คำว่า ตึ่ง (唐) ถ้าเป็นภาษาจีนกลาง คือ คำว่า "ถัง"
ซึ่งหมายถึงราชวงศ์ถัง ที่เจริญรุ่งเรืองมากที่สุดยุคหนึ่งของประวัติศาสตร์จีน โดยบ่งว่าเป็นชนชาติที่สืบทอดมาจากราชวงศ์นี้ นั่นเอง
ส่วนคำว่า ตึ่งซัว (唐山) ที่คนจีนในไทยจะหมายถึง "เมืองจีนบ้านเกิด" นั้น...
山 ซัว หรือ ซัน (จีนกลาง) หมายถึง ภูเขา ...... แต่เมื่อใช้รวมกันแล้ว 唐山 (ตึ่งซัว / ถ่องซัน / ถังซาน) หมายความถึง "ถิ่นฐานบ้านเกิด"
ซิงตึ๊ง (新唐)
ซิงตึ๊ง... เป็นศัพท์ที่ใช้เรียก...กลุ่มคนจีน ที่อพยพหนีร้อนจาก...เมืองจีน มาพึ่งเย็น ที่...สยามประเทศ
เป็น ยุคอากง, อาป๊า ของพวกเรา สมัยนั้นมากันเยอะมาก แล้วก็เกิด...สำนวนขึ้นอีกมาประโยคหนึ่ง หรือจะเรียกว่าเอาว่า...สโลแกน ก็ได้ สำนวนนี้เรียกกันในหมู่ ซิงตึ๊ง ว่า...
ซา ซัว ติ๊ก เจ๊ก, ไก่ ไก่ อู่ หุ่ง
( 三山得一 ,個個有份)
แปลว่า...
- ซา ซัว = จะต้องได้กันคนละหนึ่ง ทุกคนมีสิทธิ์เหมือนกันหมด ...
ซาซัว ก็คือ
1 ) จ่อ ซัว (座山 / เจ้าสัว) 2) ตึ่ง ซัว (唐山 / ประเทศจีน)
3) หงี่ ซัว (義山 / สุสานสงเคราะห์ หรือ ป่าช้าวัดดอน)
ขอพัก ซาซัว ไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยมาเล่าต่อ.......
วันนั้น ประเทศจีนอ่อนแอมากๆ อดอยาก, ยากจน ข้นแค้น แสนสาหัส
ขนาดประเทศมหาอำนาจตะวันตก เปรียบเปรย ว่า เป็น...สุนัข
หาดไว่ทัน ( Waitan หรือ เดอะบันด์ The Bund ) ในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศมหาอำนาจตะวันตก มาเช่าไว้ เรียกว่า...เขตเช่า
รอบบริเวณเขตเช่านี้
พวกมหาอำนาจตะวันตก ขึ้นป้ายเยาะหยันไว้ ว่า
“ .... 狗与华人不得入内 ”
แปลว่า
...คนจีน และ สุนัข ห้ามเข้า !!!
เพราะความยากจน ในประเทศจีน ทำให้...คนจีน ต้องหนีตาย, หนีออกนอกประเทศ ไปดิ้นรนต่อสู้ หรือเลือกที่จะตายเอาดาบหน้า
และ สยามประเทศ หรือ เสี่ยม-ล้อ ( 暹羅 ) ก็คือ...ที่หมาย
เฉพาะแถบ อำเภอ แต้จิ๋ว (潮州) และ อำเภอ เหมย เซี่ยน (梅縣) ก็มี...คนจีน ทะลักเข้าสยามประเทศ (เสี่ยม-ล้อ) โดย...จ่ายค่าโดยสารบ้าง, แอบซ่อนตัวมาบ้าง, มากับเรือบรรทุกสินค้า จาก...ซัว เถา (汕頭) ซึ่งมีปลายทางคือที่...สยาม สัปดาห์ละ 2 เที่ยว ทุกเที่ยวบรรทุก เกินพิกัด จำนวนคนโดยสารหลายพันคน มากันแบบ...เสื่อผืนหมอนใบ
เฉพาะแถบ อำเภอ แต้จิ๋ว (潮州) และ อำเภอ เหมย เซี่ยน (梅縣) ก็มี...คนจีน ทะลักเข้าสยามประเทศ (เสี่ยม-ล้อ) โดย...จ่ายค่าโดยสารบ้าง, แอบซ่อนตัวมาบ้าง, มากับเรือบรรทุกสินค้า จาก...ซัว เถา (汕頭) ซึ่งมีปลายทางคือที่...สยาม สัปดาห์ละ 2 เที่ยว ทุกเที่ยวบรรทุก เกินพิกัด จำนวนคนโดยสารหลายพันคน มากันแบบ...เสื่อผืนหมอนใบ
เพียงแค่ 2 ปี มีคนจีน เดินทาง เข้าสยาม ไม่น้อยกว่า 100,000 คน
ปี ค.ศ. 1948 ( พ.ศ. 2491 )
ยุคสมัยที่ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ขึ้นมามีอำนาจ ได้มีคำสั่งจำกัด ให้...คนจีนเข้าไทย ได้ปีละ 200 คน ปรากฏว่า...ครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2491 จำนวนคนจีน เข้าสยามลดลงอย่างฮวบฮาบ
ปี ค.ศ. 1949 ( พ.ศ. 2492 ) จีน ได้สถาปนา ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ปกครองด้วย...ระบอบคอมมิวนิสต์
ตอนนั้นเอง ... ไทย กับ จีน...ได้ตัดสัมพันธ์กัน จึงไม่มีคนจีน หอบ...เสื่อผืนหมอนใบ ข้ามน้ำข้ามทะเล มาอีก....
คนจีนที่ทะลักเข้ามา...สยามประเทศนี้ ซึ่งเรียกรวมๆ ว่า...พวก ซิง ตึ๊ง
เป็นคนประเภท...มีความอดทน, หนักเอาเบาสู้, ไม่เกี่ยงไม่งอน ขอเพียงมีงานทำ, มีรายได้ เป็นรับไว้หมด
ขณะเดียวกัน ก็มี...ความประหยัด เก็บหอมรอมริบ ตามมา และ เริ่มพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ
เมื่อพอมีเงิน, เพียงพอที่จะใช้...เป็นทุนได้ ก็เล็งหาโอกาส ยกระดับตัวเอง ....
จาก...ระดับ แรงงาน , ...ขึ้นมาเป็น...พ่อค้า
จาก...หาบเร่, แผงลอย ยกระดับขึ้นมาเรื่อยๆ จนเป็น...เจ้าของกิจการมากมาย ใหญ่บ้าง, เล็กบ้าง, ตามสถานะ และ โอกาส และ ความสามารถ ของแต่ละบุคคล
บ้างก็ร่ำรวยเงินทอง ถึงขั้นเศรษฐี หรือ เจ้าสัว...ก็มี,
บ้างก็เป็นเถ้าแก่, นายจ้าง...ก็มี,
บ้างก็ย่ำแย่อยู่กับที่...ก็มี,
บ้างก็อนาถา น่าสงสาร...ก็มี
ทีนี้ ก็มีคุยกันต่อถึงเรื่องที่...ค้างไว้ข้างต้น คือ เรื่อง ซา ซัว
1 ) พวกที่โชคดี ร่ำรวยเงินทองเต็มขั้น เป็นเศรษฐี, มหาเศรษฐี ก็ได้ชื่อว่า...
จ่อ ซัว หรือ เจ้าสัว (ก็รับไป 1 ซัว)
2 ) พวกมีเงินมีทองบ้าง และ คิดถึงบ้านที่เมืองจีน อยากกลับบ้าน ก็ได้กลับ...
ตึ่ง ซัว หรือ เมืองจีน (ก็รับไป 1 ซัว)
3) พวกโชคไม่ดี เหมือนประเภท 1 และ 2 ยังคงอนาถา น่าสงสาร อยู่ไปตามยถากรรม อย่างน้อย ช่วงสุดท้ายของชีวิต
ก็ได้อยู่...หงี่ ซัว หรือ สุสานสงเคราะห์ หรือ ป่าช้าวัดดอน
(ก็ได้ 1 ซัวเหมือนกัน)
จะเห็นได้ว่า ...ทุกคนมีส่วนได้ กันหมด
ในกลุ่ม ซิง ตึ๊ง อพยพ นั้น ได้มีการสร้างเนื้อสร้างตัว ไต่เต้าขึ้นมาตามลำดับ และ ประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของปวงชน ก็มีไม่น้อย เช่น...
- นายชิน โสภณพานิช (แซ่ตั๊ง / 陳) ผู้ก่อตั้ง...ธนาคารกรุงเทพ จำกัด
- นายอุเทน เตชะไพบูลย์ (แซ่แต้ / 鄭) เป็นรุ่น 2 ผู้ก่อตั้ง...ธนาคารศรีนคร และมูลนิธิป่อ เต็ก ตึ๊ง, โรงพยาบาล หัว เฉียว, มหาวิทยาลัย หัว เฉียว ฯลฯ
- นายปรีดี พนมยงค์ (แซ่ ตั๊ง / 陳)
- หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ (แซ่ แต้ / 鄭)
- นายธานินทร์ กรัยวิเชียร (แซ่ เบ๊ / 馬) หรือ หม่า
- นายถนัด คอมันต์ (แซ่ คอ / 柯)
- นายบรรหาร ศิลปอาชา (แซ่ เบ๊ / 馬)
- นายชวน หลีกภัย (แซ่ ลื๋อ / 呂)
- นายทักษิณ ชินวัตร (แซ่ คู / 丘)
- นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ (แซ่ อ๊วง / 袁)
ฯลฯ
ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็น...อนุชน จีนอพยพ ทั้งสิ้น
สรุป...ใดใดในโลกล้วน อนิจจัง
วันนั้น.....ต้อง...หนีตาย, หนีร้อนพึ่งเย็น
วันนี้........กำลังเป็น...มังกรทยานฟ้า
วันหน้า...ต้องดูว่า....
จะทำคุณประโยชน์ให้กับแผ่นดินที่อาศัยอยู่ได้อย่างไรบ้าง ครับ !