บาลีวันละคำวันนี้ ตั้งใจเตือนผู้ที่เห็นคำทั้งสองนี้ว่า - คำหน้าเป็น “ฤๅษี” คำหลังเป็น “ฤาษี”
แยกมาชัด ๆ
คำหน้าเป็น “ฤๅ”คำหลังเป็น “ฤา”
??? ถ้ายังไม่เห็น ก็แยกต่อไปอีก ???
คำหน้า ฤ + ๅ
คำหลัง ฤ + า
เห็นความแตกต่าง ระหว่าง -ๅ- กับ -า- หรือยัง ....
คำหน้า สระ -ๅ- หางยาว
คำหลัง สระ -า- หางสั้น
คำหน้า “ฤๅษี” สระ -ๅ- หางยาว
คำหลัง “ฤาษี” สระ -า- หางสั้น
โปรดทราบว่า นี่เป็นคำพูดให้เข้าใจ เพื่อการสื่อสาร แต่ไม่ใช่ภาษาวิชาการที่ถูกต้อง !!!!!
ที่เห็นเหมือนสระ -ๅ- หางยาว อยู่หลัง “ฤ” ไม่ใช่สระ อา
แต่เป็นส่วนควบของตัว “ฤ”
พูดชัด ๆ มีอักษรอยู่ 2 ตัว “ฤ” ตัวหนึ่ง “ฤๅ” ตัวหนึ่ง
“ฤ” อ่านว่า รึ
“ฤๅ” อ่านว่า รือ
นักบวชพวกหนึ่ง ที่ช่างเขียนไทยนิยมเขียน เป็นคนนุ่งห่มหนังเสือ มุ่นผมเป็นชฎา เรามักเรียกเป็นภาษาปากว่า ตา-รือ-สี นั้น เรียกได้ 2 อย่าง คือ รึสี และ รือสี
ถ้าเรียก รึสี ก็สะกดเป็น “ฤษี”
ถ้าเรียก รือสี ก็สะกดเป็น “ฤๅษี”
“ฤษี” คือตัว “ฤ”
“ฤๅษี” คือตัว “ฤๅ”
ตัว “ฤ” มีแต่ตัวเกลี้ยง ๆ
ตัว “ฤๅ” มีสระ -ๅ- หางยาว เป็นส่วนควบอยู่ข้างหลัง
ขอย้ำว่า ที่เรียกว่า “สระ -ๅ- หางยาว” นั้น เป็นการเรียกเพื่อการสื่อสารให้เข้าใจง่าย แต่ไม่ใช่ภาษาวิชาการที่ถูกต้อง....
สระ อา ในภาษาไทย มีแต่สระ -า- หางสั้น ไม่มีสระ -ๅ- หางยาว
เครื่องหมาย - ๅ ข้างหลังตัว “ฤ” ภาษาวิชาการที่ถูกต้องเรียกว่าอะไร ? ผู้เขียนบาลีวันละคำ ไม่ทราบ แต่ขอเรียกเอาเองว่า “ส่วนควบ”
เครื่องหมาย - ๅ ข้างหลังตัว “ฤ” เป็นส่วนควบหรือตัวเต็ม ๆ ของตัว “ฤๅ”
เหมือนเราเขียน ญ หญิง ต้องมีเชิง หรือ ฐ ฐาน ก็ต้องมีเชิง
เชิงนั้น คือ ส่วนควบหรือตัวเต็ม ๆ ของ ญ และ ฐ ฉันใด
เครื่องหมาย - ๅ ก็เป็นส่วนควบหรือตัวเต็ม ๆ ของ “ฤๅ” ฉันนั้น
เพราะฉะนั้น คำว่า “ฤๅษี” ต้องเขียนอย่างนี้ ดังที่เห็นเป็นคำหน้าของบาลีวันละคำวันนี้
ถ้าเขียน “ฤาษี” (ฤ + สระ า) ดังที่เห็น เป็นคำหลัง ของบาลีวันละคำวันนี้ แบบนี้ คือเขียนผิด !!!!
“ฤาษี” (ฤ + สระ า) คำนี้ ไม่มีในภาษาไทย เป็นคำที่เขียนเพราะเข้าใจผิด คือคนเขียนคิดเอาเองว่าเครื่องหมาย - ๅ ที่อยู่ข้างหลังตัว “ฤ” นั้นคือสระ อา พอจะเขียนคำนี้จึงสะกดเป็น “ฤาษี” (ฤ + สระ า)
“ฤาษี” (ฤ + สระ า) ❌ เป็นคำผิด อย่าเขียนแบบนี้ ❌
คำถูกคือ “ฤๅษี” หรือ “ฤษี”
คำถูกคือ “ฤๅษี” หรือ “ฤษี”
คำถูกคือ “ฤๅษี” หรือ “ฤษี”
“ฤๅษี” หรือ “ฤษี” เป็นรูปคำสันสกฤต บาลีเป็น “อิสิ”
อ่านว่า อิ-สิ รากศัพท์มาจาก อิสฺ (ธาตุ = แสวงหา; ปรารถนา; ไป) + อิ ปัจจัย
: อิสฺ + อิ = อิสิ (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า (1) “ผู้แสวงหาคุณธรรม” (2) “ผู้ปรารถนาสิวะคือพระนิพพาน” (3) “ผู้ไปสู่สุคติ”
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “อิสิ” ว่า a holy man, one gifted with special powers of insight & inspiration, an anchoret, a Seer, Sage, Saint
(คนศักดิ์สิทธิ์, ผู้มีพรสวรรค์เกี่ยวกับกำลังภายใน และผู้มีตาทิพย์, โยคี, ฤๅษี, มุนี, นักบุญ)
ในการพูดกันทั่วไปในภาษาไทย แทบจะไม่มีใครรู้จักคำว่า “อิสิ” แต่พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ก็เก็บคำว่า “อิสิ” และ “อิสี” ไว้ด้วย บอกไว้ว่า -
“อิสิ, อิสี : (คำนาม) ผู้แสวงคุณความดี, ฤษี, ผู้ถือบวช. (ป.; ส. ฤษิ).”
บาลี “อิสิ” สันสกฤตเป็น “ฤษิ”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ -
(สะกดตามต้นฉบับ)
“ฤษิ : (คำนาม) พระฤษี [พระฤษีมีอยู่ ๗ จำพวก คือ สฺรุตรฺษิ, กานฺทรฺษิ, ปรมรฺษิ, มหรฺษิ, ราชรฺษิ, พฺรหฺมรฺษิ, เทวรฺษิ]; พระเวท; แสง; a sanctified personage [there are seven orders of these saints, as Srutarshi, Kāntarshi, Paramrshi, Maharshi, Rājarshi, Brahmarshi, and Devarshi]; a Veda; a ray of light.”
บาลี “อิสิ” สันสกฤต “ฤษิ” ในภาษาไทยมีทั้ง “ฤษี” (รึ-สี) และ “ฤๅษี” (รือ-สี)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ดังนี้ -
(1) ฤษี : (คำนาม) ฤๅษี, นักบวชพวกหนึ่ง มีมาก่อนพุทธกาล สละบ้านเรือนออกไปบําเพ็ญพรตแสวงหาความสงบ. (ส. ฤษี ว่า ผู้เห็น, ผู้แต่งพระเวท; ป. อิสิ).
(2) ฤๅษี : (คำนาม) ฤษี, นักบวชพวกหนึ่ง มีมาก่อนพุทธกาล สละบ้านเรือนออกไปบําเพ็ญพรตแสวงหาความสงบ.
คำเสนอแนะ :
คำถูกคือ “ฤๅษี” หรือ “ฤษี”
คำถูกคือ “ฤๅษี” หรือ “ฤษี”
“ฤๅษี” หรือ “ฤษี” เป็นรูปคำสันสกฤต บาลีเป็น “อิสิ”
อ่านว่า อิ-สิ รากศัพท์มาจาก อิสฺ (ธาตุ = แสวงหา; ปรารถนา; ไป) + อิ ปัจจัย
: อิสฺ + อิ = อิสิ (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า (1) “ผู้แสวงหาคุณธรรม” (2) “ผู้ปรารถนาสิวะคือพระนิพพาน” (3) “ผู้ไปสู่สุคติ”
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “อิสิ” ว่า a holy man, one gifted with special powers of insight & inspiration, an anchoret, a Seer, Sage, Saint
(คนศักดิ์สิทธิ์, ผู้มีพรสวรรค์เกี่ยวกับกำลังภายใน และผู้มีตาทิพย์, โยคี, ฤๅษี, มุนี, นักบุญ)
ในการพูดกันทั่วไปในภาษาไทย แทบจะไม่มีใครรู้จักคำว่า “อิสิ” แต่พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ก็เก็บคำว่า “อิสิ” และ “อิสี” ไว้ด้วย บอกไว้ว่า -
“อิสิ, อิสี : (คำนาม) ผู้แสวงคุณความดี, ฤษี, ผู้ถือบวช. (ป.; ส. ฤษิ).”
บาลี “อิสิ” สันสกฤตเป็น “ฤษิ”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ -
(สะกดตามต้นฉบับ)
“ฤษิ : (คำนาม) พระฤษี [พระฤษีมีอยู่ ๗ จำพวก คือ สฺรุตรฺษิ, กานฺทรฺษิ, ปรมรฺษิ, มหรฺษิ, ราชรฺษิ, พฺรหฺมรฺษิ, เทวรฺษิ]; พระเวท; แสง; a sanctified personage [there are seven orders of these saints, as Srutarshi, Kāntarshi, Paramrshi, Maharshi, Rājarshi, Brahmarshi, and Devarshi]; a Veda; a ray of light.”
บาลี “อิสิ” สันสกฤต “ฤษิ” ในภาษาไทยมีทั้ง “ฤษี” (รึ-สี) และ “ฤๅษี” (รือ-สี)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ดังนี้ -
(1) ฤษี : (คำนาม) ฤๅษี, นักบวชพวกหนึ่ง มีมาก่อนพุทธกาล สละบ้านเรือนออกไปบําเพ็ญพรตแสวงหาความสงบ. (ส. ฤษี ว่า ผู้เห็น, ผู้แต่งพระเวท; ป. อิสิ).
(2) ฤๅษี : (คำนาม) ฤษี, นักบวชพวกหนึ่ง มีมาก่อนพุทธกาล สละบ้านเรือนออกไปบําเพ็ญพรตแสวงหาความสงบ.
คำเสนอแนะ :
กรุณาหมั่นเปิดพจนานุกรมกันหน่อยเถิด อย่าอ้างว่าเขียนตามความเคยชิน ....
ความจริง จะต้องบอกว่า เขียนเช่นนั้น (ฤาษี) ไม่ใช่เพราะเคยชิน หรือเคยมือ แต่เพราะความเข้าใจผิด คือเข้าใจผิดไปว่า ฤ + สระ า เป็นคำที่ถูกต้อง
วิธีแก้ คือ
(1) เมื่อจะสะกดคำแปลก ๆ ใด ๆ ให้สงสัยไว้เสมอว่าสะกดอย่างไรถูก ?
(2) หมั่นเปิดพจนานุกรม พูดตรง ๆ ว่า อย่าขี้เกียจเปิดพจนานุกรม ... ถ้าอ้างว่า อุปกรณ์หรือเครื่องมือที่ใช้พิมพ์มีแต่สระ อา ไม่มีตัวส่วนควบของ “ฤๅ” ก็ต้องช่วยกันเรียกร้องผู้ผลิตให้พัฒนาโปรแกรม คือเพิ่มเครื่องหมาย - ๅ ส่วนควบของ “ฤๅ” ลงในโปรแกรมด้วย อย่ายอมจำนน ใช้โปรแกรมที่บกพร่อง เป็นเหตุให้เขียนผิดเรื่อยไป
..............
ดูก่อนภราดา !
ภาษาเป็นสมบัติวัฒนธรรมของชาติ -
: เขียนผิด วัฒนธรรมก็วิปลาส
: เขียนพลาด วัฒนธรรมก็วิปริต
เขียนโดย : ทองย้อย แสงสินชัย
Tweet