ใครที่เคยกลัวว่า จะต้องทุกข์ทรมานจากการเห็นโลกล่มสลาย สิ้นสุดลง ก็คลายกังวล ได้นะครับ ไม่ได้เห็นแน่นอน ....
จากวันนี้ถึงวันนั้น จะมีปรากฎการณ์ตามธรรมชาติ ที่ทำนายได้เกิดขึ้นมากมาย จะเอามาเล่าเฉพาะที่สำคัญมากๆดังต่อไปนี้ละกัน ...
⚠️ การหยุดชะงักของกระแสน้ำเย็นและกระแสนํ้าอุ่นในมหาสมุทร
กระแสน้ำทั้งสองอย่าง ที่เป็นในปัจจุบันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 34 ล้านปีที่แล้ว หรือเมื่อ 10 นาทีที่แล้วตามนาฬิกาโลก 24 ชั่วโมงของเรา เมื่อทวีปแอนตาร์กติก แยกตัวออกจากทวีปอเมริกาใต้ จนทำให้เกิดช่องทางเปิดจนเกิดกระแสนํ้าแอนตาร์กติกา และพัฒนาต่อไป เป็นกระแสน้ำอย่างในปัจจุบัน เมื่อทะเลระหว่างอเมริกาเหนือ และใต้ปิดตัวลงเป็นช่องแคบปานามาในปัจจุบัน ...
วันนี้ กระแสนํ้าที่ทำหน้าที่เป็นสายพานลำเลียง ถ่ายเททั้งอุณหภูมิ ความเค็ม และแร่ธาตุสารอาหาร อ่อนกำลังลงมาก เพราะนํ้าแข็งขั้วโลกที่ละลายลงลด ความเค็มของนํ้าทะเลที่ขั้วโลก และคาดว่าจะหยุดลงภายใน 1,000 ปีข้างหน้า หรือภายในอีก 2 วินาทีตามนาฬิกา 24 ชั่วโมงของเรา .... แต่ไม่รู้ว่า เมื่อไหร่แน่ .... ซึ่งการหยุดของกระไหลเวียนของกระแสนํ้าอุ่นกระแสนํ้าเย็นจะทำให้อุณหภูมิที่ขั้วโลกลดตํ่าลง จนเกิดยุคนํ้าแข็ง อย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
⚠️ การเกิดขึ้นของ มหาทวีป
การเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ที่ลอยอยู่บนหินละลายจะทำให้ทวีปต่างๆ มารวมกันเป็น ทวีปขนาดยักษ์ อีกครั้งหนึ่ง ใน 200 - 250 ล้านปีข้างหน้า หรือ ในอีก 1 ชั่วโมง 20 นาที ตามนาฬิกาโลก 24 ชั่วโมงของเรา ...
เหตุการณ์นี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้ว 3 - 7 ครั้ง โดยครั้งล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 250 ล้านปีที่แล้ว
มหาทวีป ที่จะเกิดขึ้นนี้ จะส่งผลให้ อุณหภูมิบนโลก ระหว่างผืนดิน โดยเฉพาะใจกลางทวีป และผืนนํ้ามหาสมุทร ต่างกันมากขึ้นมาก !!! โดนใจกลางทวีปจะร้อนจนไม่มีสิ่งมีชีวิตในปัจจุบันอาศัยได้ ซึ่งจะทำให้เกิดความแปรปรวนของสภาพอากาศ ทั้งความแห้งแล้ง พายุฝน ลมพายุรุนแรง กว่าปัจจุบันมากมายหลายเท่า
เหตุการณ์นี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้ว 3 - 7 ครั้ง โดยครั้งล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 250 ล้านปีที่แล้ว
มหาทวีป ที่จะเกิดขึ้นนี้ จะส่งผลให้ อุณหภูมิบนโลก ระหว่างผืนดิน โดยเฉพาะใจกลางทวีป และผืนนํ้ามหาสมุทร ต่างกันมากขึ้นมาก !!! โดนใจกลางทวีปจะร้อนจนไม่มีสิ่งมีชีวิตในปัจจุบันอาศัยได้ ซึ่งจะทำให้เกิดความแปรปรวนของสภาพอากาศ ทั้งความแห้งแล้ง พายุฝน ลมพายุรุนแรง กว่าปัจจุบันมากมายหลายเท่า
หากมนุษย์ยังไม่สูญพันธุ์ไปจนหมด ก็จะอาศัยอยู่ได้แค่ ตามแนวขอบทวีปยักษ์ ที่ต้องผจญกับพายุและสภาพอากาศรุนแรงที่ว่า ซึ่งมีการคาคการณ์ว่า หากเป็นเช่นนั้น เราคงย้ายลงไปอยู่ใต้ดิน หรือใต้มหาสมุทร แทนที่จะอยู่บนพื้นผิวโลกอย่างปัจจุบัน ....
⚠️ การสูญพันธ์ของพืชและสิ่งมีชีวิต ครั้งสุดท้าย
ระหว่าง 500 ถึง 1,000 ล้านปีข้างหน้า หรืออีก 2 ชั่วโมง 40 นาที ถึง 5 ชั่วโมงครึ่ง โดยประมาณ ตามนาฬิกาโลก 24 ชั่วโมงของเรา ....
นับจากปัจจุบัน จะเกิดภาวะ Decarbonization หรือบรรยากาศของโลก สูญเสียคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น ไปเร่งกระบวนการดูดซับก๊าซนี้ จากบรรยากาศโดยหิน และแร่ธาติต่างๆ เกิดเป็นสารประกอบคาร์บอนเนต จนปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่เพียงพอต่อการสังเคราะห์แสงชองพืช ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้น ของการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ ของชีวิคบนโลกที่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายด้วย !!!
อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่า การย่อยสลายซากพืชซากสัตว์จำนวนมาก ที่ตายลงจะเพิ่มปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศได้บ้าง และอาจจะทำใ้ห้เกิดเห็ดรา หรือพืชชนิดใหม่บางชนิดที่ วิวัฒนาการขึ้นมา ให้อยู่รอดได้ในโลกที่มีคาร์บอนไดออกไซด์ที่น้อยกว่าปัจจุบันมาก ...
ในเวลานี้ หากมนุษย์ยังรอดอยู่ได้ เราจะไม่สามารถยู่บนโลกใบนี้ได้อีกต่อไป เราต้องออกไปหาดาวดวงอื่นเพื่อสืบเผ่าพันธุ์ของเราให้คงอยู่ ...
⚠️ มหาสมุทรที่เหือดแห้ง
ดวงอาทิตย์ขยายตัวใหญ่ขึ้น ร้อนขึ้น และนํ้าในมหาสมุทร จะระเหยจนแห้งหมด เป็นครั้งแรกใน 1.1 พันล้านปีข้างหน้า หรืออีก 6 ชั่วโมงตามนาฬิกาโลก 24 ชั่วโมงของเรา นับจากนาทีนี้ ....
ไฮโดรเจน ที่เป็นเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ฟิวชั่นบนดวงอาทิตย์ลดน้อยลง ทำให้มวลของดวงอาทิตย์ลดลงตาม ส่งผลให้ ดวงอาทิตย์ใหญ่ขึ้นมาก จนเข้าใกล้โลกมากขึ้น อุณหภูมิบนพื้นผิวโลก จึงเพิ่มสูงขึ้นมาก ...
ถึงตรงนี้ หากโลกยังมีสนามแม่เหล็กที่เกิดจากการไหลเวียนของเหล็กหลอมเหลวใต้ผิวโลก ที่เรียกว่า Geodynamo ไอนํ้าจะยังอยู่ในชั้นบรรยากาศ เป็นเมฆฝนปริมาณมหาศาล หากยังมีชีวิตบนโลกซึ่งความน่าจะเป็นตํ่ามาก ชีวิตเหล่านั้น จะต้องปรับตัวให้อยู่กับโลกที่เกิดพายุฝนตลอดเวลาทุกหนแห่ง จนแทบไม่มีคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ แต่หากโลกไม่มี สนามแม่เหล็กโลก ที่ปกป้องคุ้มครองชั้นบรรยากาศแล้ว ก็จะไม่มีนํ้าอยู่บนโลกอีกต่อไป ซึ่งน่าจะไม่มีชีวิตใดๆเหลือบนโลกแล้ว !!!
⚠️ ดวงอาทิตย์ยักษ์กลืนกินโลกที่เหือดแห้ง
อีกประมาณ 5 พันล้านปีข้างหน้าหรือ ประมาณ 26 ชั่วโมง 40 นาที ตามนาฬิกาโลก 24 ชั่วโมงของเรา นับจากปัจจุบัน ดวงอาทิตย์ ที่ใช้ไฮโดรเจนเกือบหมดแล้ว จะกลายเป็นดาวยักษ์สีแดง ที่ขยายใหญ่จนกลืนกินดาวพุธ และดาวศุกร์ และน่าจะกลืนกิน "โลก" ที่ไร้ชีวิตในที่สุดด้วยเช่นกัน ....
และเมื่อวันนั้นมาถึง แร่ธาตุต่างๆ บนโลกบางส่วน ก็จะถูกเผาด้วยอุณหภูมิสูงลิบ จนหลุดออกจากซากของโลกสู่อวกาศกลายเป็นวัตถุดิบสำหรับชีวิตในอนาคตต่อไป ณ ที่ใดที่หนึ่ง
และเมื่อวันนั้นมาถึง แร่ธาตุต่างๆ บนโลกบางส่วน ก็จะถูกเผาด้วยอุณหภูมิสูงลิบ จนหลุดออกจากซากของโลกสู่อวกาศกลายเป็นวัตถุดิบสำหรับชีวิตในอนาคตต่อไป ณ ที่ใดที่หนึ่ง
ภาพโลกที่เกือบถึงวาระสุดท้าย เจมินี่ ( Gemini ) ช่วยทำให้ ....
ใครชอบดูคลิปวิดีโอ ผมแปะลิ้งค์ไว้ให้ละนะครับ
บทความ-เรียบเรียง โดย - Sompob Pordi