ผมสังเกตุเห็นโซเชียลไทย เริ่มแบ่งกลุ่มทะเลาะกัน ฝั่งนึงเชียร์ ยูเครน ด้วยการแขวะฝั่งเชียร์รัสเซีย กับฝั่งเชียร์รัสเซียที่แขวะฝั่งเชียร์ยูเครน และชาติตะวันตก
เช้านี้ขอแชร์เกร็ดความรู้ที่เกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครนมาแบ่งปันครับ เพราะประวัติศาสตร์ต้องมองเป็นภาพกว้าง อย่ามองอะไรเป็นชิ้นๆ ผมเอารูปสมรภูมิที่ “เลนินกราด” สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาให้ดูเลนินกราด ( Leningrad ) คือเมือง Saint Petersburg
ในสงครามโลกครั้งที่ 2 รัสเซียถูกเยอรมันบุกจากทิศตะวันตก ใครเคยดู ภาพยนตร์ “Enemy at the Gates” ก็คือเรื่องนั้นครับ ในภาพยนตร์นี้ คือ อีกเมืองที่สมรภูมิโหดมาก ได้แก่ Stalingrad หรือชื่อปัจจุบันคือ Volgograd นั่นเอง
ทราบมั้ยครับ ? ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ครั้งเดียว มีชาวรัสเซียเสียชีวิตถึง 22 ล้านคน จากการถูกเยอรมันบุก
รัสเซียเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ในสงครามโลกนะครับ ไม่ใช่อังกฤษ , ฝรั่งเศส หรือ อิตาลี มันคือ "การฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ" เหมือนที่ชาวยิวโดน ... หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติ จึงเกิด “สัญญา” ระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกว่าจะไม่นำกองทัพ และอาวุธหนัก เช่นขีปนาวุธมาวางไว้ใกล้กันอีก จะได้สบายใจกันทั้ง 2 ฝ่าย อันนี้คือข้อตกลง..
ปัญหา คือยูเครน และนาโต้ฉีกข้อตกลงนี้ครับ!!
ตามที่ผมเขียนในโพสต์ก่อนเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ยูเครนชวนนาโต้มาตั้งกองกำลัง และแถมอาจมีขีปนาวุธมาติดตั้งด้วยที่ริมชายแดนรัสเซีย โดยจะหันปืน จรวดไปทาง Moscow ที่อยู่ห่างไปแค่ 500 กม.
ทั้งๆ ที่ ประธานาธิบดียูเครน มีทางเลือกที่จะเป็นประเทศเป็นกลางได้ คือ ไม่ต้องโปรรัสเซีย ก็ได้ .. แต่ก็ไม่กับเลือกที่เอาจรวดของอเมริกา และนาโต้ มาติดตั้งในประเทศตัวเอง ..การกระทำอันนี้ คือสิ่งที่ประธานาธิบดียูเครนทำผิด คือฉีกสัญญาที่ทำไว้ตั้งแต่สงครามโลกที่ทำคนรัสเซียตายไป 22 ล้านคน
ส่วนการที่รัสเซียบุกยูเครนด้วยความรุนแรงนั้น ต้องแยกเป็นอีกเรื่อง
.. ก่อนหน้านี้ รัสเซีย-ยูเครน เคยเจรจาเรื่องนี้มาแล้วหลายรอบ
ประเด็นคือ ประธานาธิบดียูเครน ใช้เรื่องนี้สร้างความนิยมให้ตัวเอง จึงต้องขี่หลังเสือท้าทายรัสเซียไปเรื่อยๆ
เมื่อเจรจาไม่สำเร็จ รัสเซียจึงต้องบุก
ผมกล้าพนันว่า ในสถานการณ์เดียวกัน อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส หรือแม้แต่เวียดนาม ก็จะทำแบบเดียวกัน
เพียงแต่ชาติตะวันตก มีวิธีการสื่อสารที่ “ฉลาดกว่า” คือใช้คำว่า “พิทักษ์มาตุภูมิ”
สิ่งที่รัสเซียพลาด คือบุก จนเกิดความสูญเสียของพลเรือนในยูเครน อันนี้ผมก็ไม่เห็นด้วย
ล่าสุด รัสเซียจึงเสนอ การหยุดยิง เพื่อให้พลเรือนยูเครนหนี
ผมจึงอยากให้ “แยก” 2 เรื่องนี้ออกจากกัน คือ
ประวัติศาสตร์ และสถานการณ์ปัจจุบัน
กับวิธีการบุก
อย่างแรกรัสเซียทำเพื่อป้องกันตัวเอง
อย่างที่สอง รัสเซียใช้มาตรการรุนแรงไป
รัสเซีย และยูเครน ไม่มีใครผิด ถูก 100%
ส่วนนาโต้ผมว่าผิดที่สุด ที่ไปฉีกสัญญาการตั้งกองทัพริมชายแดน โดยใช้โอกาสของความไม่ฉลาดของประธานาธิบดียูเครนคนนี้
บทความโดย : Pongprom Yamarat