คาบแรกของวิชากฎหมาย ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
อาจารย์เดินเข้ามาในห้องเรียน สิ่งแรกที่เขาทำคือถามนักศึกษาที่นั่ง โต๊ะหน้าสุด ว่าชื่ออะไร ?
- นักศึกษาหนุ่มตอบว่าชื่อ “เนลสัน“
อาจารย์กลับตะเพิดเขาออกจากห้อง แถมยังกำชับว่าอย่ากลับมาให้เห็นหน้าอีก !!!
... เนลสันงงเป็นไก่ตาแตก รีบเก็บข้าวของ อย่างลนลาน และออกจากห้องไป
นักศึกษาในห้องก็อึ้งกันหมด ทั้งงง ทั้งกลัว ทั้งไม่พอใจอาจารย์ แต่ ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ…
จากนั้นอาจารย์ก็เริ่มสอน ด้วยการตั้งคำถามว่า ...
“เรามีกฎหมายไว้เพื่ออะไร” ?
นักศึกษายังรู้สึกกลัว ๆ แต่ก็ยังสามารถช่วยกันตอบคำถาม เช่น เพื่อจัดระเบียบสังคม, เพื่อให้คนทำผิดได้ชดใช้ ....
แต่อาจารย์บอกว่า .. ยังไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง
สุดท้าย มีนักศึกษาคนหนึ่ง ตอบ ขึ้นมาว่า
“เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และปกป้องสิทธิของประชาชน”
อาจารย์จึงถามต่อว่า ...
แล้วที่เนลสันถูกไล่ออกจากห้องอย่างนั้น เราจะเรียกมันว่า “ความไม่เป็นธรรม” ได้หรือไม่ ? และสิ่งที่อาจารย์ กระทำนั้น ชอบธรรมหรือเปล่า ?ทั้งห้องพร้อมใจกันตอบว่า " ไม่เป็นธรรมและไม่ชอบธรรม"
อาจารย์ จึงย้อนถามกลับต่ออีกว่า ....
“แล้วทำไมพวกเธอถึงได้เงียบกันหมด ไม่มีใครกล้าพูดกล้าทำอะไรเลย?”
ทำเอานักศึกษาอึ้งกันทั้งห้อง ....
อาจารย์ย้ำว่า เราทุกคนมีหน้าที่ ที่จะ ‘ต้องพูด’ เมื่อเห็นความอยุติธรรมเกิดขึ้น และต่อไปอย่าได้เงียบแบบนี้อีก ! เมื่อไหร่ที่เราไม่ลุกขึ้นยืนหยัดเพื่อปกป้องสิทธิของเรา เมื่อนั้นศักดิ์ศรีความเป็นคนของเราก็จะหายไปด้วย
แล้วอาจารย์ก็พูดทิ้งท้ายว่า
“ไปตามเนลสันกลับมา เขาเป็นอาจารย์สอนวิชากฎหมายของพวกคุณ ส่วนผมเป็นอาจารย์คาบอื่น” !!!
"รู้ไหม เมื่อเราไม่ยืนหยัดเพื่อสิทธิของเรา ศักดิ์ศรีก็หายไป และศักดิ์ศรีก็ไม่สามารถต่อรองได้ "
" You know, when we don't stand up for our rights, dignity is lost, and dignity can't be negotiated. "
เป็น ไวรัล ที่แชร์ๆต่อกันมา หาต้นฉบับที่แท้จริงไม่ได้ ต้องขออภัย โดยเรื่องราวนี้ มาจากภาษาอังกฤษ มี คุณ Jinadit Kannikar ได้แปลเอาไว้ โดยคุณ Anjali Jumnong ได้เอามาแชร์ต่ออีกที โดยแปลว่าจาก Lorraine Driscoll โดยนำมาจาก Doris Carrier อีกทอด โอ้ยย ยาวจัง ...
BOOKs OF THE DAY
การเข้าใจและเข้าถึงความเป็นสรรพสิ่งจากวิถีการเรียนรู้ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในตามความเป็นจริงของธรรมชาติและการรู้ตัวเอง “ทุกวันนี้มนุษย์ถูกกักขังไม่ให้สัมผัสความจริงด้วยเครื่องกีดขวางต่างๆ เช่น โดยวิถีชีวิต โดยสถาบันการศึกษา โดยความเชื่อหลงผิดตามๆ กันมา ทุกคนควรพิจารณาไตร่ตรองเครื่องกีกขวางเหล่านี้และปลดปล่อยตัวเองไปสู่ความเป็นไท เพื่อจักมีความเป็นอิสระในการสัมผัสความจริงและในการคิด อิสรภาพในการสัมผัสความจริงและในการคิดจะเป็นรากฐานทางปัญญา >> ดูเพิ่มเติม