เครื่องราชบรรณาการจากสยามสมัยรัชกาลที่ 4 ส่งไปพระราชทานพระเจ้านโปเลียนที่ 3 ถึงฝรั่งเศส ไม่ได้มีเพียงพระมหามงกุฎเท่านั้น แต่ยังมีช้างสยามอีก 2 เชือก ที่มีชีวิตอยู่ที่นั่นนานกว่า 10 ปี
แต่อนิจจา ช้างทั้ง 2 เชือก ต้องเผชิญชะตากรรมน่ารันทด และจบชีวิตลงด้วยฝีมือทหารฝรั่งเศส ใน ค.ศ.1870 เกิดอะไรขึ้นกับของขวัญจากสยาม
ช้างบรรณาการจากสยามได้รับการต้อนรับที่ปารีสอย่างอบอุ่น พระเจ้านโปเลียนที่ 3 ได้ทรงมอบให้หน่วยงานของสวนสัตว์กรุงปารีส รับหน้าที่เป็นผู้ดูแลเป็นอย่างดี จนพอจะคุ้นเคยกับสภาพภูมิอากาศแบบเมืองหนาว และมีชื่อเสียงอย่างกว้างขวางกับเด็กๆ ที่มาเยี่ยมเยียนสวนสัตว์อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เมื่อใดที่มีการโฆษณาหรือพูดถึงสวนสัตว์ Jardin des Plantes ช้างสยาม 2 เชือกนี้ก็จะเป็นดาวเด่นในใบโฆษณาเสมอ
พระเจ้านโปเลียนที่ 3 ได้พระราชทานชื่อใหม่อัน โก้หร่าน ( ความหมายจาก พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน โก้หร่าน แปลว่า หรูหราภูมิฐาน (มักใช้แก่กิริยาแต่งตัวหรือการแสดงกิริยาอื่น ๆ). ) ให้ช้างบรรณาการคู่นี้ว่า คาสเตอร์ และพอลลุกซ์ (Castor & Pollux) ตามชื่อของพระโอรสแฝดของเทพธิดาลีด และเทพเจ้าซีอุส (Leda & Zeus) ทำให้ช้างทั้งคู่มีสถานภาพค่อนข้างมีเส้นสายกับทางราชสำนักและมีกิตติศัพท์พอควร
คาสเตอร์ และพอลลุกซ์ (Castor & Pollux) ใช้ชีวิตอยู่ภายในสวนสัตว์กรุงปารีสจนมี อายุราว 14 ปี ก็เกิดวิกฤติการณ์ทางการเมืองขึ้น ในปลายรัชกาลของพระเจ้านโปเลียนที่ 3 และส่งผลต่อความเป็นอยู่ของคาสเตอร์ และพอลลุกซ์ โดยตรง
ในปี ค.ศ. 1870-71 สงครามฟรังโก-ปรัสเซีย ได้อุบัติขึ้น ส่งผลให้ฝรั่งเศสพ่ายแพ้อย่างยับเยิน พวกสาธารณรัฐนิยมในปารีส ฉกฉวยโอกาสทำการปฏิวัติล้มราชบัลลังก์ แล้วจัดตั้งระบอบสาธารณรัฐขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยโจมตีและประณามพระเจ้านโปเลียนที่ 3 ว่าเป็นต้นเหตุของความพ่ายแพ้และอับจน ทรงถูกจับและเนรเทศออกนอกประเทศอย่างน่าเวทนา คุณความดีของราชวงศ์โบนาปาร์ตลบเลือนออกไปจากหัวใจของประชาชนจนหมดสิ้น
กรุงปารีสถูกปิดล้อมนานหลายเดือน เกิดยุคข้าวยากหมากแพง แต่ในปารีสเป็นที่อยู่ของทั้งคนรวยและคนจน คนจนต้องจับหนู และเอาหมาแมวที่ตนเลี้ยงไว้มากินกันตาย แต่คนร่ำรวยที่อยู่ในปารีสก็ยังพอใช้เงินซื้อหาอาหารได้ แต่ที่ขาดแคลนคืออาหารชั้นดี ที่คนมีฐานะต้องการในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ของสังคมมีระดับ
ปลายปี ค.ศ. 1870 ทางการจึงตัดสินใจ ชำแหละเนื้อของสัตว์ในสวนสัตว์อันเป็นแหล่งเนื้อชั้นดีแห่งเดียวที่เหลืออยู่ แต่กองกำลังป้องกันชาติตั้งกองกำลังดูแลสัตว์จากการถูกขโมยมาปีกว่า แต่แล้วในที่สุด ช้างสยาม 2 เชือกสุดท้าย คาสเตอร์ และพอลลุกซ์ (Castor & Pollux) ซึ่งเป็นของขวัญจากพระเจ้ากรุงสยาม ก็ถูกสังเวยชีวิตเพื่อเอาใจคนมีฐานะ คาสเตอร์ และพอลลุกซ์ ถูกฆ่าและชำแหละที่ร้านขายเนื้อ เป็นเมนูอาหารชั้นเลิศ ณ ภัตตาคารหรูของปารีส เป็นข่าวเกรียวกราวไปทั่วยุโรปต้นปี ค.ศ. 1871
อ้างอิง
คัดบางส่วนมาจากบทความ “ช้างบรรณาการ” จากรัชกาลที่ 4 จบชีวิตที่ร้านขายเนื้อกรุงปารีส จริงหรือ? โดย ไกรฤกษ์ นานา ในนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับกันยายน 2559
เรียบเรียงอีกครั้งโดย
กลุ่ม...ค้นภาพเก่ามาเล่าประวัติศาสตร์ โดย ณัชชา หิรัญธนาบดี · 8 มกราคม เวลา 20:00 น.
(ภาพจาก THE ILLUSTRATED LONDON NEWS, 28 January 1871)
BOOKs OF THE DAY
Fooled by Randomnessrade
ในโลกที่หาคนประสบความสำเร็จได้ง่ายกว่าการหาคนธรรมดา เราอาจเชื่อกันว่า ความสำเร็จของใครสักคนมันเกิดขึ้นได้เพราะความเก่งและความขยันของเขาที่มากกว่าคนทั่วไปนัก แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง แล้วทำไมคนอีกตั้งมากมายที่ขยันเหมือนกัน เก่งเหมือนกัน กลับไม่ประสบความสำเร็จได้อย่างที่ควรจะเป็น แท้จริงแล้วคนที่ประสบความสำเร็จนั้นขยันกว่า เก่งกว่า หรือแค่เพราะว่าเขาโชคดีกว่าคนอื่นกันแน่? >> ดูเพิ่มเติม