร์ (1) หนังแท้ (4) หนังสือ (31) หนังสือพิมพ์ (1) หนู (1) ห้องเรียน (4) เหมาเจ๋อตง (2) เหรียญ (1) อเมริกา (40) ออสเตรีย (1) อังกฤษ (6) อาชีพ (3) อาหาร (15) อาหารจานโปรด (8) อิตาลี (3) อินเดีย (9) อิสราเอล (3) อียิปต์ (1) อีสาน (1) แอปพลิเคชัน (4) ไอร์แลนด์ (1) cpr (1) deep state (1) democracy (1) Diarymisc (3) facebook (1) handmade (1) leather (1) marxism (1) metaverse (1) nomad (6) Nuclear (1) OPENUP (1) powerbank (1) shopee (1) Social media (2) social science (3) social views (122) Sompob Pordi (8) startup (1) UNESCO (4) xiaomi (1)


Miscellaneous | Misc.Today 🌱 . ขับเคลื่อนโดย Blogger.

 
miscthailand