การที่จะแจ้งดำเนินคดี ม.112 ได้นั้น จะต้องชัดเจนว่ามี “พฤติการณ์แห่งการกระทำ” เสียก่อน นั่นคือ การกระทำที่เป็นการเข้าข่ายดูหมิ่น หมิ่นประมาท แสดงความอาฆาตมาดร้าย ถ้าไม่มีพฤติการณ์เหล่านี้แล้ว จะเอาอะไรไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ??
ส่วนพฤติการณ์แบบไหนที่เข้าข่ายองค์ประกอบความผิด ?? ก็ให้ลองไปดูรายละเอียดของคดี ม.112 ที่ผ่านมาว่าผู้กระทำความผิดมีพฤติการณ์อย่างไรบ้าง ไม่ใช่เอาแค่พาดหัวข่าวมา แล้วมาอ้างว่า แค่ใส่ชุดไทยก็ผิด, ขายปฏิทินเป็ดเหลืองก็ผิด หรือใส่ครอปท็อปเดินสยามพารากอนก็ผิด ??!!
ที่สำคัญ คดี ม.112 ไม่ใช่ว่าพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนส่งอัยการได้เลย ... แต่จะมีคณะกรรมการที่เป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่คอยกรองอีกชั้นหนึ่งก่อน จึงจะส่งไปให้อัยการสรุปสำนวนส่งฟ้องศาลต่อไป
ส่วนพฤติการณ์แบบไหนที่เข้าข่ายองค์ประกอบความผิด ?? ก็ให้ลองไปดูรายละเอียดของคดี ม.112 ที่ผ่านมาว่าผู้กระทำความผิดมีพฤติการณ์อย่างไรบ้าง ไม่ใช่เอาแค่พาดหัวข่าวมา แล้วมาอ้างว่า แค่ใส่ชุดไทยก็ผิด, ขายปฏิทินเป็ดเหลืองก็ผิด หรือใส่ครอปท็อปเดินสยามพารากอนก็ผิด ??!!
ที่สำคัญ คดี ม.112 ไม่ใช่ว่าพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนส่งอัยการได้เลย ... แต่จะมีคณะกรรมการที่เป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่คอยกรองอีกชั้นหนึ่งก่อน จึงจะส่งไปให้อัยการสรุปสำนวนส่งฟ้องศาลต่อไป
และแน่นอนว่า ในขั้นต้นหากไม่มีหลักฐานเพียงพอ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็อาจใช้ดุลยพินิจไม่ส่งฟ้องคดีก็ได้เช่นกัน
ดังนั้น การที่เพจๆ นี้อ้างว่า ตำรวจส่งฟ้องคดี ม.112 ทุกคดีเพราะทนแรงกดดันของสังคมไม่ไหว จึงเป็นเรื่อง “โกหก” !!!
ความแตกแยก ความสูญเสียของบ้านเมืองในประวัติศาสตร์หลายๆ ครั้งที่ผ่านมา เราก็เห็นกันแล้วว่าส่วนหนึ่งก็มาจากการปั่นเรื่องเท็จของสื่อเสี้ยมพวกนี้นี่แหละ ที่คอยเกาะกิน ใช้กระแสดราม่าต่างๆ มาบิดเบือนสร้างประโยชน์ให้ตัวเอง โดยไม่สนใจผลเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับสังคมในภายหลังเลย แล้วเราจะให้ประวัติศาสตร์บาดแผลเหล่านั้นหมุนย้ำซ้ำรอยเดิมหรือ ?
"ก้าวไกล" เจอ "วินมอเตอร์ไซค์" ใจเด็ด จี้ถาม "ธนาธร"
ยกเลิกมาตรา 112 ประชาชนได้อะไร ?