ค้นหาบทความ 🙄





5/11/66

จุดจบของประชาธิปไตย 🏴‍☠️

เมื่อเร็วๆ นี้ The Economist Intelligence Unit ได้ทำเซอร์เวย์ ผ่านรายงานดัชนีประชาธิปไตย เพื่อตรวจสอบสถานภาพของระบบประชาธิปไตยในโลกนี้ว่า มีความก้าวหน้า ทรงตัว หรือถอยหลังอย่างไร  ?? 

the-end-of-democracy


  ถ้าหากมองให้ลึกลงไป  .... จะเห็นได้ว่า การทำรายงานดัชนีประชาธิปไตยของ The Economist Intelligence Unit  ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของนิตยสาร  The Economist ของอังกฤษ มีเป้าหมายในการ "ยกยอ" ระบบประชาธิปไตยที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กลุ่มแองโกลอเมริกันให้เป็นโมเดลของโลก..


The Economist Intelligence Unit

      ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของนิตยสารThe Economist ของอังกฤษ สรุปในรายงาน Democracy Index Report สำหรับปี 2022 ว่า มีเพียง 8%ของประชากรโลกเท่านั้น ที่อาศัยอยู่ในประเทศที่มีระบบประชาธิปไตยที่ทำงานจริงๆอย่างเต็มที่ ...


ในขณะเดียวกัน 37% ของประชากรโลก อาศัยอยู่ภายใต้ประชาธิปไตยที่บกพร่อง ( flawed democracy) ส่วนอีก 55% ที่เหลือของประชากรโลกไม่ได้อยู่ในประชาธิปไตยเลย

   ถ้าหากมองให้ลึกลงไป จะเห็นได้ว่า การทำรายงานดัชนีประชาธิปไตยของ The Economist Intelligence Unit มีเป้าหมายในการผูกขาดการให้คำจำกัดความ หรือการเป็นเจ้าของโมเดลประชาธิปไตยของโลกใบนี้ ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกลุ่มแองโกลอเมริกัน The Economist Intelligence Unit ใช้ตัวชี้วัด 60 ตัว จาก 5 หมวดหมู่ด้วยกันคือ

  1. ขบวนการเลือกต้ัง และความหลายหลาก
  2. วัฒนธรรมทางการเมือง
  3. การมีส่วนร่วมของประชาชน
  4. การทำงานของรัฐบาล
  5. เสรีภาพของประชาชน

แต่ละหมวดหมู่ จะมีคะแนนให้ต้ังแต่ 0 ถึง 10 ในขั้นตอนสุดท้าย คะแนนจะได้จากการเฉลี่ยค่าของคะแนนของท้ัง 5หมวดหมู่

  • ประเทศที่ได้คะแนน 8-9 ถือว่ามีประชาธิปไตยเต็มใบ
  • ประเทศที่ได้คะแนน 6-7 ถือว่ามีประชาธิปไตยที่บกพร่อง
  • ประเทศที่ได้คะแนน 4-5 ถือว่าเป็นประเทศไฮบริดระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตย
  • ประเทศที่ได้คะแนน 1-3 ถือว่าเป็นประเทศเผด็จการหรืออำนาจนิยม

เหตุการณ์ใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นสงครามยูเครน หรือมาตรการคุมเข้ม ตั้งแต่มี Democracy Index Report ในปี 2006 คะแนนประชาธิปไตยเฉลี่ยของโลกได้ลดจาก 5.52 เป็น 5.29 ในปี 2022

สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งทั่วโลกมองว่าเป็นเสาหลักของระบบประชาธิปไตย The Economist Intelligence Unit จัดได้คะแนน 7.8 หรือมีอันดับที่ 30 หรือลดลด 4 อันดับจากปี 2021 เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ 

คะแนนระดับนี้ ทำให้สหรัฐเป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยที่บกพร่อง โดยThe Economist Intelligence Unit ให้เหตุผลว่า ...  สหรัฐมีปัญหา  ไล่เลียงมาจากวัฒนธรรมทางการเมืองที่ตกต่ำจากความแตกแยก จนไปถึงเรื่องธรรมาภิบาล แม้ว่าจะมีประชาธิปไตยที่บกพร่อง แต่สหรัฐจะยังคงมีการเลือกตั้งที่เสรี และยุติธรรม รวมท้ังประชาชนมีสิทธิเสรีภาพ

 ความจริงแล้ว จะบอกว่า  สหรัฐมีประชาธิปไตยที่บกพร่อง ไม่ถูกต้องเลยทีเดียว ... เนื่องจาก ... ในระบบ 2 พรรคการเมืองของสหรัฐที่มี พรรครีพับรีกันและพรรคเดโมแครต ไม่ได้มีความแตกต่างอะไร โดยท้ังในเรื่องอุดมการณ์ นโยบาย หรือแนวทางการบริหารประเทศ เพราะว่าต่างก็มีผลประโยชน์ร่วมกัน ในการดูแลผลประโยชน์ของพวก Military Industrial Complex  ที่ก่อสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด และพวก แบงค์เก้อร์  ที่เป็นตัวแทนของวอลล์สตรีทที่สร้างระบบหนี้ ที่ไม่มีวันชดใช้หมดให้กับท้ังรัฐบาลกลาง และสังคมอเมริกัน ทำให้ชนชั้นกลาง และชนชั้นล่างอเมริกันนับวันจะถูกทอดทิ้งข้างหลังให้เผชิญกับความแร้นแค้นทางเศรษฐกิจ เบื้องหลังรัฐบาลสหรัฐยังมีรัฐลึกควบคุมอยู่ ... ??!! 


นายโรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี้ จูเนียร์   หลานชายของอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้ ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการรณรงค์หาเสียง เพื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต เพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ได้กล่าวว่า: 

   “เราต้องกำจัดการควบคุมรัฐบาล โดยพวกบริษัท ประชาธิปไตยของเรากำลังพัฒนาไปเป็นอำนาจเงินตราของบริษัท เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐบอกคนอเมริกัน 30 ล้านคนว่า กำลังจะโดนตัดคูปองอาหารไป 90% คนอเมริกัน 15 ล้าน คนถูกยกเลิก Medicare เดือนมีนาคม รัฐบาลให้เงิน $300 ล้าน ให้กับธนาคารซิลิคอน แวลเล่ย์ และให้ยูเครน $113,000 ล้าน ในขณะที่คนอเมริกัน 57% ไม่มีเงิน $1,000 สำรองในกรณีฉุกเฉิน”

นอกจากนี้ สหรัฐมีการส่งออกประชาธิปไตยผ่านการก่อสงครามในประเทศต่างๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น สงครามเกาหลี , สงครามเวียดนาม , ยูโกสลาเวีย , อัฟกานิสถาน , อิรัค ,ลืเบีย ซีเรีย  ที่ผ่านมา เพื่อไปครอบครองทรัพยากรธรรมชาติ หรือสร้างอิทธิพลทางการเมือง ทำให้สหรัฐโดยเนื้อแท้เป็นจักรวรรดินิยมทางทหาร มากกว่าที่จะเป็นปราการของประชาธิปไตยโลก !!! 

จะเห็นได้ว่า การทำดัชนี ประชาธิปไตยของ The Economist Intelligence Unit ให้คำนิยามของประชาธิปไตยตามเนื้อผ้าในเชิงแคบ โดยไม่มองโลกของความเป็นจริงว่า ... ประชาธิปไตยสหรัฐ ถูกใช้เป็นเครื่องมือของฝ่ายความมั่นคง ทหาร ธุรกิจ และการเงินที่ชักใยนักการเมืองให้บริหารประเทศเพื่อผลประโยชน์ของรัฐลึก โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม ทำให้การเลือกตั้ง หรือการมีส่วนร่วมของประชาชนในขบวนการทางการเมืองเป็นเพียงพิธีกรรมที่ฉวบฉวย หาสาระไม่ได้เท่านั้น " 

ดัชนีประชาธิปไตยของ The Economist Intelligence Unit ให้คะแนนแคนาดา 8.88, ให้คะแนนเครือจักรภพอังกฤษ 8.28, ให้คะแนนออสเตรเลีย 8.71, ให้คะแนนนิวซีแลนด์ 9.61

ในกลุ่ม Five Eyes ที่ประกอบด้วยสหรัฐ แคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งมีการแชร์ข้อมูลหรือข่าวกรองลับระหว่างกัน มีเพียงสหรัฐเท่านั้นที่มีประชาธิปไตยที่บกพร่องตามดัชนีประชาธิปไตย ส่วนที่เหลือเป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยที่เต็มใบ ...

เรื่องนี้ช่างน่าขบขันเป็นอย่างยิ่ง  เพราะว่าเป็นการให้คะแนนตัวเองสำหรับผู้ออกข้อสอบ โดย The Economist Intelligence Unit ที่มีตระกูลรอธไชด์ที่ทรงอิทธิพลทางการเงินที่สุดในโลกเป็นเจ้าของ ..

  แคนาดา ได้คะแนนประชาธิปไตยเต็มใบได้อย่างไร ??  
 ในเมื่อมีการจับตัว เหมิ่น หว่านโจว ลูกสาวผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเหว่ยของจีน เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ท้ังๆที่เธอไม่ได้ทำผิดกฎหมายของแคนาดา แต่สหรัฐสั่งให้แคนาดาจับกุมเหมิ่น หว่านโจวในข้อหาที่คลุมเคลือว่าเธอละเมิดกฎหมายแซงชั่นอิหร่านของสหรัฐ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมืองกับจีน

      ต่อมามีการปล่อยตัวลูกสาวหัวเหว่ยหลังจากการเจรจาลับระหว่างสี จิ้นผิง กับโดนัล ทรัมป์ โดยที่แคนาดาไม่ได้รับรู้ แค่เป็นสมุนรับใช้เท่านั้น 

รัฐบาลแคนาดา โดยนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด  มีการใช้มาตรการบังคับให้ชาวแคนาดาต้องฉีดวัคซีนทุกคน มีการประท้วงโดยสิงห์รถบรรทุกด้วยการปิดถนนหนทาง และถูกทางเจ้าหน้าที่แคนาดาใช้กำลังปราบปราม นอกจากนี้ ผู้ที่ให้เงินสนับสนุนผู้ชุมนุมประท้วงมาตรการวัคซีนถูกอายัติบัญชีธนาคาร ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง 

ที่ตลกไปกว่านั้นคือ    ดัชนีประชาธิปไตยให้คะแนนเครือจักรภพอังกฤษ ว่ามีประชาธิปไตยเต็มใบ ท้ังๆ ที่สก็อตแลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือจักรภพอังกฤษต้องการแยกตัวออกเป็นรัฐอิสระ มีการทำประชามติเพื่อแยกเป็นรัฐอิสระในปี 2014 อังกฤษทำทุกอย่างเพื่อขัดขวางไม่ให้สก็อตแลนด์ได้อิสระภาพ เพราะว่า .... ถ้าแยกตัวออกไป จะทำให้อังกฤษ "เสียผลประโยชน์" อย่างมากเหลือคณา ปรากฎว่าคะแนนประชามติให้สก็อตแลน์คงอยู่ใต้อังกฤษต่อไป ท่ามกลางความแตกแยกอย่างรุนแรงในสก็อตแลนด์เอง

สก็อตแลนด์เป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยเต็มใบ แต่ไม่มีอำนาจอธิปไตยหรือมีอิสระภาพ ??? 

ไอแลนด์เหนือ และเวลส์   ก็ไม่พอใจนักที่ต้องอยู่ภายใต้เครือจักรภาพอังกฤษ รอวันประกาศเอกราช

ส่วน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ไม่ต้องพูดถึง  มีมาตรการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ร้ายแรงที่สุดในช่วงการควบคุมการระบาดของโควิด-19 เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียใช้มาตรการรุนแรงต่อผู้ประท้วงการล็อคดาวน์ที่ไม่สมเหตุสมผล ส่วนนิวซีแลนด์ล็อคดาวน์ท้ังเมือง เพียงแค่มีผู้ติดเชื้อไวรัสเพียงรายเดียว !!! 

พิธีบรมราชาภิเษกของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 

      สะท้อนให้เห็นว่า  อังกฤษยังคงปกครองด้วยระบบราชาธิปไตยที่เหนียวแน่น มั่นคงโดยใช้ระบบประชาธิปไตยบังหน้า ...  

สหรัฐและอังกฤษในฐานะผู้ชนะสงครามโลกคร้ังที่ 2   ได้สร้างระเบียบการเงินโลกใหม่ ผ่านการให้ดอลล่าร์เป็นเงินสกุลหลักของโลก, ระเบียบเศรษฐกิจโลกใหม่ผ่านระบบทุนนิยมเสรีนิยม, และระเบียบการเมืองโลกใหม่ผ่านระบบประชาธิปไตย เพื่อความสะดวกในการครอบงำโลก !!!

มีการสร้างค่านิยมของประชาธิปไตย  ... โดยเน้นการมีส่วนร่วมในทางการเมืองของประชาชน การเลือกต้ัง ความหลายหลาก สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ผ่านสื่อและระบบการศึกษาที่กลุ่มแองโกลอเมริกันควบคุม เพื่อให้ชาวประชาทั่วโลกยอมรับว่า ระบบประชาธิปไตยเป็นระบบการเมืองในอุดมคติที่ดีที่สุดในโลก หรืออย่างน้อยก็เลวน้อยที่สุดในโลก ...

สิ่งที่ตามมาคือ ...  ประชาชนในประเทศต่างๆ ถูกชักจูงให้หันหลังให้กับระบบกษัตริย์ หรือระบบเผ่าพันธุ์ดั้งเดิมที่เข้มแข็งอยู่แล้วในการรักษาความมั่นคงของชาติ แล้วไปรับเอาระบบประชาธิปไตย พร้อมกับเสรีนิยมทุนนิยมที่มาพร้อมกันเหมือนคู่แฝด ที่ดู "เหมือนว่าดี" แต่กาลเวลาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า .

..... ระบบประชาธิปไตย+เสรีนิยมทุนนิยม สร้างแต่ความแตกแยก การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย การสร้างความเหลื่อมล้ำ สร้างความไร้เสถียรภาพทางการเมืองทำให้ง่ายที่มหาอำนาจจะเข้ามาแทรกแซงการเมืองภายใน

ประชาธิปไตย ทำให้เกิดนักการเมือง และนายทุนพ่อค้าพันธุ์ใหม่ ที่มุ่งสร้างผลประโยชน์ ความมั่งคั่งให้ตัวเอง ผ่านการเข้ามาแสวงหาอำนาจทางการเมือง และลดอำนาจของระบบการปกครองแบบดั้งเดิม โดยมีผลประโยชน์ร่วมกับทุนนอกผ่านขบวนการโลกาภิวัฒน์ 

Democracy Index Report 2022  ให้คะแนนประชาธิปไตยเต็มใบสูงสุดให้กับ ประเทศนอร์เวย์  ซึ่งเป็นประเทศในกลุ่มสแกนดินาเวีย นอร์เวย์มั่งคั่งจริง มีสวัสดิการทางสังคมสูง เพราะว่ามีทรัพยากรพลังงานที่อุดมสมบูรณ์ กองทุนมั่งคั่งของนอร์เวย์มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกมากกว่า$1ล้านล้าน เพียงพอที่จะดูแลประชากรของตัวเองที่มี 5ล้านกว่าคน ให้กินอยู่อย่างสบายๆ ในอนาคต ...แต่นอร์เวย์ถูกกล่าวหาโดยนักข่าวที่มีชื่อเสียงนาย Seymour Hersh ว่าร่วมมือกับสหรัฐ ในการก่อวินาศกรรมระเบิดท่อก๊าซ Nord Stream 1, 2 ที่รัสเซียใช้ส่งก๊าซไปยังเยอรมันนี ทำให้นอร์เวย์ได้ประโยชน์จากการขายพลังงานราคาแพงกว่าให้ยุโรป นอร์เวย์ต้องได้รับผลกระทบที่ตามมาอย่างแน่นอน จากรัสเซีย !!!

สวีเดน และฟินแลนด์   ถูกจัดอันดับให้มีประชาธิปไตยเต็มใบเหมือนกัน แต่การสมัครเข้าเป็นสมาชิกของนาโต้ ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือทางทหารของทั้งสองประเทศไม่ได้มีการทำประชามติล่วงหน้า แต่เป็นการขับเคลื่อนผ่านผู้นำทางการเมืองที่ได้รับอิทธิพลอีกทอดหนึ่งจากสหรัฐ หรืออังกฤษ ท่ามกลางความขัดแย้งทางทหารที่รุนแรงระหว่างนาโต้กับรัสเซียในสงครามตัวแทนที่ยูเครน แทนที่จะวางตัวเป็นกลาง สวีเดนกับฟินแลนด์กลับเลือกข้างไปอยู่กับนาโต้  ทำให้รัสเซียวางขีปนาวุธเล็งใส่ท้ังสองประเทศที่อยู่ดีๆ ก็เอาความมั่นคง หรือความปลอดภัยของประเทศไปเสี่ยงกับภาวะสงครามโดยที่ประชาชนไม่รู้เห็นเป็นใจด้วย !!!

ความเป็นประชาธิปไตย ของกลุ่มประเทศสแกนดินาเวีย ที่เป็นที่อิจฉาของคนทั่วโลกว่ามีรัฐสวัสดิการที่ดีที่สุด หรือมีระบบการปกครองที่สมบูรณ์ที่สุด ต้องได้รับการตีความใหม่ ...

เยอรมันนี  ได้คะแนนประชาธิปไตยเต็มใบหรือ 8.8 แต่เอาเข้าจริง เยอรมันนีเป็นประเทศที่ไม่มีอำนาจอธิปไตย เพราะว่ามีฐานทัพอเมริกันตั้งอยู่ และมีอาวุธนิวเคลียร์ของอเมริกันประจำการอยู่ ทำให้ไม่สามารถดำเนินนโยบายต่างประเทศ หรือความมั่นคงที่เป็นอิสระได้ แม้ว่าเยอรมันนีจะเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งของยุโรปก็ตาม ..

ส่วนฝรั่งเศส  ได้คะแนนประชาธิปไตยเต็มใบเหมือนกันที่ระดับ 8.07 ที่น่าสนใจคือนายแอมมานูแล มาครง ประธานาธิบดีของฝรั่งเศสได้ออกมากล่าวเมื่อเร็วๆนี้ว่า ได้เวลาแล้วที่ยุโรปจะมีนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระ โดยไม่ต้องขึ้นอยู่กับผู้ใด ??!!  เท่ากับว่า ...

 นายมาครงยอมรับว่า ยุโรปที่มีประชาธิปไตยระดับสูงแท้ที่จริงแล้วเป็นขี้ค่าทางการเมืองของสหรัฐ ? 

รัสเซีย   เป็นประเทศเผด็จการตามนิยมของดัชนีประชาธิปไตย เพราะว่าได้คะแนน 2.28 น้อยกว่ายูเครนที่ได้คะแนน 5.42 ท้ังๆ ที่ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียมีอำนาจเต็มเปี่ยมในการบริหารประเทศที่มีความมั่นคงสูง และมีเอกภาพภายในสูง ความแตกแยกน้อย ในขณะที่นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครนเป็นแค่หุ่นเชิด ของนาโต้ ต้องพึ่งพานาโต้ทางการเงิน และอาวุธยุทโธปกรณ์เกือบ 100%  เขาได้นำพายูเครนสู่หายนะของสงคราม โดยไม่มีการเจรจาสันติภาพ จนยูเครนอาจจะถูกลบออกจากแผนที่ได้ในอนาคต 

เบลารุส  ได้คะแนนประชาธิปไตยต่ำสุด ในยุโรปที่ 1.99 เพราะถูกมองว่าเป็นบริวารประเทศของรัสเซีย

จีน  ได้คะแนนประชาธิปไตย 1.94 หรือถูกมองว่าเป็นประเทศเผด็จการ ทั้งๆ ที่จีนกำลังก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจของโลก โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบประชาธิปไตย เพราะว่าใช้ระบบสังคมนิยม และมีพรรคการเมืองคือ พรรคคอมมิวนิสต์เพียงพรรคเดียวที่สามารถสร้างจีนให้พ้นจากความล้าหลังและความยากจน 

ในเวลานี้ เทคโนโลยีจีน ระบบอุตสาหกรรมการผลิตของจีน แสนยานุภาพทางทหารของจีนไม่เป็นรองใครในโลก ทำให้เห็นชัดเจนว่าประชาธิปไตยไม่ใช่ทางออกที่แท้จริงในการพัฒนาประเทศ ...

แน่นอนที่ได้คะแนนประชาธิปไตยต่ำสุดในเอเชียคือ เมียนมาร์ เนื่องจากถูกแซงชั่นโดยตะวันตกมาตลอด และมีรัฐบาลทหารปกครอง ...

ไทย และประเทศอาเซี่ยนจะมีคะแนนประชาธิปไตยครึ่งใบเท่าๆกัน ในระดับ 6-7 คะแนน แต่มันไม่ได้บอกอะไรมาก เพราะว่าเอเซี่ยน ต่างก็อยู่ภายใต้อิทธิพลของตะวันตกแทบทั้งนั้น ยกเว้นเมียนม่าร์ ลาว , กัมพูชา 

อินเดีย  ได้คะแนน 7.04 ซึ่งสมน้ำสมเนื้อ แต่อินเดีย มีอำนาจอธิปไตยเป็นของตัวเอง ไม่เหมือนญี่ปุ่นที่ได้ 8.33, เกาหลีใต้ที่ได้ 8.03, ไต้หวันที่ 8.99 แต่ไม่มีอำนาจอธิปไตยของตัวเอง เพราะดำเนินนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงตามใบสั่งของสหรัฐ ... 

ตะวันออกกลาง หรือแอฟริกา   มีระดับประชาธิปไตยต่ำ และไม่ค่อยจะมีความมั่นคง เนื่องจากถูกลัทธิล่าอาณานิคมทำลายมาหลายร้อยปี หลังจากได้รับเอกราช ก็ถูกแบ่งแยกและปกครอง เกิดสงครามกลางเมือง สงครามระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมท้ังการแทรกแซงของมหาอำนาจ

...ความจริงแล้วจะเอาประชาธิปไตย เป็นไม้บรรทัดมาวัดความศิวิไลของประเทศไม่ได้ 

   เนื่องจาก  อำนาจอธิปไตย (Sovereignty) มีความสำคัญหรือสูงกว่าประชาธิปไตย มีประชาธิปไตยแต่ไม่มีอำนาจอธิปไตย ก็ไม่มีความหมาย   เปรียบเหมือนขี้ข้าของผู้อื่น เช่น เยอรมันนี, ญี่ปุ่น , เกาหลีใต้ ที่มีคะแนนประชาธิปไตยสูง แต่สอบตกเรื่องอำนาจอธิปไตย  ส่วน จีน และ รัสเซีย  สอบตกคะแนนประชาธิปไตย แต่ได้คะแนนเต็ม ด้านอธิปไตย ที่สามารถกำหนดชะตาชีวิตของตัวเอง ...

ทุกวันนี้ เราเรียนรู้ หรือรับรู้ ประชาธิปไตยเหมือนกับว่า เป็นเป้าหมายที่ต้องเดินทางไปให้ถึง  หรือเป็นจุดจบด้วยตัวมันเอง ... ความจริงแล้ว ประชาธิปไตยที่ไม่ให้ความสำคัญของจารีตประเพณี เป็นอุปสรรคของการไปสู่ธรรมาธิปไตยที่เป็นระบบการปกครองในอุดมคติ

    ธรรมาธิปไตย คือ การถือธรรมเป็นใหญ่ ถือความจริง ความถูกต้อง ความดีงาม ความยุติธรรม การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ การไม่เบียดเบียนกัน การไม่ประสงค์ร้ายต่อกัน การไม่ทำสงครามฆ่ากัน ...

จะเห็นได้ว่า  ประเทศที่อ้างประชาธิปไตย ส่วนมากจะไม่มีธรรมาธิปไตย ที่ต้องไปควบคู่กับอำนาจอธิปไตย เมื่อไม่มีธรรมาธิปไตย ในท้ายที่สุดจะนำมาซึ่ง ความเสื่อม 

ประเทศไทยดั้งเดิม   ดีอยู่แล้ว ที่มีระบอบกษัตริย์ที่หวงแหนในอำนาจอธิปไตยของชาติ และมีเป้าหมายที่จะนำพาสังคมไทยไปสู่ธรรมาธิปไตย แต่ถูกรัฐประหารให้อ่อนแอลง มีการนำเอาประชาธิปไตยมาใช้ เพื่อควบคุมไทยให้อยู่ในระบบโลกที่ถูกวางกฎเกณฑ์เอาไว้แล้ว

ประชาธิปไตยกลายเป็นตัวถ่วง หรือเป็นอุปสรรคขัดขวาง การพัฒนาสังคมไทยไปสู่สังคมอุดมคติของธรรมาธิปไตย ? 

ถ้าจะวัดกันให้ถูกต้อง ต้องใช้ดัชนีอำนาจอธิปไตย หรือดัชนีธรรมาธิปไตยถึงจะถูก ในการวัดความเป็นประเทศที่สมบูรณ์มีสง่าราศี แทนที่จะใช้ดัชนีประชาธิปไตยที่ จอมปลอม และเต็มไปด้วยความบกพร่อง แต่โดยเนื้อแท้เป็นเครื่องมือของชาติตะวันตกที่จะแบ่งแยกและปกครองโลก


ในท้ายที่สุด เมตตาธรรมจะเป็นเครื่องค้ำจุนโลก ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่ฉาบฉวย


 10/5/2023 
บทความโดย : 



 


Admin Bee

สนับสนุน Misc.Today

นี่คือ ลิ้งค์พันธมิตร หรือที่เรียกว่า affiliate link ซึ่งหมายความว่า... หากคุณคลิ๊กลิ้งค์นี้ และซื้อผลิตภัณฑ์ อะไรก็ได้ ฉันจะได้ค่าคอมมิชชั่นเล็กน้อย สิ่งนี้จะช่วยสนับสนุนเว็บไซด์ และช่วยให้กำลังใจเราต่อไป


  ชาหมักคอมบูชะ Scoby doit  


 






 

คุณอาจสนใจ

5 บทความ ยอดนิยม ในรอบ 30 วัน

🟡 โพสต์แนะนำ

คริสเตียนไซออนนิสท์ คือใคร ? - Christian Zionist

ช่วงนี้ ผมติดตามหาข้อมูลเกี่ยวกับ อิสราเอล กับ ปาเลสไตน์ ครับ ส่วนใหญ่จะเป็นแนวประวัติศาสตร์เสียมาก เพราะผมมีความเชื่อส่วนตัวว่า การที่เราจะ...

Popular Posts

แนะนำหนังสือ


  BOOKs OF THE DAY








ผู้สนับสนุน







Xiaomi Kingsmith Walking Pad

 Xiaomi Kingsmith Walking Pad R1 Pro/ R2 ลู่เดิน/วิ่งไฟฟ้า พับเก็บได้ สำหรับการออกกำลังกายภายในบ้าน >> คลิ๊กดูเพิ่มอีก


ป้ายกำกับ / Tag labels

2475 (1) กฎหมาย (5) กฐิน (2) กรรม (5) กระเป๋า (3) กรุงเทพฯ (19) กรุงศรีอยุธยา (12) กล้องถ่ายภาพ (7) กลอน (4) กลาโหม (9) การเกษตร (7) การจัดเก็บ (3) การปกครอง (1) การเมือง (55) การศึกษา (131) กิจกรรมกลางแจ้ง (2) กีฬา (3) เกษตร (3) เกี่ยวกับสัตว์ (15) ไกลกังวล (1) ขงจื้อ (1) ขนม (2) ขอมไม่ใช่เขมร (6) ข้าว (3) ข่าวสาร (22) ขิง (1) เขมร (10) โขน (2) คณะราษฎร (11) คติธรรม (1) คนเล่านิทาน (15) ครัว (1) ครู (6) ความเชื่อ (12) ความรู้ (159) คอมมิวนิสต์ (34) คำภีร์ (2) คำสอน (11) เครื่องบิน (7) เงินตรา (4) จอมพล ป. พิบูล (1) จอมพล ป. พิบูลสงคราม (13) จีน (53) ช้าง (1) ชายแดนใต้ (5) ญี่ปุ่น (15) ดนตรีไทย (1) ดอกไม้ (1) เด็ก (5) เดนมาร์ก (1) ต้นไม้ (4) ตลาดนัด (1) ตำรวจ (2) เตา (1) เตือนภัย (17) แต่งงาน (1) ทรัพยากร (2) ทวิตเตอร์ (1) ทหาร (9) ท่องเที่ยว (28) ทะเล (3) ทัศนะ (51) ทำบุญ (5) ทำอาหาร (4) เทคโนโลยี (13) โทรศัพท์มือถือ (2) ธนบัตร (1) ธนาคาร (4) ธรณี (1) ธรรมชาติ (10) ธรรมในคำกลอน (1) ธรรมะ (6) ธรรมาธิปไตย (2) ธุรกิจ (10) นราธิวาส (3) นวดไทย (1) นักบิน (1) นักเรียน (4) นางใน (1) นาซี (1) นายกรัฐมนตรี (3) น้ำมัน (1) นิทานพื้นบ้าน (1) นิยาย (3) นิวเคลียร์ (1) เนปาล (1) แนะนำสินค้า (38) โนรา (1) ในหลวง ร.10 (1) ในหลวงรัชกาลที่ 9 (15) บริการ (3) บริหาร (3) บ่อน (1) บัตรเครดิต (2) บัตรประชาชน (1) บุคคล (42) บุญ (3) บุหรี่ (1) เบตง (1) แบรนด์ไทย (5) โบราณวัตถุ (13) โบราณสถาน (7) โบสถ์ (2) ประชาธิปไตย (54) ประท้วง (7) ประเทศไทย (178) ประธานาธิบดี (1) ประวัติศาสตร์ (150) ปรัชญาชีวิต (21) ปรีดี (2) ปลูกต้นไม้ (3) ปูติน (1) ผลไม้ (2) ผลิต (3) ผัก (1) ผิวสี (1) แผ่นดินไหว (1) ฝรั่งเศส (6) พม่า (6) พยาบาล (1) พระเจ้าตากสินมหาราช (2) พระนเรศ (1) พระพุฒาจารย์ (1) พระพุทธเจ้า (1) พระราชกรณียกิจ (4) พระสงฆ์ (10) พราหมณ์ (1) พิบูลสวัสดี (1) พิพิธภัณฑ์ (9) พุทธทาส (1) พุทธศาสนา (11) เพชรบุรี (3) เพลง (8) เพลงผ้า ปรพากย์ (1) แพทย์ (4) ฟาโรห์ (1) ไฟ (4) ไฟฉาย (1) ไฟฟ้า (1) ภัยพิบัติ (1) ภาคใต้ (6) ภาคอีสาน (1) ภาษา (10) ภาษิต (1) ภูเขาไฟ (1) ภูมิปัญญา (19) ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ (1) มวยไทย (5) มาเลเซีย (1) มุมไบ (2) มุสลิม (2) แม่ (1) ไม้ไผ่ (1) ยา (1) ยิว (3) ยูนนาน (1) เยาวชน (1) เยาวราช (1) รถเมล์ (3) รองเท้า (2) ระเบิด (3) รัชกาลที่ ๒ (1) รัชกาลที่ ๔ (3) รัชกาลที่ ๕ (7) รัชกาลที่ ๖ (1) รัชกาลที่7 (8) รัชกาลที่ ๘ (6) รัฐประหาร (7) รัสเซีย (12) ราชาศัพท์ (1) รามเกียรติ์ (1) เรือ (2) เรื่องเก่า (81) เรื่องเล่า (23) โรค (5) โรคระบาด (4) โรงงาน (1) โรงพยาบาล (10) โรงเรียน (16) โรฮิงญา (1) ลอนดอน (1) ละคร (1) ลัทธิ (2) ลัทธิมาร์กซ์ (3) ล้านนา (3) ลาว (4) ลิง (1) เลือกตั้ง (9) โลก (5) โลกร้อน (3) วัฒนธรรม (2) วัด (14) วันแม่ (1) วันสำคัญ (5) วิทยาศาสตร์ (9) วิทยุ (2) วิหาร (4) เวียดนาม (4) ไวรัล (1) ศัพท์ (1) ศาสนา (36) ศิริราช (5) ศิลปะ (5) ศิลปาชีพ (1) เศรษฐกิจ (3) สงขลา (1) สงคราม (50) สถานีรถไฟ (1) สนามบิน (2) สเปน (1) สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร (2) สมัยเมจิ (1) สยาม (13) สวนสนุก (1) สวิตเซอร์แลนด์ (2) สังคม (38) สำนวน (8) สิ่งประดิษฐ์ (13) สื่อ (3) สุขภาพ (13) สุภาพจิต (6) สุสาน (1) หนังแท้ (4) หนังสือ (31) หนังสือพิมพ์ (1) หนู (1) ห้องเรียน (4) เหมาเจ๋อตง (2) เหรียญ (1) อเมริกา (37) ออสเตรีย (1) อังกฤษ (6) อาชีพ (1) อาหาร (15) อาหารจานโปรด (8) อิตาลี (3) อินเดีย (8) อิสราเอล (3) อียิปต์ (1) อีสาน (1) แอปพลิเคชัน (4) ไอร์แลนด์ (1) cpr (1) deep state (1) democracy (1) Diarymisc (3) facebook (1) handmade (1) leather (1) marxism (1) metaverse (1) nomad (6) Nuclear (1) OPENUP (1) powerbank (1) shopee (1) Social media (2) social views (114) startup (1) UNESCO (4) xiaomi (1)


Miscellaneous | Misc.Today 🌱 . ขับเคลื่อนโดย Blogger.

 
miscthailand