สงครามโลกครั้งที่ ๓ จะไม่เหมือนที่หลายฝ่ายจินตนาการ มันจะไม่ใช่ ..ฉากหนังสงครามล้างโลก ล้างผลาญเผ่าพันธุ์มนุษย์ ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ เหมือนในหนังล้างสมองของฮอลีวูด
บทความโดย : Somkiat Phanbut
สงครามโลกครั้งที่ ๓ ..หากเกิดขึ้นมาจริงๆ ..
จะไม่เหมือนที่หลายฝ่ายจินตนาการ ?
สงครามโลกครั้งที่ ๓ ..หากเกิดขึ้นมาจริงๆ มันจะไม่ใช่ ..ฉากหนังสงครามล้างโลก ล้างผลาญเผ่าพันธุ์มนุษย์ ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ เหมือนในหนังล้างสมองของฮอลีวูดที่มี นายทุนยิว-อเมริกา ช่วยกันอำนวยการสร้าง และ กำกับการแสดง หลอนหลอกชาวโลกมานาน
ในความเป็นจริง อาวุธนิวเคลียร์ มันก็ไม่ต่างอะไรกับสินค้าราคาแพงที่เป็นเพียงอาวุธทางยุทธศาสตร์ ที่มีได้ แต่ใช้ไม่ได้ และ หากใครใช้ อาจจะพ่ายแพ้สงคราม เพราะ ... อย่าลืมว่า เกมการเมืองระหว่างประเทศนั้น ไม่ได้ห่ำหั่นกันแค่ในสมรภูมิรบ แต่ยังสู้กัน บนโต๊ะเจรจา ที่มีนานาชาติร่วมเป็นสักขีพยานอีกด้วย ...
สงครามโลกครั้งที่ ๓ มันอาจจะเป็นเพียง สงครามบุกยึดยุโรปของรัสเซีย เพื่อการจัดระเบียบโลกกันใหม่ แบ่งขั้วอำนาจเพื่อคานอำนาจกันใหม่ ผ่านการ "สลับขั้ว สลับข้าง" ประเทศพันธมิตรกันใหม่ โดยไม่เกิดผลกระทบเสียหายรุนแรงจากภัยนิวเคลียร์ใดๆ เพราะคงจบที่การเลือกข้างเลือกฝ่ายกันบนโต๊ะเจรจาเสียเป็นส่วนใหญ่ อาวุธที่ใช้ก็คงจะมีเท่าที่เห็นๆกันนี่แหละ ซึ่งคงกินระยะเวลาไม่ยาวนานหลายปีนัก และ ภายหลังสงครามสิ้นสุด โลกจะเริ่มถูกแบ่งออกเป็น ๒ ฝ่าย ที่แยกข้างแยกฝ่ายกันชัดเจน
ที่ผ่านมา มาตรการคว่ำบาตรบ้าๆบอๆ ของมหาอำนาจตะวันตก ที่ออกมา มันไม่ใช่การคว่ำบาตรที่หวังให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตคนรัสเซียโดยตรง แต่มันคือมาตรการคว่ำบาตรเก๊ๆปลอมๆ ที่ฉวยโอกาสปล้นและกอบโกยผลประโยชน์กำไรเอากับ คนอเมริกัน และ คนยุโรป ที่เป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูงสุดในโลก โดยอ้างเรื่องความผิดปูตินบังหน้า
คนรัสเซีย จึงสุขสบายดี ไม่เดือดร้อนมาก รัฐบาลเขาเลี้ยงดูประชาชนเขาได้ และ ประชาชนเขาชินกับสถานการณ์แบบนี้มาช้านาน กฎหมายที่จะออกมาควบคุมกิจการต่างชาติ ให้ดำเนินกิจการต่อไปได้ โดยคนไม่ตกงาน ก็ได้ใจประชาชน แทนที่คนรัสเซียจะต่อต้านสงครามก็จะกลายกลับเป็นกระแสชาตินิยมสนับสนุนสงครามแทน
นี่คือ สงครามหนังขายยาของอเมริกาและนาโต ที่เป็นขี้ข้านายทุนยิวที่ครองอำนาจสูงสุดบนโลกใบนี้อีกที ที่เป้าหมายแท้จริง ไม่ใช่แค่เรื่อง แหย่ตีนหมี แต่ยังมีเป้าหมายแอบแฝงถึงอนาคตของการขายอาวุธทำลายล้างสูง อย่างขีปนาวุธ และ หัวรบนิวเคลียร์ ให้กับประเทศต่างๆที่เป็นอริของรัสเซียด้วย .
ผู้นำอเมริกา ผู้นำยูเครน ก็แค่..ผู้นำหุ่นเชิด ของ กลุ่มนายทุนยิว
ที่ครอบครองผลประโยชน์มหาศาล จากกิจการการค้า แร่ธาตุ พลังงาน ก๊าซ น้ำมัน อาวุธยุทโธปกรณ์ อาหาร สินค้าการเกษตร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องบิน ยานยนต์ ..ที่ได้ผลประโยชน์เต็มๆ จากสงครามครั้งนี้
หากจะขายอาวุธให้ใคร..โดยไม่สร้างปมบาดหมาง หรือ ข้อพิพาทใดๆขึ้นมา หรือ หากไม่ได้โฆษณาสินค้าจากการทดลองใช้..มันจะขายได้ไหม ? ..จะมีใครซื้อไหม ? .. และ หากซื้อไปแล้วไม่ได้ใช้ ..มันจะขายสินค้าเพิ่มให้ใครอีกได้ไหม ?..
และ หากไม่เกิดเหตุการณ์วิกฤตรุนแรง จนน้ำมัน ก๊าซ อาหาร ขาดแคลน ..นายทุนยิว จะฉวยโอกาสขายของแพงได้ไหม ?
นี่คือ หลักการค้าแบบยิว ..ที่เอาชีวิตมวลมนุษยชาติเป็นเดิมพันมาหลายยุคหลายสมัย ที่ ปูติน คงอ่านเกมขาดมาตั้งแต่แรก เพราะผ่านประสบการณ์ชิงไหวชิงพริบกับพวกยิวมาเยอะ จึงไม่ยอมตกหลุมพราง ที่แก๊งอีแร้งขุดล่อ ..
ปูติน และ กองทัพรัสเซีย จึงค่อยๆรุกคืบไปทีละจุดยุทธศาสตร์สำคัญๆ แบบไม่รีบ และ ไม่เครียด ค่อยๆยึดไป ทีละจุด ทีละจุด ..
โดยเป้าหมายสำคัญสูงสุด อยู่ที่การรวบรวมอดีตรัฐและประเทศพันธมิตรของสหภาพโซเวียตเดิมในยุโรปกลับมาเป็นพวกหรือพันธมิตรที่ดีต่อกันดังเดิมให้มากที่สุด เพื่อสร้างหลักประกันความปลอดภัยจากภัยคุกคามของชาติตะวันตกอย่างยั่งยืนต่อไป ในอนาคต
...............................................
วินเซนต์
๑๔ มีนาคม ๒๕๖๕
เป็นสภาวะของจิต ที่มีสมาธิสูง และนำไปสู่ความสามารถในการสร้างสรรค์ ถูกคิดค้นโดย มิฮาย โรเบิร์ต ชิกเซนต์มิฮายี นักจิตวิทยาชาวฮังการี ได้แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ทำให้ประสบการณ์มีความน่าพึงพอใจอย่างแท้จริงคือ ภาวะลื่นไหล (flow) จะสอนว่า เมื่อได้จัดระเบียบข้อมูลของสิ่งที่เข้ามาในจิตของเรา เราจะสามารถค้นพบความสุขที่แท้จริงและจะสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของเราได้นั่นเอง >> ดูเพิ่มเติม