บทความนี้ ไม่ล้าสมัยเลย
ทั้งที่ เป็น บทความเมื่อ ๔๓ ปี ล่วงมาแล้วเรื่อง : เสรีภาพที่เป็นอันตรายที่สุด ...
โดย : ท่านพุทธทาสภิกขุ
โดย : ท่านพุทธทาสภิกขุ
[ สมัยนี้คนบูชาเสรีภาพโดยตามใจกิเลส ยุคที่กลายเป็นปีศาจในร่างของมนุษย์ ]
“.... ในมหาวิทยาลัยนี่ ก็ลองคิดดูซิ ก็มีการทะเลาะวิวาทกัน อย่างอันธพาลในหมู่นักศึกษา นิสิตกันเอง .... ไม่เคารพครูบาอาจารย์ เห็นครูบาอาจารย์เป็น "ลูกจ้าง" แล้วก็ไม่มีใครว่าอะไรใคร ไม่มีใครเห็นว่ามันเป็นของผิด ...ถ้าเป็นอย่างนั้นสมัยก่อน เพียง ๕๐ - ๖๐ ปีมาแล้ว เขาประณามเป็นเรื่องเสียหาย... เป็นเรื่องที่จะไม่มีอะไรที่น่าอับอายขายหน้าเท่ากับสิ่งเหล่านั้น ...
ถ้าในสํานักศึกษา อันเป็นที่สร้างดวงจิตดวงวิญญาณของมนุษย์เป็นอย่างนี้เสียแล้ว ... แล้วนอกนั้นมันจะเป็นอย่างไร ? เพราะอะไรๆ ก็ออกไปจากสํานักศึกษา เพราะว่าเราต้องผ่านสํานักการศึกษา จนกว่าจะเติบโต แล้วออกไป
ถ้าในสํานักสําหรับการศึกษานั้น เป็นแหล่ง "เพาะวิญญาณของ "ซาตาน" ของวัตถุนิยมเสียแล้ว .. มันก็หมดกัน ไม่มีอะไรเหลือ
ฉะนั้น ... ถ้าใครยังรักบ้านรักเมือง รักเกียรติยศ ของความเป็นมนุษย์แล้ว ก็ "ช่วยกันไปคิดให้ดีๆ" ช่วยกัน ต่อต้านไว้บ้าง อย่าไปตามก้นอาจารย์ฝรั่ง ไปเสียทุกอย่างทุกทาง ...
- สมัยนี้ คนบูชาเสรีภาพ โดยตามใจกิเลส
อยากจะไว้ผมยาว อยากจะแต่งตัว ให้แปลกประหลาด อยากจะมีเสรีภาพ ไม่รู้ว่าเสรีภาพอะไรกัน
ทีนี้ เสรีภาพที่เป็นอันตรายที่สุด ก็คือ การแสดงอะไรได้ตามชอบใจ เขียนก็จะเขียนได้ตามชอบใจ จะแสดงศิลปอะไรก็แสดงได้ตามชอบใจ ... ไม่ถือว่าเป็นลามกอนาจาร สิ่งที่เป็นลามกอนาจาร ก็บัญญัติกันเสียใหม่ว่า ไม่ใช่ลามกอนาจาร ....
เรื่องที่เขาแก้ไขกันเสียใหม่ ว่าไม่ลามกอนาจารนะ มันมากมายด้วยกัน การประกวดนางหน้าด้าน นั้น ก็กลายเป็นของดีของวิเศษ ของอะไรไป ... ทั่วโลกสมัยนี้ เขาเห็นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ที่ดีที่สุด ประกวดกันทุกหนทุกแห่ง ในโลกนี้ ผมเรียกว่าประกวดนางหน้าด้าน ถ้าหน้าไม่ด้านพอ ก็ไปเปิดแข้งเปิดขาเปิดอะไร แสดงอย่างนั้นไม่ได้ ...
ถ้าเป็นสมัยก่อน คุณย่า คุณยายเป็นลมตายแน่ ถ้าลูกหลานของแกไปทําอย่างนั้น เดี๋ยวนี้ เขาเห็นว่าถูกต้องดีงามไปหมด ....นี่ก็คือ "เสรีภาพ" ผลของเสรีภาพ มันเป็นอย่างนี้ นี้เป็นเรื่องที่เห็นได้ชัดๆ โต้งๆ แล้วที่มันยังละเอียด เห็นได้ยาก แฝงอยู่ในอะไรต่างๆ ยังมีอีกมาก ...
เสรีภาพในการเขียน ไม่มีใครว่าใครได้ แล้วก็เขียนเรื่องลามก อนาจาร ลงไปในหนังสือประจําวัน แพร่หลายทั่วไปหมด ย้อมนิสัยเด็กๆ ให้เสียไปโดยไม่รู้สึกตัว โดยไม่ต้องรู้สึกตัว เขียนเรื่องอ่านเล่นโดยนามปากกา ที่มีชื่อเสียง นิยมนับถือกันทั้งประเทศ แต่แล้วก็เขียนเรื่องที่ทําให้เด็กมีจิตใจเลวทราม เสื่อมเสียทางศีลธรรม โดยไม่รู้สึกตัว .... คุณไปเอาหนังสือพิมพ์มาพิจารณาดูเอาก็แล้วกัน ก็จะมองเห็น....
- ยังมีอะไรอีกมาก ที่ทําให้เด็กๆ กลายเป็นปีศาจในร่างมนุษย์
คนโตๆ ไม่เป็นไร ไม่กี่ปีก็ตาย.... แต่ว่า การที่ทําให้เด็กๆ มากลายเป็นอย่างนั้นนั้น มันน่าอันตรายอย่างยิ่ง เพราะว่าเขายังจะอยู่ไปอีกนาน ...
การพูดจาก็ดี การเขียนก็ดี ศิลปวัตถุ นิทรรศการ ภาพยนตร์ อะไรต่าง ๆ ล้วนแต่เป็นอย่างเดียวกันหมด เขามีเสรีภาพ มีอิสรภาพ มีเสรีภาพที่จะทํา ใครห้ามกันไม่ได้ หรือบางที เขาก็มีอํานาจอย่างอื่น มาช่วยให้เขาต้องทําหรือได้ทํา ...
เมื่ออ้างเสรีภาพไม่ได้ ก็ใช้อํานาจอย่างอื่นมาช่วยให้ได้ทํา เขาก็ทํากันทั่วไปหมดทุกหนทุกแห่ง ทุกหัวระแหง ทําลูกเด็ก ๆ ของเรา ให้กลายเป็นปีศาจในร่างมนุษย์มากขึ้นๆ เหลือที่จะป้องกัน เหลือที่จะแก้ไขแล้ว นี่แหละ คือ รากฐานอันแท้จริงของการเสื่อมทางศีลธรรม แล้วเรื่องอื่นๆ มันก็ต้องตามมาแน่นอน เรื่องอันธพาล เรื่องอะไรก็ตาม มันก็ต้องตามมามากเหลือที่จะประมาณได้
นี้มันก็ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เป็นเรื่องทั้งหมดของมนุษย์ หรือของโลกมนุษย์ ที่จะอยู่หรือว่าจะล่มจม
นี้มันก็ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เป็นเรื่องทั้งหมดของมนุษย์ หรือของโลกมนุษย์ ที่จะอยู่หรือว่าจะล่มจม
มีมูลมาจากการศึกษาแผนใหม่ วัฒนธรรมแผนใหม่ ที่มาจากข้างนอก เข้ามาสู่ประเทศไทย เรียกว่าเราอยู่ในยุคของอะไร ลองคิดดู ... พวกเรากําลังอยู่ในยุคอะไร....? ควรจะเรียก ชื่อของยุคนี้ว่ายุคอะไร ลองคิดดู .... ?
ส่วนผมนั้น สมัครเรียกว่า ยุคที่กลายเป็นปีศาจในร่างของมนุษย์”
จากธรรมเทศนาชุดชุมนุมล้ออายุ
หัวข้อเรื่อง 'ยิ่งจะทำให้ดี โลกมันยิ่งบ้า'
เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๑๓ กัณฑ์ค่ำ ณ ลานหินโค้ง
จากหนังสือชุดธรรมโฆษณ์ ชุมนุมล้ออายุ เล่ม ๑ หน้า ๕๑๕-๕๑๖,๕๑๙-๕๒๑