คือ “...สมเด็จเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา...” แทน
🏚️ พระชนม์ชีพของรัชกาลที่ ๗ หลังสละราชสมบัติ
ทรงดำรงพระชนมชีพอย่างเงียบ ๆ ประทับ ณ ประเทศอังกฤษ แต่พระองค์ทรงพระประชวรอยู่เนือง ๆ โดยปี พ.ศ. ๒๔๘๔ พระองค์ทรงพระประชวรมาก ด้วยโรคตัวบิดเข้าไปอยู่ในพระยกนะ (ตับ) แต่แพทย์ได้รักษาจนเป็นปกติ พระอาการประชวรของพระองค์ กำเริบหนักขึ้นโดยลำดับ กระทั่ง วันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๔๘๔ พระองค์เสด็จสวรรคตโดยฉับพลันด้วยพระหทัยวาย ขณะที่มีพระชนมพรรษา ๔๘ พรรษา
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ ทรงจัดการพระบรมศพ เป็นการภายใน โดยอัญเชิญพระบรมศพประดิษฐาน ณ พระตำหนักคอมพ์ตัน ซึ่งรัฐบาลอังกฤษ ได้อนุญาตเป็นกรณีพิเศษในการประดิษฐานพระบรมศพเป็นเวลา ๔ วัน *** ซึ่งตามปกติจะอนุญาตเพียงวันเดียว เพื่อให้ประยูรญาติที่อยู่ห่างไกลมาถวายบังคมลาเป็นครั้งสุดท้าย
รัชกาลที่ ๗ ไม่มีพระเมรุมาศ เนื่องจากพระองค์เสด็จสวรรคตที่ต่างประเทศ เเล้วประกอบพิธีอย่างเรียบง่ายที่สุด ก่อนสวรรคต พระองค์ทรงสั่งไว้ว่า....
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ ทรงจัดการพระบรมศพ เป็นการภายใน โดยอัญเชิญพระบรมศพประดิษฐาน ณ พระตำหนักคอมพ์ตัน ซึ่งรัฐบาลอังกฤษ ได้อนุญาตเป็นกรณีพิเศษในการประดิษฐานพระบรมศพเป็นเวลา ๔ วัน *** ซึ่งตามปกติจะอนุญาตเพียงวันเดียว เพื่อให้ประยูรญาติที่อยู่ห่างไกลมาถวายบังคมลาเป็นครั้งสุดท้าย
รัชกาลที่ ๗ ไม่มีพระเมรุมาศ เนื่องจากพระองค์เสด็จสวรรคตที่ต่างประเทศ เเล้วประกอบพิธีอย่างเรียบง่ายที่สุด ก่อนสวรรคต พระองค์ทรงสั่งไว้ว่า....
“...ถ้าพระองค์สวรรคตเมื่อไร ให้ทรงพระภูษาแดง และทรงสะพักผ้าขาวผืนเดียวแล้วเอาลงหีบ แล้วจัดการถวายพระเพลิงพระบรมศพโดยเร็ว ไม่ต้องมีพิธีเกียรติยศอย่างใดทั้งสิ้น และขอให้เอาซอไวโอลินไปเล่นเพลงที่พระองค์โปรดเพียงคันเดียวในขณะที่กำลังถวายพระเพลิง...”
.... ณ ประเทศอังกฤษ ที่นั้น ต่างบ้านต่างเมือง งานพระบรมศพจัดอย่างเรียบง่ายที่สุด ตามพระประสงค์ก่อนที่พระองค์จะสวรรคต คือ ไม่ต้องมีงานออกพระเมรุฯ ไม่ต้องมีพระโกศ ไม่ต้องมีราชรถ ไม่ต้องประโคมย่ำ ไม่ต้องมีพระสวด ไม่ต้องเครื่องยศ แล้วเผาให้ไวที่สุด ไม่ต้องร้องไห้ ....
ในปี พ.ศ. ๒๔๙๒
หลังจากการเมืองภายในประเทศสงบลง รัฐบาลในขณะนั้น จึงได้กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ เสด็จนิวัตกลับราชอาณาจักรไทยเป็นการถาวร .... โดยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ ได้อัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว กลับมาด้วย
โดยทางกองพระราชพิธี ได้จัดเตรียมโกศ สำหรับบรรจุพระบรมอัฐิ ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตรไว้เมื่อพระบรมอัฐิมาถึง ก็เปลี่ยนใส่ทันที บนเรื่องพระที่นั่ง เจ้าพนักงานอัญเชิญพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ลงจากเรือพระที่นั่ง โดยมีสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ เสด็จพระราชดำเนินตามพระบรมอัฐิ ...
เรียบเรียงโดย : fb/โบราณนานมา