“คนดี” ไม่ได้ดูที่ การทำดี เพียงเท่านั้น ...
จำไว้ว่า ไม่มีคนชั่วคนไหน ที่ทำแต่ความชั่ว โดยที่ไม่ทำความดีเลย แม้กระทั่ง ผู้ร้ายฆ่าคนตาย ก็ทำความดีบางอย่าง เช่น รักและดูแลลูก ดูแลครอบครัวตัวเอง ... โจรชิงทรัพย์ คนโกงบ้านเมือง ล้วนทำบุญ และ บริจาคเงินและสิ่งของให้ผู้ยากไร้ ...
ดังนั้น การพิจารณาคนดี จึงตัองดูจากการ ไม่ทำชั่ว เมื่อมีโอกาสให้ทำชั่ว ไม่เอาเปรียบ เมื่อมีโอกาสให้เอาเปรียบ ไม่โกง เมื่อมีโอกาสให้โกง
หลักในการเลือกคนดี
สำหรับแต่ละคน อาจแตกต่างกัน สำหรับผู้เขียนเอง หลักสำหรับการเลือกคนในชีวิตมีหลายระดับ
ถ้าเป็นคู่ชีวิต ขอให้มี ศีลห้า มีความเมตตากรุณาต่อกัน เป็นทีมเดียวกัน สนับสนุนส่งเสริมกัน ให้ทำความดี คอยตักเตือนกันให้ละเว้นความชั่ว และ ขัดเกลาจิตให้ใสขึ้น
>> ศีลห้า .... ไม่ใช่กฎข้อบังคับ ไม่ใช่ข้อห้าม แต่เป็นเครื่องมือปกป้องคุ้มครองตัวเอง และคนรอบข้าง ช่วยให้พบเจอความทุกข์และปัญหาในชีวิตลดน้อยลง
แต่ถ้าเป็นเพื่อน คนที่ทำธุรกิจด้วย และนักการเมือง ผู้เขียนขอแค่ 4 ข้อนี้ ซึ่งมีอยู่ในศาสนาส่วนใหญ่ และ แม้กระทั่งคนดีๆ ที่ไม่ได้นับถือศาสนาใดๆ ก็ใช้หลักนี้ ในการปฏิบัติตน และเลือกคบคน เช่นกัน
1 ไม่ฆ่า ไม่ทำร้าย ไม่เบียดเบียน ชีวิตและร่างกายผู้อื่น — ข้อนี้ชัดเจน มนุษย์รักชีวิต ไม่มีใครอยากถูกฆ่า ถูกทำร้ายร่างกาย
“กฎทอง” ของการอยู่ร่วมกัน ก็คือ อะไรที่เราไม่ชอบ ก็อย่าไปทำกับคนอื่น
2 ประกอบอาชีพสุจริต ถูกกฎหมาย ถูกศีลธรรม — รวมทั้ง ไม่ทำกิจกรรมผิดกฎหมาย หรือสนับสนุนให้คนทำกิจกรรมผิดกฎหมาย โดยให้เหตุผลของกิเลส ว่ากฎหมายล้าหลัง หรือริดรอนสิทธิเสรีภาพ ...
ทุกประเทศมีกฎหมายที่ต้องปฎิบัติตาม ถ้าไม่ชอบก็อาจต้องย้ายไปอยู่ประเทศอื่น ยกตัวอย่าง อเมริกา ซึ่งเป็นประเทศประชาธิปไตย ก็มีขอบเขตของสิทธิเสรีภาพ
ยกตัวอย่าง Pooper Scooper Laws ( กฎหมายเก็บอึน้องหมา ) กล่าวคือ เรามี "เสรีภาพ" ในการพาน้องหมาไปเดินเล่น แต่ถ้าน้องหมาของเราไปอึ๊หน้าบ้านคนอื่น เราต้องตามไปเก็บอึน้องหมาใส่ถุงมาด้วย ไม่งั้นผิดกฎหมาย ถูกปรับได้
3 ไม่ลักขโมย หรือฉ้อโกง — ไม่มีใครต้องการถูกขโมยของ หรือ ถูกโกง .... อะไรที่เราไม่ชอบ ไม่อยากให้เกิดกับเรา เราก็อย่าทำกับคนอื่น และที่สำคัญ อย่าทำกับประเทศชาติ...
มีคนบอกว่า นักการเมืองโกงทั้งนั้น หลายครั้ง เราก็ไม่รู้ว่าอันไหนจริง อันไหนเป็นการกล่าวหา แต่ที่รู้แน่ๆว่าโกงจริง ก็คือบรรดานักการเมืองที่เคยถูกศาลพิพากษาตัดสินว่าฉ้อโกงไปแล้ว
4 ไม่พูดโกหก พูดกลับไปกลับมา เป็นเด็กเลี้ยงแกะ (ขอยืมคำที่คุณวิกรม กรมดิษฐ์ พูดใน FB Live เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 มาใช้)
ไม่พูดเพ้อเจ้อ ไม่พูดจาฟังดูมีเหตุผลที่ดี บนเจตนาที่ไม่ดี (โจรผู้ร้าย หรือแม้แต่ฆาตกรฆ่าคน ล้วนมีตรรกะเหตุผลที่ดีในการทำชั่วทั้งสิ้น)
ไม่พูดจาส่อเสียด ยุแยง สร้างความขัดแย้งแตกแยก โจมตี ให้ร้ายผู้อื่น ( คุณวิกรม พูดถึงเรื่องนี้ด้วย) จำไว้ว่า คนที่พูด และ ทำในสิ่งที่สร้างความแตกแยก ไม่มีวันที่จะทำให้คนในประเทศสามัคคีปรองดองกันได้
คนที่มีความดีจริงๆ ไม่จำเป็นต้องต้องพูดถึงความไม่ดีของคนอื่นเลย เพราะแค่พูดถึงความดีที่ตัวเองเคยทำมา และกำลังทำอยู่ ก็มีเวลาไม่พอแล้ว จะไปพูดเรื่องคนอื่นทำไมให้เสียเวลา ? มีแต่คนที่ความดีของตัวเองมีไม่พอ จึงต้องเอาเวลาไปโจมตีคนอื่น บิดเบือน ด้อยค่าคนอื่นให้ต่ำลง เพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้นกว่าเดิม
เรื่องการโกหก ในสังคมสมัยใหม่ อาจมองว่า เป็นเรื่องเล็กน้อย คนจำนวนมากไม่มีศีลข้อนี้กันจนเป็นปกติ แต่ความจริงของโลก ที่ปฏิเสธไม่ได้ ก็คือ
“คนโกหก ไม่ทำชั่วนั้น ไม่มี”
ถ้าไม่เชื่อ ลองรับสมัครคนชอบโกหกมาทำงานในบริษัท หรือแนะนำให้ลูกคบเพื่อนที่ชอบโกหก หรืออาจแต่งงานกับคนโกหก ก็ได้ คนที่พูดกลับไปกลับมา สร้างความขัดแย้ง ยุแยง ให้ครอบครัว เพื่อนฝูง แตกแยก ก่อน แล้วดูว่าชีวิตลูกเราเป็นอย่างไร ? เอาลูกตัวเองเป็นหนูทดลองก่อนเลย อย่าเอาประเทศชาติ ที่มีบุญคุณยิ่ง เป็นเครื่องทดลอง ....
เราเลือกคบคนแบบไหน เราอยากให้ลูกหลานของเราเลือกคบคนแบบไหนในชีวิต ก็เลือกคนแบบนั้นให้ลูกดูเป็นตัวอย่างในทุกพื้นที่ของชีวิตเรา เลือกคนที่มีคุณธรรมเดียวกับเรา มาสร้างสังคมให้ลูกเราอยู่
ครูบาอาจารย์บอกว่า เราเมตตาทุกคน แต่ไม่ต้องคบทุกคน ถ้าเราไม่เลือกคบคนที่ไม่ผ่าน 4 ข้อข้างต้น และไม่สนับสนุนส่งเสริมให้ลูกหลานเรา คบคนที่ไม่ผ่าน 4 ข้อนี้ เราก็ไม่ควรทำร้ายประเทศ และ สังคมที่ลูกเราต้องอยู่ ด้วยการเลือกคน ที่ไม่ผ่าน ทั้ง 4 ข้อ นี้ เข้าไปในสภา
เราต้องช่วยกัน สร้างค่านิยมใหม่ให้ประเทศไทย เราไม่เอาคนทำร้ายร่างกาย คนทุจริต คนที่ศาลตัดสินว่าฉ้อโกง คนโกหก ยุแยง พูดสร้างความแตกแยก แต่เก่ง ฉลาด ตรรกะ เหตุผลดี ถูกใจเรา แต่ไม่ถูกต้องต่อประเทศ เข้าไปในสภา
คนที่ผ่าน 4 ข้อ นี้ อาจไม่ได้ทำอะไรถูกต้อง สมบูรณ์แบบ 100% อาจมีข้อบกพร่อง และทำผิดพลาด อาจมีความคิด คำพูด การกระทำบางอย่าง ไม่ถูกใจเรา และ เราไม่เห็นด้วย ซึ่งก็เป็นธรรมดาโลก ที่ไม่มีใครคิดถูก พูดถูก ทำถูก ตลอดเวลาทุกเรื่อง อยู่แล้ว รวมทั้งตัวผู้เขียนเอง
ดังนั้น หลัก 4 ข้อ ในการเลือกคนนี้ จะทำให้เรามีแกนให้เกาะ ให้เดิน ไม่หลงทาง สะเปะสะปะ ไปกับ สิ่งที่เราเห็นว่า ถูก-ผิด, ถูกใจ-ไม่ถูกใจ เห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย
ครูบาอาจารย์บอกว่า เราเมตตาทุกคน แต่ไม่ต้องคบทุกคน ถ้าเราไม่เลือกคบคนที่ไม่ผ่าน 4 ข้อข้างต้น และไม่สนับสนุนส่งเสริมให้ลูกหลานเรา คบคนที่ไม่ผ่าน 4 ข้อนี้ เราก็ไม่ควรทำร้ายประเทศ และ สังคมที่ลูกเราต้องอยู่ ด้วยการเลือกคน ที่ไม่ผ่าน ทั้ง 4 ข้อ นี้ เข้าไปในสภา
เราต้องช่วยกัน สร้างค่านิยมใหม่ให้ประเทศไทย เราไม่เอาคนทำร้ายร่างกาย คนทุจริต คนที่ศาลตัดสินว่าฉ้อโกง คนโกหก ยุแยง พูดสร้างความแตกแยก แต่เก่ง ฉลาด ตรรกะ เหตุผลดี ถูกใจเรา แต่ไม่ถูกต้องต่อประเทศ เข้าไปในสภา
คนที่ผ่าน 4 ข้อ นี้ อาจไม่ได้ทำอะไรถูกต้อง สมบูรณ์แบบ 100% อาจมีข้อบกพร่อง และทำผิดพลาด อาจมีความคิด คำพูด การกระทำบางอย่าง ไม่ถูกใจเรา และ เราไม่เห็นด้วย ซึ่งก็เป็นธรรมดาโลก ที่ไม่มีใครคิดถูก พูดถูก ทำถูก ตลอดเวลาทุกเรื่อง อยู่แล้ว รวมทั้งตัวผู้เขียนเอง
ดังนั้น หลัก 4 ข้อ ในการเลือกคนนี้ จะทำให้เรามีแกนให้เกาะ ให้เดิน ไม่หลงทาง สะเปะสะปะ ไปกับ สิ่งที่เราเห็นว่า ถูก-ผิด, ถูกใจ-ไม่ถูกใจ เห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย
บทความโดย :