องค์กรระดับโลก จึงไม่มีทางปล่อยให้ “รางวัลสันติภาพ” อยู่ในมือใครอยู่ฝ่ายเดียว
โดยเฉพาะถ้ามันอยู่ในมือของคณะกรรมการจากเมืองเล็ก ๆ ในสแกนดิเนเวีย ...
ฟีฟ่า จึงตัดสินใจ ด้วยความเงียบแบบทรงพลัง ... ว่า
“โลกต้องการรางวัลสันติภาพใหม่
และ…เรานี่แหละจะเป็นคนให้มัน”
การถือกำเนิดของ ⚽ FIFA Peace Award จึงไม่ใช่เหตุการณ์ธรรมดา แต่มันคือเหตุการณ์ระดับ “การกำเนิดองค์กรสันติภาพคู่ขนานโดยไม่ได้ตั้งใจ” !!!
เหมือนโนเบล มีฝาแฝดที่สูญหายตั้งแต่เด็ก แล้ววันหนึ่งก็กลับมาพร้อมชุดแข่งฟุตบอลเต็มยศ ( คุณพระ !!! )
⚽ ฟีฟ่าเป็นองค์กรฟุตบอล แต่ถ้าอยากเป็นองค์กรสันติภาพ จะต้องปรับยังไงล่ะ ?
หลายคนดูแล้วคงคิดว่า ฟีฟ่าอยากเป็น โนเบลสาขาฟุตบอล
เหมือนเด็กอยากได้ถ้วยรางวัล แต่ไม่เคยได้ ก็เลยประกาศตั้งรางวัล
“ผู้สร้างสันติภาพด้วยลูกบอล” ขึ้นมาแทน ....
และสิ่งที่ทำให้โลกตะลึงคือ…
ผู้ได้รับรางวัลคนแรก คือ… โดนัลด์ ทรัมป์
แหม ฟังแล้วเหมือนมุกที่หลุดจากรายการ “เสียดสีการเมืองตอนตีสองครึ่ง”
แต่ไม่ใช่ .... นี่มันเกิดขึ้นจริง นะจ๊ะ และฟีฟ่าก็ยิ้มปลื้ม แบบไม่แคร์เสียงวิจารณ์ ตั้งแต่ชาวโลก ยันชาวดาวอังคาร ต่อเนื่องไปถึงดาวพลูโต ลากยาวจนไปถึง ดาวเคราะห์แคะ !!!
“ผู้สร้างสันติภาพด้วยลูกบอล” ขึ้นมาแทน ....
และสิ่งที่ทำให้โลกตะลึงคือ…
ผู้ได้รับรางวัลคนแรก คือ… โดนัลด์ ทรัมป์
แหม ฟังแล้วเหมือนมุกที่หลุดจากรายการ “เสียดสีการเมืองตอนตีสองครึ่ง”
แต่ไม่ใช่ .... นี่มันเกิดขึ้นจริง นะจ๊ะ และฟีฟ่าก็ยิ้มปลื้ม แบบไม่แคร์เสียงวิจารณ์ ตั้งแต่ชาวโลก ยันชาวดาวอังคาร ต่อเนื่องไปถึงดาวพลูโต ลากยาวจนไปถึง ดาวเคราะห์แคะ !!!
เพราะ ในศตวรรษที่ 21 นี้
- ใครคุมลูกบอล = คุมการเล่าเรื่อง
- ใครคุมการเล่าเรื่อง = คุมภาพลักษณ์
- และใครคุมภาพลักษณ์ = คุมความหมายของคำว่า “สันติภาพ” ได้ !!!
ฟีฟ่าจึงเปลี่ยนจากองค์กรฟุตบอล กลายเป็นนักเล่าเรื่อง เชิงภูมิรัฐศาสตร์ ที่ใส่สูทแล้วดูดีกว่าผู้นำประเทศบางคนด้วยซ้ำ (ว้าวว)
แล้ววงการอื่นล่ะ? ... จะมีโอกาส ทำแบบฟีฟ่าได้ไหม พอเห็นฟีฟ่าตั้งรางวัลออกมาเอง .... โลกกีฬาก็เริ่มสั่น ๆ ว่า…
เอ๊ะ หรือกูต้องมีบ้าง?
🏀 FIBA (บาสเก็ตบอล)
FIBA Peace Through 3-Point Award – ยิงสามแต้มเพื่อความสงบสุข
เอ๊ะ หรือ “จะตั้ง Basketball Peace Prize ดีไหม?
ผู้ชนะ คือ คนที่เลิกทะเลาะกัน เพราะบาสเก็ตบอล”
ในจินตนาการคือ ภาพผู้เล่นสองทีมตีกันใน NBA แล้วอยู่ดีๆ ก็หยุดขึ้นมาเพราะผู้ตัดสินประกาศว่า
“ผู้ชนะคนต่อไปต้องเป็นคนดีนะครับ ไม่งั้นอดได้รางวัลสันติภาพ!”
…แล้วทุกคนก็ยิ้มกอดกัน บางคู่อาจจะจูบปากกัน แบบละครหลังข่าว ...
(ในความเป็นจริง คือ ไม่มีทาง)
🏐 FIVB (วอลเลย์บอล)
FIVB Harmony Award – วอลเลย์บอลสันติสุขแห่งจักรวาล
เอ๊ะ !!!! “หรือเราควรมีรางวัล Harmony Spike Award ดี?”
จินตนาการ : ทีมวอลเลย์ที่พลาดท่าโดนบล็อก แต่ยังเดินไปตบไหล่คู่แข่งว่า “คุณตบสวยมากค่ะ” จากนั้นกรรมการก็เดินมาให้โล่รางวัลกลางสนาม …ใช่ มันเหมือนภาพหลุดจากหนังคอมเมดี้มากกว่า 😂
🥊 World Boxing Brotherhood Cup – ต่อยกันเพื่อมิตรภาพ ( จริงดิ )
🏎️ Formula 1 Green Spirit Medal – เพราะความเร็ว 300 กม./ชม. คือพลังอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม…ประมาณนั้น ( เผาน้ำมันซะขนาดนั้นอ่ะนะ !!! )))
🥇 ปัญหา คือ…ฟีฟ่ากล้ามาก ??!!!
ปกติเวลาจะตั้งรางวัลระดับโลก ต้องมีอะไรสวย ๆ ป่ะ (วะ)
- คณะกรรมการกลาง ไรงี้
- มีเกณฑ์โปร่งใส บลา บลา 1234
- ภาพลักษณ์วิชาการ .... ?
- ฟีล Nobel Prize แบบ “แสงเทพส่องลงมา” ...?
แต่ฟีฟ่ามาแนวใหม่เลย....
“ไม่ต้องรอใครให้รางวัลพวกเรา ไม่ต้องรอโนเบลเราตั้งเอง แถมให้ใครก็ได้ ตามที่อยากจะให้ด้วย!” ( ถ้ามีผลประโยชน์และอำนาจมากพอ ...นะ)
ความมั่นใจนี้ ทำให้หลายวงการกีฬา ต้องหันมามองตัวเองว่า
หรือในอนาคตจะเห็น IOC ตั้งรางวัล
“Olympic Prize for World Kindness”
หรือ ITF ตั้งรางวัล
“Grand Slam for Global Peace”
ก็เป็นได้ ....
🏛 แล้ว.... ถ้าวงการการเมืองเอาตาม… ล่ะ ?
“การทำนายโลกอนาคตที่อาจเกิดขึ้นจริงในอีก 48 ชั่วโมง” 😂
แน่นอน บทความนี้เป็น satire แต่ลองมองภาพ นะ....
ปี 2030 (เวอร์ชันสมมติ)
สมาคมกีฬาแต่ละชนิดจัด “Peace Award” ของตัวเอง
จนถึงขั้นที่มีเวทีใหญ่ชื่อ Global Peace In Sports Gala
แล้วทุกวงการ ก็มีรางวัลสันติภาพ ยิ่งกว่าประเทศที่มีธงชาติ ....
แต่ไคลแม็กซ์จริง ๆ อยู่ตรงนี้…
🌐 วันหนึ่ง รางวัลสันติภาพในโลกกีฬาก็เยอะจนล้นโลก
จนมีคนนั่งนับได้ว่า
จำนวนรางวัลสันติภาพในโลกกีฬานั้น
มากกว่าเหตุการณ์สันติภาพจริงที่เกิดขึ้นบนโลก (ฮ่า) 😂
ในขณะเดียวกัน โนเบลเอง อาจนั่งกุมขมับ และอาจจะปวดตับร่วมด้วย
เพราะอยู่ดีๆ โลกกีฬาก็เปิดศึกแข่ง “แจกสันติภาพ” รัว ๆ แบบเป็นอุตสาหกรรม...
เรื่องนี้มันตลกแบบเจ็บจิ๊ด ....
เพราะมันสะท้อนความจริงอันขมอมหวาน(น้อย) ว่าในยุคนี้
- เรื่องรางวัล = เรื่องการเมือง
- เรื่องสันติภาพ = เครื่องมือทางภาพลักษณ์
- องค์กรกีฬา = กลไก PR ที่ทรงพลังพอๆ กับสื่อยักษ์ใหญ่
- และโลกเราก็…ตลกแบบจริงจังขึ้นทุกวัน
ทุกคนอยาก “ประกาศตัวว่าเป็นฝ่ายสันติภาพ”
แม้บางที…
*เก้าอี้ที่พวกเขานั่งอยู่จะโยกเยกว่าเรือกลางพายุเสียอีก
( * *ภาพลักษณ์สันติภาพที่โชว์ออกมา =
ไว้บังความวุ่นวายที่อยู่ข้างหลัง ]
ทำไมถึงกลายเป็นจุดศูนย์กลางของความฮา ในเรื่องนี้ ....
ก็เพราะมัน “ขัดแย้งกับความคาดหวังของโลก” แบบเต็ม ๆ
รางวัลสันติภาพจากองค์กรกีฬาโลก หรือ องค์กร 5เหว ไหนก็แล้วแต่
→ ควรจะได้คนที่ทำงานเพื่อหยุดสงคราม ช่วยผู้ลี้ภัย ส่งเสริมมนุษยธรรม ฯลฯ
แต่ ฟีฟ่า เลือก ทรัมป์ ซึ่งในมุมมองของโลก ก็มีความคิดเห็นหลากหลายเกี่ยวกับเขา
จึงเกิดบรรยากาศแบบ…ว่า
- จริงเหรอ?
- หรือมุก?
- หรือ PR?
- หรือเป็นตอนใหม่ของ *The Apprentice?
* “The Apprentice” หมายถึง รายการเรียลลิตีโชว์ชื่อดังของสหรัฐฯ ที่โดนัลด์ ทรัมป์เป็นทั้งพิธีกรและบุคคลศูนย์กลางของรายการ ก่อนที่เขาจะกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ
โลกกีฬาดูเหมือนกำลังเข้าสู่ยุค
“รางวัลเพื่อให้ใครบางคนพอใจ”
มากกว่า
“รางวัลเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ”
แต่ก็ไม่เป็นไร ...
เพราะโลกทุกวันนี้ ก็ต้องการเสียงหัวเราะอยู่ดี
และฟีฟ่า ก็เหมือนจะรับบท Joker ของวงการกีฬา
สร้างโมเมนต์ตลก ๆ ที่ทั้งโลกงง แต่ก็หยุดพูดถึงไม่ได้ ....
⭐ บทสรุปแบบเจ็บคอเพราะกลั้นหัวเราะ
รางวัลสันติภาพของฟีฟ่า ไม่ใช่เรื่องผิด และ ... ไม่ใช่เรื่องตลก และ ไม่ใช่เรื่องที่ควรจริงจังเกินไป
มันคือ สัญลักษณ์ของยุคสมัย ที่บอกเราว่า:
“ถ้าโลกยังวุ่นวาย เราจะสร้างสันติภาพจากอะไรก็ได้ แม้แต่จากลูกบอลที่ถูกเตะด้วยความแรง 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง”
และตราบใด ที่โลกยังต้องการเรื่องเล่าสวยงาม
รางวัลสันติภาพ—ไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม—
จะยังคงถูกผลิตขึ้นอย่างประณีต
เหมือนสินค้าแฟชั่นตามฤดูกาล
สุดท้ายแล้ว ...
เรายืนอยู่ในโลกที่ทุกอย่างสามารถกลายเป็นรางวัลได้
ตราบใดที่ผู้มอบรางวัล…อยากเป็นผู้ถูกมอง
จึงไม่น่าแปลกใจที่ฟีฟ่าเริ่มก่อน
แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่า คือ
จะมีใครกล้าตามไปไกลกว่านี้อีกไหม?
[ กูว่าไม่มี.... ]
แต่ถ้าจะได้คำตอบที่ดีที่สุดคือ ต้องถามทรัมป์ว่า
“แกจะพอได้หรือยัง”
ถ้าตอบว่า
พอ = ไม่มี
ไม่พอ = ก็คงจะมีวงการกีฬา หรือองค์กร 5เหว แหกันสร้างรางวัลแนวนี้ออกมาเพิ่ม ให้เราขำกันได้อีกแหละ...
จบ ครับ




.jpg)
