12/16/64

ขบวนการเขมรแดง Khmer Rouge

 กลุ่มนักศึกษาฝ่ายซ้ายชาวกัมพูชา ที่ได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลให้มาศึกษาต่อที่ฝรั่งเศส ในช่วงทศวรรษที่ 1950 พวกเขาได้ร่วมกันจัดตั้งขบวนการคอมมิวนิสต์ขึ้นในฝรั่งเศส

และได้แยกย้ายกลับไปกัมพูชาเพื่อสร้างฐานอำนาจแข่งกับกลุ่มของนโรดม สีหนุ (ฝ่ายกษัตริย์) และกลุ่มอำนาจของลอนนอล (ฝ่ายสาธารณรัฐ) จุดเริ่มต้นของ ประวัติศาสตร์แห่งการนองเลือดโดยขบวนการเขมรแดง ได้เริ่มต้นขึ้นจากจุดนี้ !!!

“จงโกรธแค้น ลุกขึ้นปฏิวัติ 

ทำลายสิ่งที่เป็นอยู่ แล้วสร้างใหม่”

 


 วาทะกรรม การปลุกระดม โดยใช้พลังมวลชน เยาวชน เป็นเครื่องมือแนวทางของลัทธิคอมมิวนิสต์ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นคอมมิวนิสต์โซเวียต หรือ เหมาอิสต์

  
   ปี พ.ศ. 2518 รัฐบาลลอนนอลได้ถูกโค่นล้มโดยกองกำลังฝ่ายคอมมิวนิสต์แห่งกัมพูชา หรือที่รู้จักกันในนาม “เขมรแดง” (Khmer Rouge) ในครั้งแรกที่เขมรแดงเข้ายึดกรุงพนมเปญได้นั้น ประชาชนต่างรู้สึกยินดีเพราะคิดว่าการมาของกลุ่มเขมรแดงจะนำพาความสงบมาให้ประเทศ ตามนโยบายของเขมรแดงที่ต้องการ โดดเดี่ยวทางการทูตของตนเอง แต่ทว่าสิ่งที่ตามมากลับตรงกันข้าม !!!

   เมื่อประเทศกัมพูชาตกอยู่ภายใต้อำนาจของ “พลพต” (Pon Pot) ผู้มีแนวคิดแบบคอมมิวนิสต์สุดโต่ง เขามีความเชื่อว่า ระบบสังคมนิยมจะทำให้กัมพูชากลับมารุ่งเรืองอีกครั้งเหมือนในอดีต โดยประเทศควรจะอยู่อย่างสันโดษ ไม่พึ่งพาวิทยาการทันสมัยใด ๆ ขอแค่มีอาหารเพียงพอก็อยู่ได้ เขาจึงกวาดล้างเหล่าปัญญาชนทั้งหลาย ซึ่งมีทีท่าว่าจะตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับแนวคิดของเขา ไม่ว่าจะเป็น หมอ พยาบาล ครู นักเขียน ศิลปิน ข้าราชการจากรัฐบาลก่อนหน้า และอีกหลาย ๆ อาชีพ ถึงขั้นกล่าวกันว่า “คนใส่แว่นสายตา” ที่ดูเหมือนเป็นผู้มีความรู้จะถูกฆ่าอย่างไร้เหตุผล เพราะเขาต้องการให้กัมพูชา “มีแต่ชนชั้นกรรมาชีพ” เพื่อสร้างปัจจัยการผลิตสู่ประเทศ และเสริมสร้างฐานอำนาจตนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น


   ผู้คนที่ถูกหลอก ด้วยวาทะกรรม "ความเท่าเทียม" โดยให้ออกจากเมือง ถูกพามาใช้แรงงานเป็นเกษตรกรเยี่ยงทาส โดยไม่มีการหยุดพักและแทบไม่มีอาหารในการบริโภค เขมรแดงได้ปฏิบัติต่อประชาชนเหล่านี้อย่างป่าเถื่อนและเลวร้าย ตลอดสี่ปีที่กัมพูชาตกอยู่ภายใต้การปกครองของเขมรแดง มีผู้เสียชีวิตทั้งจากการถูกฆ่า อาการป่วย และการทำงานหนักเป็นจำนวนมหาศาล จนเป็นที่มาของการกำเนิด “ทุ่งสังหาร” และ “คุกตวลสเลง” อันเลื่องชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมอำมหิต ชนิดแทบไม่มีใครอยากเชื่อว่านี่คือสิ่งที่มนุษย์กระทำกับเผ่าพันธุ์ตนเอง

 

บทความพิเศษ เกี่ยวกับ “ทุ่งสังหาร” และ “คุกตวลสเลง”

S-21 ประตูสู่ความหลุดพ้น ตอนที่ ๑ 

หากคุณเคยได้เรียนรู้ หรือได้ยินประวัติศาสตร์ของ เขมรแดง ในช่วงเวลาหนึ่ง คุณอาจจะยังไม่สามารถเข้าใจได้ถึงการสูญสิ้นของ “อิสรภาพ เสรีภาพ และภราดรภาพ” … ตามหัวข้อเรื่อง จนกว่าคุณจะได้ไปเยือน Security Office 21 (S-21) หรือ พิพิธภัณฑ์ตวลสเลง ( Tuol Sleng Genocide Museum ) สถานที่จองจำ , สอบสวน , ทรมาน และบีบคั้นผู้บริสุทธิ์นับหมื่นชีวิต

S-21 ถึง ทุ่งสังหาร ประตูสู่โลกหน้า ตอนที่ ๒

     หลังจากที่ นายพล พล พต ได้รับอำนาจในวันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๑๘ สิ่งแรกที่รัฐบาลของพลเอก พล พต ทำคือ การกวาดต้อนประชาชนชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่ในกรุงพนมเปญออกไปสู่ชนบท ท่ามกลางความยินดีปรีดาของประชาชนชาวกัมพูชาที่คิดว่า การปฏิวัติของผู้นำเขมรแดงในครั้งนี้ จะทำให้ชีวิตดีขึ้น !!!?? มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทุกคนต่างได้รับความเท่าเทียมกัน ต่างคนต่างส่งเสียงยินดี โห่ร้องอย่างมีความสุขไปทั้งเมือง แต่หารู้ไม่ว่าภายใน ๓ ชั่วโมงนับจากนั้น ภาพของนรกก็มาเยือนทุกคนอย่างที่ไม่ทันได้ตั้งตัว !!!!

 
      จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องศึกษาอดีต เพื่อให้รู้เท่าทันกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่พยายามยัดเยียดวาทกรรม “ทำลายสิ่งที่เป็นอยู่ แล้วสร้างใหม่” ให้กับเยาวชนแล้วหลอกใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือ ซึ่งแนวทางเหล่านี้คือสิ่งที่ขบวนการคอมมิวนิสต์ได้เคยสร้างความพินาศย่อยยับให้เกิดขึ้นมาแล้ว และสุดท้ายบันทึกการเคลื่อนไหวทางการเมืองของไทยในปัจจุบัน จะเดินทางซ้ำรอยประวัติศาสตร์แห่งการสูญเสียในอดีตหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับทุกคนว่าจะเขียนให้มันเดินไปในทิศทางใด

 

ข้อมูลโดย  https://www.luehistory.com

 https://www.bagindesign.com/

คลิ๊ก เพื่อ >>  ค้นหาเกี่ยวกับ  คอมมิวนิสต์ 


 

 

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

 
miscthailand