2/11/68

ผีเสื้อจักรพรรดิ (Monarch butterfly) หายไปไหน ?

ถ้าผึ้ง-แมลงตาย รายถัดไปก็คือมนุษย์  แม้บ้างคนอาจจะเกลียดแมลงมากแค่ไหน แต่ในทางธรรมชาติ ผึ้ง-แมลง คือดัชนีบ่งชี้ความสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์ เพราะแมลงเป็นสื่อสำคัญของระบบนิเวศน์ เป็นทั้งอาหาร ช่วยแพร่พันธุ์ ซึ่งการสูญพันธุ์ของพวกมันหมายถึงการสูญพันธุ์ของสัตว์อื่นด้วย- [karimu ]


Monarch butterfly

      ผีเสื้อจักรพรรดิตะวันตก มีจำนวนลดลง 96% จากปีก่อนหน้า จากที่เคยนับได้เกิน 1 ล้านตัวเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว แต่จำนวนล่าสุดที่พบในปี 2024 เหลือเพียง 9 พันกว่าตัวเท่านั้น แม้จะเป็นตัวเลขแค่ในสหรัฐอเมริกา แต่เป็นไปได้ว่า  แนวโน้มนี้จะเกิดขึ้นทั่วโลก 

    หลายคนยังคงจำได้ในสมัยที่เรายังเป็นเด็ก เราจะพบเห็นผีเสื้อได้แทบจะทุกที่ที่มีต้นไม้ พุ่มไม้ หรือดอกไม้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่แถบนอกเมือง แมลงที่มีสีสันเหล่านี้  ช่วยแต่งแต้ม ธรรมชาติให้สดชื่นมากขึ้น   อย่างไรก็ตามเมื่อเราโตขึ้นเรากลับพบว่า  การจะหาผีเสื้อสักตัวกลายเป็นเรื่องยากมากในปัจจุบัน นั่นคือ สิ่งที่เกิดขึ้นกับ   ผีเสื้อจักรพรรดิ (Monarch butterfly)   ที่อาศัยอยู่ในแถบตะวันตกของสหรัฐฯ การนับจำนวนผีเสื้อประจำปี ครั้งที่ 28 ซึ่งเกิดขึ้นในปี 2024 ที่ผ่านมานี้   พบว่ามีจำนวนลดลงเกือบ 96% !!!  จากปีก่อนหน้า โดยมีอยู่เพียง 9,119 ตัวเท่านั้น ขณะที่จำนวนสูงสุดที่เคยนับได้อยู่ที่ 1.2 ล้านตัวในปี 1997  

    “เรารู้ว่าประชากรขนาดเล็กมีความเสี่ยงต่อความผันผวนจากสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ และเราคิดว่านั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นภายในปีนี้”   

    Emma Pelton นักชีววิทยาด้านสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ กล่าว “อุณหภูมิปลายฤดูร้อนที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และภัยแล้ง ทางตะวันตก  อาจมีส่วนทำให้ จำนวน 
ผีเสื้อจักรพรรดิ (Monarch butterfly)    ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ   ที่เราเห็นในรุ่นที่ 3 และ 4 ที่ผสมพันธุ์”   จำนวน 9,119 ตัวนี้  ถือเป็นจำนวนที่ต่ำที่สุดอันดับสองของประชากรผีเสื้อจักรพรรดิเท่าที่เคยนับกันมา โดยอันดับต่ำส่วนอยู่ที่ 1,901 ตัวในปี 2020 อย่างไรก็ตามผีเสื้อก็กลับมาเพิ่มขึ้นเป็น 247,246 ตัวในปีถัดมา ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 13,000% ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์จึงมีความหวังอยู่ว่า  มันจะไม่หายไปหมด แต่แนวโน้มก็ยังน่ากังวลอยู่ดี  เนื่องจากจำนวนผีเสื้อไม่เคยกลับไปแตะระดับล้านตัวเท่าที่เคยนับกันมา 

    แม้จะยังไม่ชัดเจนว่า  อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้จำนวนผีเสื้อลดลงเช่นนี้อย่างรวดเร็ว แต่ Pelton เชื่อว่าอาจเกี่ยวข้องกับอุณหภูมิที่สูงเกินไป ในช่วงปีที่ผ่านมา  รัฐทางตะวันตกของสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนรุนแรงในเดือนกรกฏาคม ที่พึ่งสูงขึ้นถึง 37.7°C ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เป็นอันตรายถึงชีวิตสำหรับแมลงหลายชนิด เช่นเดียวกันอาจมีปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วยเช่นยาฆ่าแมลง การสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

    “หลายคนเป็นห่วงผีเสื้อจักรพรรดิและพยายามทำโดยสมัครใจ  เช่น การทำสวนผสมเกสร และพื้นฟูถิ่นที่อยู่อาศัยเพื่อไม่ให้ผีเสื้อจักรพรรดิไม่อยู่ในสภาพที่แย่ไปกว่านี้”  

    Isis Howard ผู้ประสานงาน Western Monarch Count ของ Xerces Society กล่าว  “อย่างไรก็ตามการกระทำเหล่านี้ยังไม่เพียงพอ ที่จะช่วยให้ผีเสื้อจักรพรรดิฟื้นตัวได้ เราจำเป็นต้องทำงานในระดับที่ใหญ่กว่า  และแก้ไขปัญหาในวงกว้าง  เช่น การปนเปื้อนของยาฆ่าแมลง  และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ”

   USFWS (หน่วยงานด้านสัตว์ป่าของสหรัฐฯ) เสนอในเดือนธันวาคม 2024 ว่า  ให้ขึ้นทะเบียนผีเสื้อจักรพรรดิ  เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของสหรัฐอเมริกา  เพื่อปกป้องจำนวนที่เหลือยู่ 

   “วิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่าผีเสื้อจักรพรรดิต้องการโอกาสนั้น และรายชื่อที่เสนอนี้เชิญชวนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนเพื่อกำหนดทิศทางความพยายามในการอนุรักษ์ผีเสื้อจักรพรรดิ” Martha Williams ผู้อำนวยการของ USFWS กล่าว “หากเราร่วมมือกัน เราสามารถช่วยสร้างสายพันธุ์พิเศษนี้ให้เป็นมรดกสำหรับลูกหลานและรุ่นต่อ ๆ ไปของเราได้” 



ที่มา
-  fws.gov
-  xerces.org 
-  theguardian.com
-  iflscience.com

เรียบเรียงโดย :  environman / https://x.com/environmanth


ขับเคลื่อนโดย Blogger.

 
miscthailand