อารยประเทศที่เจริญแล้ว...เบื้องหลังมีแต่ความเจ็บปวดของมนุษย์!!!!
สวนสัตว์มนุษย์ (Human Zoo) หรือ นิทรรศการชาติพันธุ์ (Ethnological Expositions) ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1860-1958 เป็นการนำชนเผ่าพื้นเมืองในอาณานิคมชาติตะวันตกจากประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แอฟริกา , เอเซีย, อินเดียแดง หมู่เกาะในแปซิฟิก ฯลฯ มาจัดแสดงในหลายประเทศ ในยุโรปและสหรัฐ อาทิ อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส เบลเยียม ฯลฯ เพราะถือว่า นี่เป็นของแปลกสำหรับชาวตะวันตกทั่วไป !!?? ...... ซึ่งในหลายกรณีก็เป็นการลักพาตัวชนพื้นเมืองมาจัดแสดงกันดื้อๆ
อนึ่ง ประเทศคองโก (Congo Free State ในขณะนั้น) เป็นประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติมากมาย อยู่ในอันดับต้นๆของโลก ในทวีปแอฟฟริกา และเคยเป็นกรรมสิทธิ์ส่วนตัวของ คิงเลออปอลที่ 2 แห่งเบลเยียม (ค.ศ.1835-1909)
**** .... จากการสุมหัวกัน เอ๊ยๆๆๆๆ จากการประชุมแบ่งแอฟริการะหว่างเหล่าประเทศในยุโรป ที่กรุงเบอร์ลิน (The Berlin Conference of 1884–1885) โดยที่เจ้าของประเทศที่แอฟริกาไม่ได้รับรู้ ไม่เคยยินยอม ไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย
... ในช่วงนั้น ยางพารา จากคองโก ที่ครองส่วนแบ่งตลาดโลกมากกว่า 30% ถูกเรียกว่า "Red Rubber" เพราะวิธีที่ได้มานั้น มีเบื้องหลังที่โหดร้าย คร่าชีวิตชาวคองโกไปมากกว่าสิบล้านคน !!!
(คำว่า "Red" ในที่นี้ หมายถึง เลือด ..... ต่อมาเราก็มี "Blood Diamond" ที่คล้ายๆกับ "Red Rubber" ในอดีต)
เพื่อเพิ่มผลผลิต และกำไรจากยางพารา คิงเลออปอลที่ 2 ได้จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธ บังคับทุกหมู่บ้านในคองโก ให้ส่งแรงงานฯ ไปผลิตยาง หากไม่ส่ง หรือ ได้ยางไม่ครบตามจำนวนที่กำหนด หมู่บ้านนั้นจะถูกทำลาย หรือ ถูกจับตัดมือ !!!
ยังมีการจับตัวผู้คนมาเรียกค่าไถ่จากครอบครัว โดยเรียกค่าไถ่เป็นยาง จำนวนหนึ่ง ในหลายกรณีแม้จะรวบรวมยางได้ตามจำนวนค่าไถ่ แต่สมาชิกครอบครัวที่โดนลักพาตัว ก็ยังถูกทำร้ายจนเสียชีวิตไปแล้ว บ้างก็ถูกข่มขืน หรือ ถูกส่งไปยังสวนสัตว์มนุษย์ในเบลเยียม หรือ ถูกขายไปเป็นทาส !!!
จากกำไรเพียง 260,000 ฟรังเบลเบียม ในปี ค.ศ.1888 ก็เติบโตแบบก้าวกระโดดไปแตะที่ 47 ล้านฟรังเบลเบียมในปี ค.ศ. 1905 ...
"The Builder King"
คิงเลโอโพลที่ 2 ได้นำกำไรที่สูบมาจากคองโก มาพัฒนาเบลเยียมจนได้ชื่อว่าเป็น "The Builder King" ...... เพราะฉะนั้นสถาปัตยกรรม สิ่งปลูกสร้างที่สวยงาม ฯลฯ ที่เบลเยียมจากยุค คิงเลโอโพลที่2 มักจะมีหยาดเหงื่อ เลือดเนื้อ และชีวิตของชาวคองโก ซ่อนอยู่ในนั้นเสมอ .....
ต่อมาในปี ค.ศ.1908 คิงเลโอโพลที่2 ได้มอบมอบกรรมสิทธิ ที่เกี่ยวกับคองโก ทั้งหมดให้แก่รัฐสภาเบลเยียม เพราะถูกกดดันจากการกระทำที่ทารุณต่อชาวคองโก
ส่วนชาวชาวคองโก ที่ถูกบีบบังคับให้ใช้แรงงานเพื่อผลิตยางพารากันอย่างหนัก ก็ส่งผลให้การเพาะปลูกอาหารลดลงอย่างมาก นำมาซึ่งภาวะขาดแคลนอาหาร ต่อมา องค์ความรู้เกี่ยวข้องกับการเพาะปลูกที่ถ่ายทอดกันจากรุ่นสู่รุ่นก็ค่อยๆ สูญหายไปด้วย
ส่วนชาวชาวคองโก ที่ถูกบีบบังคับให้ใช้แรงงานเพื่อผลิตยางพารากันอย่างหนัก ก็ส่งผลให้การเพาะปลูกอาหารลดลงอย่างมาก นำมาซึ่งภาวะขาดแคลนอาหาร ต่อมา องค์ความรู้เกี่ยวข้องกับการเพาะปลูกที่ถ่ายทอดกันจากรุ่นสู่รุ่นก็ค่อยๆ สูญหายไปด้วย
หลังได้รับเอกราชในปี ค.ศ.1960 คองโก ต้องนำเข้าอาหาร แม้จะเป็นอาหารที่สามารถเพาะปลูกกันได้ง่ายๆ ก็ตาม....
ประมาณการว่า มีชาวคองโกเสียชีวิตในช่วงที่ตกเป็นอาณานิคมของเบลเยียมราวๆ 10-20 ล้านคน
ด้านการศึกษา ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ชาวคองโกได้รับการศึกษากันน้อยมาก ปี ค.ศ.1960 ที่คองโกได้รับเอกราช ปีนั้นทั้งประเทศ มีนิสิตฯ ที่จบจากมหาวิทยาลัยเพียง 30 คน
..... อาเมน
ภาพจาก Reddit ฯลฯ
เรื่อง - เรียบเรียง โดย : เพจ fb/ซิริอุส เป็นชื่อของดวงดาว