
ในยุคสมัยที่มองไปทางไหน ก็เต็มไปด้วยการแข่งขันที่ดุเดือด หลายคนอาจเคยตั้งคำถามว่า ....
"ทำไมคนที่ขยันที่สุด ถึงไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จ ?" ... บ่อยครั้ง ที่เราพบว่า "ความรู้ในตำราเรียน" อาจไม่เพียงพอ ที่จะช่วยให้เราผ่านพ้นการเมืองในออฟฟิศ การเจรจาต่อรองที่ตึงเครียด หรือแม้แต่การต่อสู้กับความขี้เกียจในใจตัวเอง นั่นเป็นเพราะ ชีวิตจริงไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยทฤษฎีสีขาว เพียงอย่างเดียว แต่มันคือ "สนามรบทางจิตวิทยา" ที่ต้องอาศัยกลยุทธ์และการอ่านเกมที่เฉียบคม
Robert Greene ผู้เขียนหนังสือระดับโลกอย่าง The 33 Strategies of War ได้รวบรวมบทเรียนจากเหล่านักรบ และรัฐบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ มากลั่นกรองเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เขาเชื่อว่าการมี "จิตวิญญาณของนักรบ" (Strategic Mindset) ไม่ใช่เรื่องของการใช้ความรุนแรง แต่คือการมีสติที่มั่นคง การวางแผนที่แยบยล และการรู้จักจังหวะ รุก-รับ เพื่อรักษาผลประโยชน์และเป้าหมายของเราไว้ให้ได้
ในบทความสั้นๆ จากการสรุปเนื้อหาจากหนังสือ ต่อไปนี้ เราจะไม่ได้มาเรียนรู้วิธีการทำสงครามเพื่อทำลายล้างใคร แต่เราจะมาถอดรหัสกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้คุณ "ชนะอย่างสง่างาม" ทั้งในหน้าที่การงาน และการเอาชนะขีดจำกัดของตัวเอง เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำที่คุมเกมชีวิตได้อย่างแท้จริง...
ยกตัวอย่างบางส่วน 5 กลยุทธ์พลิกเกมชีวิตและยุทธวิธีในออฟฟิศ
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน เรามาเจาะลึก 5 กลยุทธ์ที่ สามารถเปลี่ยนคุณจาก "เบี้ย" ให้กลายเป็น "ขุน" บนกระดานแห่งความสำเร็จนี้กันครับ
1. กลยุทธ์หลังพิงฝา (The Death-Ground Strategy)
: สร้างภาวะจำยอมเพื่อดึงศักยภาพสูงสุด
ในทางการทหาร เมื่อทหารไม่มีทางถอย พวกเขาจะสู้จนตัวตาย และมักจะชนะ อย่างปาฏิหาริย์ .... แต่ ในโลกของการทำงาน หากคุณต้องการพัฒนาตนเองอย่างก้าวกระโดด จงอย่าปล่อยให้ตัวเองอยู่ใน Comfort Zone นานเกินไป
การนำไปปรับใช้ เช่น .... ลองรับโปรเจกต์ที่ยากเกินตัวเราสักเล็กน้อย หรือตั้งเดดไลน์ที่บีบคั้น (แต่เป็นไปได้) เพื่อบีบให้สมอง ต้องเค้นความคิดสร้างสรรค์ออกมา การสร้างความรู้สึกว่า "ต้องชนะเท่านั้น" คือเชื้อเพลิงที่ดีที่สุดในการพัฒนาตนเอง
2. กลยุทธ์สร้างขั้ว (The Polarity Strategy)
"... การกำหนดจุดยืนที่ชัดเจน..."
Greene กล่าวว่า "เราไม่สามารถชนะใจทุกคนได้" การพยายามเป็นมิตรกับทุกคนในที่ทำงาน อาจทำให้คุณดูเป็นคนไร้จุดยืน หรืออาจจะเรียกว่า นกสองหัว สามหัว หรือจะกี่หัวก็ตาม .... กลยุทธ์นี้เน้นการสร้าง "ตัวตน" และ "จุดยืน" ที่ชัดเจน ... ครับ
การนำไปปรับใช้ .... จงอย่ากลัวที่จะมีความเห็นที่แตกต่าง (แต่ต้องมีเหตุผลนะ ไม่ใช่เห็นแย้งมันซะทุกเรื่อง แบบไม่มีเหตุผลรองรับ ) การมีศัตรูทางความคิด หรือคู่แข่งที่เก่งกาจ จะช่วยให้คุณแหลมคมขึ้น จงใช้การแข่งขันเป็นกระจกสะท้อนจุดอ่อนของตนเองเพื่อแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น
3. กลยุทธ์ตีจุดศูนย์ถ่วง (The Center-of-Gravity Strategy)
".. โฟกัสจุดเดียวเพื่อผลลัพธ์มหาศาล.."
กองทัพที่ยิ่งใหญ่มักมีจุดอ่อนที่เป็น "หัวใจ" เพียงจุดเดียว หากทำลายจุดนั้นได้ ทุกอย่างจะล่มสลาย .... ในการทำงานก็เช่นกัน เรามักเสียเวลากับงานยิบย่อยจนหมดพลัง
การนำไปปรับใช้ ..... ลองใช้กฎ 80/20 ค้นหาว่างานชิ้นไหน คือ "Key Success" ที่ส่งผลต่อเป้าหมายของคุณมากที่สุด แล้วทุ่มเททรัพยากร และเวลาทั้งหมดลงไปตรงจุดนั้น การโจมตีจุดศูนย์ถ่วงของปัญหา จะช่วยให้คุณทำงานน้อยลงแต่ได้ผลลัพธ์มากขึ้น
4. สงครามกองโจรทางความคิด (The Guerrilla-Warfare-of-the-Mind)
"... ทำลายความล้าสมัย.."
ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดคือ "ความสำเร็จในอดีต" ที่ทำให้เรายึดติด กับวิธีการเดิมๆ กลยุทธ์นี้ สอนให้เรารักษาสภาพจิตใจ ให้ยืดหยุ่นเหมือนหน่วยรบกองโจรที่เคลื่อนที่เร็วและคาดเดาไม่ได้ ....
การนำไปปรับใช้ .... อย่าเป็นน้ำเต็มแก้ว ในโลกที่ AI และเทคโนโลยีเปลี่ยนทุกวัน คุณต้องกล้าทิ้งวิธีการทำงานแบบเดิมที่เคยได้ผลเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แล้วเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ (Reskill) อยู่เสมอ ความอยู่รอดไม่ได้วัดกันที่ความแข็งแกร่ง แต่วัดกันที่ "ความเร็วในการปรับตัว"
5. กลยุทธ์ควบคุมความคาดหมาย (The Counter-Attack Strategy)
"... นิ่งเพื่อชัยชนะ..."
บ่อยครั้ง ที่การ "โต้กลับทันที" เมื่อถูกโจมตีในที่ทำงาน (เช่น ถูกตำหนิหรือถูกเอาเปรียบ) มันคือ ความผิดพลาด ... กลยุทธ์นี้เน้นการดึงจังหวะ ให้ศัตรูเผยไต๋ออกมาก่อน ...
การนำไปปรับใช้ .... ฝึกทักษะการเป็นผู้ฟังและผู้สังเกตการณ์ที่ดี (Observation) ในการประชุมหรือการเจรจา การนิ่งเงียบ และปล่อยให้อีกฝ่ายพูดก่อน จะทำให้คุณเห็นช่องโหว่และความต้องการที่แท้จริงของเขา ทำให้คุณสามารถ "เดินหมาก" ตัวสุดท้ายเพื่อคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด
นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่ผมยกมาเพียง 5 ข้อจาก 33 ข้อ จากหนังสือนะครับ
สงครามในชีวิตจริง ตามแบบฉบับของ โรเบิร์ต กรีน Robert Greene ไม่ได้สอนให้เราเป็นคนขี้โกง แต่สอนให้เรา "ไม่ซื่อจนเกินไป" จนกลายเป็นเหยื่อของสถานการณ์ กลยุทธ์เหล่านี้ คือเครื่องมือในการป้องกันตัวและสร้างความก้าวหน้าอย่างมีชั้นเชิง
ควรจดจำไว้ว่า
“...ผู้ที่วางแผนมาดีที่สุด คือผู้อื่นที่มีสิทธิ์เลือกผลลัพธ์ของสงครามนั้นๆ ได้มากที่สุด”
The 33 Strategies of War
เป็นหนังสือที่ให้มุมมอง เชิงยุทธศาสตร์และจิตวิทยาการต่อสู้ชีวิต เหมาะสำหรับผู้ที่พร้อมจะคิดลึก เข้าใจพลวัตรของความขัดแย้ง และนำบทเรียนเชิงประวัติศาสตร์ไปปรับใช้ในโลกธุรกิจและความสัมพันธ์สมัยใหม่ แม้บางช่วงอาจดูดิบหรือซ้ำซ้อนสำหรับผู้อ่านที่คุ้นกับผลงานของ Greene อยู่แล้ว แต่โดยรวมแล้วมันคือ เครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการคิดเชิงกลยุทธ์ในชีวิตจริง
Tweet
The 33 Strategies of War
เป็นหนังสือที่ให้มุมมอง เชิงยุทธศาสตร์และจิตวิทยาการต่อสู้ชีวิต เหมาะสำหรับผู้ที่พร้อมจะคิดลึก เข้าใจพลวัตรของความขัดแย้ง และนำบทเรียนเชิงประวัติศาสตร์ไปปรับใช้ในโลกธุรกิจและความสัมพันธ์สมัยใหม่ แม้บางช่วงอาจดูดิบหรือซ้ำซ้อนสำหรับผู้อ่านที่คุ้นกับผลงานของ Greene อยู่แล้ว แต่โดยรวมแล้วมันคือ เครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการคิดเชิงกลยุทธ์ในชีวิตจริง
สรุปสั้นๆ หนังสือ "33 กลยุทธ์จิตวิทยาเอาชนะสงครามชีวิต" ไม่ใช่หนังสือสอนรบ แต่มันคือ "คู่มือการรับมือกับมนุษย์" ในโลกที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนครับ ไม่ว่าจะเรื่องงาน หรือเรื่องการใช้ชีวิต และการพัฒนาตัวเอง
33 กลยุทธ์จิตวิทยา เอาชนะสงครามชีวิต
(THE 33 STRATEGIES OF WAR)
ผู้แต่ง : ROBERT GREENE
ข้อมูลหนังสือ
- Barcode : 9786169385493
- ISBN : 9786169385493
- ขนาด ( w x h ) : 145 x 210 mm.
- จำนวนหน้า : 296 หน้า
- ปีพิมพ์ : 1 / 2568
- หมวดหนังสือ : การพัฒนาตนเอง




.jpg)
