บทความโดย : Jont Kraprayoon ( 2019 )
การใช้โซเซียลเป็นอาวุธก่อการร้าย
| Weaponization of social media
การใช้โซเซียลเป็นอาวุธก่อการร้าย เป็นเครื่องมือเปลี่ยนความคิดคน ก่อให้เกิดสงครามกลางเมืองและดุลยภาพใหม่ระหว่างชาติ ... ที่ชัดเจนที่สุด คือ การสร้างอาหรับสปริง สู้รบกันสิบกว่าประเทศในตะวันออกกลาง ปัจจุบัน ... ขยายไปที่ อาฟริกา , ตะวันออกกลางที่รวยที่สุด เปลี่ยนเป็นจนที่สุด ...
จีน เวียดนาม รัสเซีย สิงคโปร์ จึงถือเป็นภัยต่อความมั่นคงขั้นสูง ต้องออกกฏหมายควบคุม อเมริกาด้วย ตอนนี้จะเข้าอเมริกาต้องโชว์ โซเซียลย้อนหลังห้าปี ...
สร้างความเป็นทาส ต่อระบบดอกเบี้ย ตลาดหุ้น ระบบธนาคาร ระบบสินเชื่อ ...
การแทรกแซง จะใช้โซเซียล , การศึกษา , NGO การทูต ด้วย เป็นแบบผสมผสานแทรกผ่าน พรรคการเมือง , สภาฯ , หนังสือพิมพ์ หรือจ้างผู้ขายชาติ ทำแทนด้วยในระดับบริษัทใหญ่ของโลก คือการโฆษณา เพื่อหลอกลวง ให้เชื่อในระบบ มาตรฐานสินค้า ตกเป็นทาสแบรนด์บริษัทตลอดชาติ ...
สร้างความเป็นทาส ต่อระบบดอกเบี้ย ตลาดหุ้น ระบบธนาคาร ระบบสินเชื่อ ...
รัฐตะวันตกจะเน้น "ประชาธิปไตย"
บริษัทใหญ่จะเน้นให้คนเป็น "ทาสของผลิตภัณท์"
เดิมทีใช้โซเซียลใช้ในกิจการทหาร แต่ปัจจุบันใช้โดยฝ่ายก่อการร้ายด้วย ต่างชาติด้วย บริษัทด้วย ขายออนไลน์ด้วย คือ
IO : information operation
(การปฎิบัติการด้านข่าวสาร, การใช้โครงข่ายอินเตอร์เนตและอิเลคโทรนิกส์ จิตวิทยามวลชนเพื่อสร้างอิทธิพลในการตัดสินใจของฝ่ายตรงข้าม)
ปัจจุบันมี Big Data เก็บรวบรวมข้อมูล และประมวลวิเคราะห์ข้อมูล และนำไปใช้ประโยชน์ ( แต่ประเด็นคือ big data มีความสามารถในการประมวลผลได้ด้วย ai ) ทำให้ทราบถึงพฤติกรรม รสนิยม ความคิด ความสนใจ ความเชื่อ ของคนในสังคมนั้น
..... เหมือนเรารู้จักใครสักคนลึก ๆ เราจะรู้ว่า เราต้อง พูดหรือสื่อสารอย่างไร ... ให้เขาคล้อยตามเรา ....
เมื่อนำมาพัฒนาภายใต้แนวคิด "Weaponization of social media" ใช้เป็นอาวุธก่อการร้าย เมื่อมีข้อมูลพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายในมือ ผู้ปฏิบัติการ จะชี้นำประเด็น หรือใส่มุมมอง เพื่อให้เกิดความคิด ความเชื่อ ตามที่ตั้งเป้าไว้ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายได้ไม่ยากหรือไม่ให้กลุ่มเป้าหมายรู้ตัว ...
จากนั้นแล้ว สร้างกระแส ให้เกิดความเชื่อในทิศทางเดียวกัน ในรูปแบบเดียวกัน เช่น การใส่ # ... # (จะกลายเป็นพวกเดียวกัน เหมือนใส่เสื้อทีมเดียวกัน) จากนั้นนำเข้าไปในโซเซียล ...
จะมีตั้งแต่เบาบางจนถึง ก้าวร้าว หยาบคาย ขึ้นกับดีกรีความรู้สึกของแต่ละคน
..... เหมือนเรารู้จักใครสักคนลึก ๆ เราจะรู้ว่า เราต้อง พูดหรือสื่อสารอย่างไร ... ให้เขาคล้อยตามเรา ....
เมื่อนำมาพัฒนาภายใต้แนวคิด "Weaponization of social media" ใช้เป็นอาวุธก่อการร้าย เมื่อมีข้อมูลพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายในมือ ผู้ปฏิบัติการ จะชี้นำประเด็น หรือใส่มุมมอง เพื่อให้เกิดความคิด ความเชื่อ ตามที่ตั้งเป้าไว้ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายได้ไม่ยากหรือไม่ให้กลุ่มเป้าหมายรู้ตัว ...
จากนั้นแล้ว สร้างกระแส ให้เกิดความเชื่อในทิศทางเดียวกัน ในรูปแบบเดียวกัน เช่น การใส่ # ... # (จะกลายเป็นพวกเดียวกัน เหมือนใส่เสื้อทีมเดียวกัน) จากนั้นนำเข้าไปในโซเซียล ...
เมื่อมีคนที่เห็นต่างเข้ามาแสดงความเห็น หรือท้าทายความเชื่อนั้น ๆ จะถูกโจมตีกลับจากคนพวกเดียวกัน
การโจมตีทางภาษา ...
จะมีตั้งแต่เบาบางจนถึง ก้าวร้าว หยาบคาย ขึ้นกับดีกรีความรู้สึกของแต่ละคน
คล้ายๆ เป็นเกมส์ที่ยิงกันด้วย "วาจาไ อาจยิงโดยคนเดียวหรือเป็นหมู่ ...
ในเพจใหญ่ๆ หรือเพจเป้าหมาย อาจมีพี่เลี้ยงคอยประกบ เพื่อส่งแรงยุ หรือดันเกมส์ให้หนักขึ้น โดยมีเป้าหมายคือ ให้อีกฝ่ายที่เห็นต่างพังทลาย หรือไม่กล้าวิจารณ์อีกต่อไป ....
(บางทีคนที่ไม่รู้อิโหน่อีเหน่ ... หลงเข้าไปถ้ามีภาษามีกลิ่นอายในทางตรงข้าม พวกที่ลาดตระเวณอาจเข้ามายิงด้วยวาจา ขู่ให้กลัว)
กลุ่มเป้าหมายจะไม่รู้ตัวเองว่า ตนกำลังถูกปั้นให้เป็น “นักรบโซเชียล”แต่กลับมีความรู้สึกว่า ตนเอง เป็นผู้รู้ ผู้เข้าใจ ผู้กล้า ที่ยึดหลักการความถูกต้อง
ผลลัพธ์ ที่ผู้ใช้ weapon ได้ คือ
หลายคนอาจสังเกตว่า....
ในช่วงนี้ คนใน Social media มีพฤติกรรมการใช้วาจารุนแรง หยาบคาย และก้าวร้าว มากขึ้น มีการรุมยิงด้วยภาษาต่อผู้ที่เห็นต่าง มีการใช้ชุดความคิดแบบ เดียวกัน ซ้ำหรือคล้ายกัน มีการใช้สัญญาลักษณ์ ในแนวทางเดียวกัน ช่วงเวลาใกล้ ๆ กัน ในคนหลากหลายวัย ..
นั่นก็คือ รูปแบบ Weaponization of social media
ในเพจใหญ่ๆ หรือเพจเป้าหมาย อาจมีพี่เลี้ยงคอยประกบ เพื่อส่งแรงยุ หรือดันเกมส์ให้หนักขึ้น โดยมีเป้าหมายคือ ให้อีกฝ่ายที่เห็นต่างพังทลาย หรือไม่กล้าวิจารณ์อีกต่อไป ....
(บางทีคนที่ไม่รู้อิโหน่อีเหน่ ... หลงเข้าไปถ้ามีภาษามีกลิ่นอายในทางตรงข้าม พวกที่ลาดตระเวณอาจเข้ามายิงด้วยวาจา ขู่ให้กลัว)
กลุ่มเป้าหมายจะไม่รู้ตัวเองว่า ตนกำลังถูกปั้นให้เป็น “นักรบโซเชียล”แต่กลับมีความรู้สึกว่า ตนเอง เป็นผู้รู้ ผู้เข้าใจ ผู้กล้า ที่ยึดหลักการความถูกต้อง
ผลลัพธ์ ที่ผู้ใช้ weapon ได้ คือ
- การทำลายความเห็นต่างของฝ่ายตรงข้าม ผลที่ผู้ถูกหลอกให้เป็น “นักรบโซเชียล” ได้ คือ ความลำพองใจในชัยชนะของพวกเดียวกัน (Strength in Numbers)
หลายคนอาจสังเกตว่า....
ในช่วงนี้ คนใน Social media มีพฤติกรรมการใช้วาจารุนแรง หยาบคาย และก้าวร้าว มากขึ้น มีการรุมยิงด้วยภาษาต่อผู้ที่เห็นต่าง มีการใช้ชุดความคิดแบบ เดียวกัน ซ้ำหรือคล้ายกัน มีการใช้สัญญาลักษณ์ ในแนวทางเดียวกัน ช่วงเวลาใกล้ ๆ กัน ในคนหลากหลายวัย ..
นั่นก็คือ รูปแบบ Weaponization of social media
ในหลายประเทศเริ่มพูดถึงเรื่องนี้กันมากขึ้น เพราะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ คนในชาติเกิดความแตกแยกทางความคิด ความเชื่อ เกิดความเกลียดชังกัน
หากมีการใช้ weapon นี้ในบ้านเรา ไม่ใช่เรื่องที่เป็นเพียงความเห็นต่างธรรมดา ๆ แต่มันคือ การล้างสมอง และคนที่นำมาใช้นั้น ก็ไม่รู้ว่า ... "จิตใจของเขาทำด้วยอะไร” ที่ทำร้ายคนในชาติเดียวกัน ถ้าบ้านเรามีการใช้แนวคิด Weapon นี้จริง มันเป็นเรื่องใหญ่ของสังคมบ้านเรานะครับ
หากมีการใช้ weapon นี้ในบ้านเรา ไม่ใช่เรื่องที่เป็นเพียงความเห็นต่างธรรมดา ๆ แต่มันคือ การล้างสมอง และคนที่นำมาใช้นั้น ก็ไม่รู้ว่า ... "จิตใจของเขาทำด้วยอะไร” ที่ทำร้ายคนในชาติเดียวกัน ถ้าบ้านเรามีการใช้แนวคิด Weapon นี้จริง มันเป็นเรื่องใหญ่ของสังคมบ้านเรานะครับ
Master Mind ไม่ได้หวังดีต่อชาติบ้านเมืองไทยแน่นอนช่วยแชร์บทความนี้กันหน่อยครับเพื่อความ ปลอดภัยของประเทศไทยและลูกหลานไทย
ค้นหาความรู้เพิ่มเติม
- นักรบหรือเหยื่อ ทหารยุคใหม่ในสงครามโซเชียลมีเดีย
| พ.อ.หญิง ดร. นุสรา วรภัทราทร
ประจำ ยก.ทบ./หน.ฝ่ายแผนการสร้างการรับรู้ ศูนย์ประสานงานสารนิเทศ ศปก.ทบ.
https://rta.mi.th/ - กงล้อประวัติศาสตร์ เรดการ์ด คลื่นคลั่งเหมา เยาวชนผู้ถูกปลุกปั่น
https://www.bagindesign.com/red-and-orange-guards-history-wheel/ - คนไทย ? คุณทำอะไรลงไป หรือนี่คือ สงครามสั่งสอนจะเกิดขึ้นอีกครั้ง
https://www.misc.today/2023/06/what-did-you-do.html