ประเทศไทย ก็เคยพลาดเหมือน เซเลนสกี้ และยูเครน ครั้น.. อเมริกาพ่ายแพ้สงครามเวียดนาม กองทัพคอมมิวนิสต์เวียดนามก็ฮึกเหิมจะบุกไทย และ จีนช่วยไทยตอนเวียดนามบุก เรียกว่า "สงครามสั่งสอน"
กองทัพคอมมิวนิสต์เวียดนามก็ฮึกเหิมมาก จะบุกไทย ไทยบ่ายหน้าไปขออเมริกามหามิตรให้ช่วย อเมริกาก็ไม่มีปัญญาช่วย น้ำไกลดับไฟใกล้ไม่ได้เลย สุดท้าย คุณชายคึกฤทธิ์บ่ายหน้าไปขอความช่วยเหลือจากจีน พบท่านประธานเหมา และทำให้เกิด "สงครามสั่งสอน" เวียดนามก็ไม่กล้าห้าวเป้งมาบุกไทยอีก
ในเวลานั้น หากไม่มี "สงครามสั่งสอน" เกิดขึ้น คาดว่า ภายในไม่ถึงสัปดาห์ กรุงเทพก็จะถูกกองทัพเวียดนามกรีธาทัพเข้ามายึดอย่างแน่นอน !!
บทความนี้มาจากไลน์ครับ========================
ครั้งนั้นพวกเราเชิญ ท่านมาพูด ที่สามัคคีสมาคม โดยมี ท่านทูตแผน วรรณเมธี ซึ่งเป็นทูตไทย ในขณะนั้น มากับท่านด้วย ท่านคึกฤทธิ์ บอกว่า American ไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย แม้แต่อาวุธยุทโธปกรณ์ ที่ทิ้งไว้ เราขอก็ไม่ให้ เราซื้อก็ไม่ขาย ปล่อยให้ พังไปเอง ท่านคึกฤทธิ์บอกว่า อเมริกันเป็นเพื่อนที่เลวที่สุด นั่นคือเหตุผล ที่ท่านคึกฤทธิ์ ต้องไป ประเทศจีน ถ้าอยากรู้รายละเอียด มากกว่านี้ ผมยินดีเล่าให้ฟังครับ
เรื่องมีอยู่ว่า ที่ประเทศอังกฤษ ณ กรุงลอนดอน มีสมาคมเก่าแก่แห่งหนึ่ง ที่ชื่อว่า สามัคคีสมาคม เป็นสมาคมที่รัชกาลที่ 6 เป็นผู้ก่อตั้งขึ้น ตอนสมัยที่ท่านเป็นนักเรียน ที่ประเทศอังกฤษ ก็เลยกลายเป็นสมาคมคนไทยและนักเรียนไทย ที่เก่าแก่ที่สุด นักเรียนไทยที่อังกฤษ ส่วนใหญ่จะเป็นสมาชิก ของสมาคมนี้ ยิ่งในอดีตแล้ว นักเรียนที่มา ในระบบ กพ ทุกคน จะต้องเป็นสนาชิกสมาคนนี้
เมื่อหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ปราโมช มาเยือนอังกฤษ พวกเราทุกคน ก็เชิญท่านมาที่สมาคม เพื่อที่จะคุยกัน ในฐานะท่าน เคยเป็นอดีตสมาชิกของสมาคม มาก่อน ในระหว่างที่คุยกัน ในวันนั้น มีคนมาฟังกันมาก เต็มห้องสมุดของ สามัคคีสมาคมเลย แล้วก็ยังล้นออกมาข้างนอกอีก ในข้อสนทนา มีช่วงหนึ่ง ที่เราถามท่านว่า "ทำไม ท่านจึงตัดสินใจ ไปเยือนจีน" ท่านก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อท่านเป็นขึ้นมาเป็นนายก เวียดนาม บุกประชิดเขตแดน ของเราทุกด้าน ท่านดูแล้ว เราไม่มีทางออก ไม่มีทางเลือก นอกจากจะขอร้องจีน ให้ช่วยในเรื่องนี้
ในตอนแรก ท่านเรียกแม่ทัพนายกองทั้งหมด และถามว่า ถ้าเวียดนานบุกนี่ เราจะรับมือได้นานเท่าไหร่ ? แม่ทัพนายกอง พูดอย่างกวนๆ ว่า รั้งได้แค่ 7 วัน !! ท่านตกใจมาก .. อะไร ? อาวุธยุทโธปกรณ์ที่เรามีทั้งหมดนี่นะ รับมือได้แค่ 7 วัน ... และอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่อเมริกันทิ้งไว้เนี่ย หลังจากพ่ายแพ้สงครามเวียดนาม ท่านก็ ทำหนังสือไปขอจากรัฐบาลอเมริกัน เพื่อใช้ป้องกันตัว ก็ได้รับการปฏิเสธ ขอซื้อก็ไม่ขาย แล้วก็ปล่อยทิ้งไว้ให้มันพัง ตามธรรมชาติของมัน
ท่านจึงพูดในวงสนทนาว่า อเมริกันเป็นเพื่อนที่ใช้ไม่ได้เลย คบไม่ได้คนพวกนี้ ท่านจึงเรียก ท่านทูตแผน วรรณเมธี ให้เข้ามา แล้วท่านพูดกับท่านแผน ว่า "เราเห็นจะต้องไปเยือนจีนกันละ" เพราะไม่เห็นทางออกอย่างอื่น ท่านทูตแผนตอนนั้น จึงจัดเจ้าหน้าที่กรุยทาง ที่จะไปเยือนจีน
การไปเยือนจีนสมัยนั้น ต้องผ่านทางฮ่องกง เมื่อไปถึงฮ่องกง นักข่าวต่างประเทศก็รุมถามท่านกันว่า "ท่านจะไปเมืองจีนทำไม" เพราะทั้งที่รู้อยู่ว่า พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน เป็นตัวสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ให้ก่อการร้ายอยู่ในขณะนั้น ?
ท่านเล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นเราหน้าแตก เพราะต้องบากหน้า เพราะต้องไปพึ่งเขา แต่จะพูดตรงๆ มันก็จะเสียเหลี่ยม ท่านจึงบอกว่า ผมเป็นตัวแทนของรัฐบาลไทย ไปเจริญสัมพันธไมตรีกับรัฐบาลจีน ส่วนเรื่องพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน สนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย นั่นเป็นเรื่องของพรรคไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เราเป็นตัวแทนรัฐบาลไม่เกี่ยวกับพรรค ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอก ว่าพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน ก็คือรัฐบาลจีน แต่ก็ต้องขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน
เมื่อไปถึงที่ประเทศจีน เขาก็ให้การต้อนรับเราอย่างดี แต่ก็ยัง ไม่แน่ใจว่า จะได้พบท่านประธานเหมาหรือเปล่า เพราะท่านประธานแก่มากแล้ว ในวันต่อมา หลังจากที่ไปเยี่ยมตามสถานที่ต่างๆ ก็มีหนังสือด่วนมาว่า ประธานเหมา เปิดให้เข้าพบ ได้ประมาณ 20 นาที ทุกคนต่างตื่นเต้น เพราะเป็นเวลาที่สำคัญ ที่จะได้พบ
" ไอ้หนู เองตอบคำถามนักข่าวได้ดีมาก"
เมื่อไปถึง ท่านคึกฤทธิ์ กลับรู้ว่า แม้ท่านประธานเหมา จะแก่ชรามากแล้ว แต่ท่านก็รู้เรื่องราว อย่างทะลุปรุโปร่ง ท่านเหมาเข้ามากอดท่านคึกฤทธิ์ แล้วบอกว่า " ไอ้หนู เองตอบคำถามนักข่าวได้ดีมาก" พร้อมกับตบหลังตบไหล่ อย่างเป็นกันเอง
ทั้งหมดนี้ ได้ยินจากปากของท่าน หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ปราโมช และผมก็ไม่ใช่คนเดียวที่อยู่ในที่ห้องสมุดนั้น มีคนอีกหลายคน ล้นออกมานอกห้องสมุดเลย รวมทั้ง ท่านทูต แผน วรรณเมธี ซึ่งเป็น ทูตไทยประจำประเทศอังกฤษ ในขณะนั้น และเป็นคน ที่กรุยทาง ให้ท่านคึกฤทธิ์ ไปเยือนจีน ครั้งนั้น
ทำให้เราเข้าใจว่า ไม่ว่าอย่างไร จีนก็ยังเป็นเพื่อน เพราะเชื้อสายที่ติดต่อกัน มาหลายชั่วคน แต่อเมริกา ไม่ใช่เลย ถ้าไม่มีผลประโยชน์ เขาจะไม่เข้ามา เขาใช้เราเป็นฐานทัพ ไปโจมตีเพื่อนบ้านของเรา แต่ถึงเวลาถอย มันทิ้งเราเลย ไม่ช่วยแม้แต่อาวุธ
นี่คือเรื่องทั้งหมด ที่ผมอยากจำได้ จนถึงทุกวันนี้ ท่านทูต แผน หลังจากเกษียณ ท่านได้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการ สภากาชาดไทย
- ภาพ https://image.mfa.go.th/mfa/0/mkKfL2iULZ/e-book/saranrom/52publication.pdf
- สงคราเวียดนาม สงครามเวียดนาม (เวียดนาม: Chiến tranh Việt Nam) หรืออีกชื่อหนึ่งว่า สงครามอินโดจีนครั้งที่สอง[28] และในเวียดนามเรียก สงครามต่อต้านอเมริกา