12/04/68

BARAK MX คืออะไร ? และ หมุดหมายใหม่ของระบบป้องกันภัยทางอากาศของกองทัพไทย

กองทัพอากาศไทยได้จัดซื้อ BARAK MX จาก Israel Aerospace Industries (IAI) ภายใต้งบประมาณ 3.44 พันล้านบาท  สำหรับชุดยิงหนึ่งชุด เพื่อยกระดับความสามารถป้องกันอากาศของฐานทัพและทรัพยากรสำคัญ 


กองทัพอากาศไทย ได้จัดซื้อ BARAK MX


     เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2025 รายงานจากสื่อต่างประเทศระบุว่า  กองทัพอากาศไทยได้เซ็นสัญญาจัดซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศ BARAK MX จาก Israel Aerospace Industries (IAI) ด้วยงบประมาณราว 3.44 พันล้านบาท (ประมาณ 107 ล้านดอลลาร์สหรัฐ - หรือประมาณราว 3.44 พันล้านบาท ) สำหรับชุดยิงหนึ่งชุด เพื่อยกระดับความสามารถป้องกันภัยทางอากาศของฐานทัพ และทรัพยากรสำคัญ จะสามารถทำให้ไทยได้รับระบบป้องกันแบบหลายชั้น (multi-layer) ที่ผสานขีปนาวุธหลายรุ่น ครอบคลุมเป้าหมายจากระยะใกล้ถึง ~150 กม. และออกแบบมาให้เป็นเครือข่าย-เซ็นตริก (network-centric) ที่ผสานกับเซ็นเซอร์และระบบบังคับบัญชาได้ง่าย

    ตามรายงาน กองทัพอากาศไทย ระบุว่า การจัดหา BARAK MX เป็นการลงทุนเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามในอนาคต .. โดยเฉพาะภัยรูปแบบใหม่ เช่น โดรน (UAV), ขีปนาวุธระยะกลาง–ไกล และขีปนาวุธแบบความแม่นยำสูง ที่ระบบป้องกันเดิมอาจรับมือได้ไม่ดีพอ

ระบบประกอบด้วย  เรดาร์ตรวจจับ

BARAK MX คืออะไร ?

    BARAK MX เป็นระบบป้องกันอากาศ และขีปนาวุธ (air and missile defence) ที่พัฒนาโดย IAI  ถูกออกแบบให้เป็น “ระบบโมดูลาร์ (modular)” และ “เครือข่าย-เซ็นตริก (network-centric)”  ที่สามารถติดตั้งได้ทั้งบนภาคพื้นดิน (รถ) และทางทะเล (เรือ)


✅ โครงสร้างและองค์ประกอบหลัก   
  • ระบบประกอบด้วย  เรดาร์ตรวจจับ (radar / multi-sensor), ศูนย์สั่งการควบคุม (Battle Management Center: BMC), และแท่นยิง (launcher) ที่สามารถใช้ขีปนาวุธหลายรุ่น

  • แท่นยิงของ BARAK MX เป็นแบบ vertical-launch (ปล่อยขีปนาวุธขึ้นในแนวดิ่ง) จึงทำให้สามารถป้องกันทิศทางได้ 360° รอบทิศทาง 

  • ตัวขีปนาวุธ (interceptors) มีหลายรุ่น เพื่อให้เหมาะกับความยาวรัศมีและประเภทภัยคุกคาม
สามารถติดตั้งได้ทั้งบนภาคพื้นดิน (รถ) และทางทะเล (เรือ)


🚀 ประสิทธิภาพ และ ความสามารถที่หลากหลาย

  • ขีปนาวุธ  รุ่นสั้น (BARAK MR)   สามารถสกัดเป้าหมายได้ในรัศมี ~ 35 กิโลเมตร รุ่นกลาง (BARAK LR) — รัศมี ~ 70 กิโลเมตร และ รุ่นระยะไกล (BARAK ER) — สามารถยิงเป้าหมายได้ไกลถึง ~ 150 กิโลเมตร และมีความสามารถต่อต้านขีปนาวุธระยะกลาง และขีปนาวุธที่มีสมรรถนะสูง

  • ระบบติดตาม/สกัด   สามารถรองรับ “ภัยหลากหลายรูปแบบ” เช่น เครื่องบินรบ, Helicopter, โดรน (UAV), ขีปนาวุธครูส (cruise missile), ขีปนาวุธร่อน, อากาศยานที่บินต่ำ, ขีปนาวุธพิสัยกลาง–ไกล รวมถึงภัยที่มีความเร็วสูงหรือคดเคี้ยว

  • ระบบออกแบบให้ “ยืดหยุ่น”   สามารถผสานกับเรดาร์ หรือระบบควบคุมอื่นๆ ของประเทศ และสามารถขยายขีปนาวุธ หรือแท่นยิงเพิ่มเติม ได้ตามความต้องการ

  • ระบบสามารถใช้งานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ในทุกสภาพอากาศ เหมาะสำหรับทั้งภารกิจป้องกันฐาน (point defence) และป้องกันพื้นที่ (area defence) 

สามารถติดตั้งได้ทั้งบนภาคพื้นดิน (รถ) และทางทะเล (เรือ)



บริบทภูมิภาค ที่กำลังเปลี่ยนไป
... และไทย ก็เลือกจะขยับก่อน ..

ในช่วง 3–5 ปีที่ผ่านมา อาเซียนเริ่มมีการแข่งขันด้านอาวุธเทคโนโลยีสูงชัดเจนขึ้น
  • สิงคโปร์ มีระบบสกัดขีปนาวุธชั้นนำ คือ Aster 30 SAMP/T เพื่อใช้ป้องกันภัยทางอากาศให้เกาะและพื้นที่ภายในประเทศ ทำให้สิงคโปร์มีความสามารถป้องกันภัยทางอากาศในระยะกลาง-ไกล (medium-range air defence) ที่ทันสมัย แทนระบบเก่าที่เคยมีอย่าง HAWK

  • ฟิลิปปินส์ เพิ่งจัดหา BrahMos จากอินเดีย เป็นขีปนาวุธร่อน /ต่อต้านเรือผิวน้ำ ที่ติดตั้งสำหรับฐานยิงชายฝั่ง (shore-based) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถป้องกันชายฝั่ง และพื้นที่ทางทะเลของประเทศ .... BrahMos เป็นขีปนาวุธความเร็วสูง ที่มีความแม่นยำ เป็นอาวุธที่สร้าง “อำนาจข่มขวัญ (deterrence)” สำหรับเรือรบและการเข้าถึงชายฝั่ง ช่วยให้ฟิลิปปินส์มีทางเลือกตอบโต้หากเกิดข้อขัดแย้งทางทะเล

  • มาเลเซีย มีความสนใจ (อยู่ในช่วงพิจารณา) ใช้ BrahMos-NG (รุ่นถัดไปของ BrahMos) สำหรับติดตั้งกับเครื่องบินรบ Su-30 ของตน BrahMos-NG ถูกออกแบบให้ “เบา เล็กกว่า และยืดหยุ่นกว่า” เมื่อเทียบกับรุ่นเก่า จึงเหมาะสำหรับใช้งานบนแพลตฟอร์มหลายประเภท (เรือ, ภาคพื้น, เครื่องบิน) ถ้ามาเลเซียตัดสินใจใช้จริง ก็อาจเพิ่มขีดความสามารถยืดหยุ่นทั้งยุทธศาสตร์ทางทะเลและอากาศ/ภาคพื้นให้กับตัวเองได้

ในขณะเดียวกัน ภัยรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะโดรนโจมตี กำลังกลายเป็น “อาวุธราคาถูกที่ทำลายของแพง” ได้ ...!!!

สนามรบยูเครน  พิสูจน์แล้วว่า ประเทศที่ไม่มีระบบป้องกันอากาศหลายชั้น = ความเสี่ยงที่จะเสียโครงสร้างพื้นฐานสำคัญภายในไม่กี่ชั่วโมง หากถูกโจมตี ...

ในบริบทนี้ การที่ไทยเลือก BARAK MX มาถือเป็นการ “ขยับก่อน” หลายประเทศในภูมิภาค เพราะเป็นระบบที่รองรับภัยหลากหลาย และบูรณาการกับเทคโนโลยีเดิมได้ง่ายกว่าระบบตะวันตกจำนวนมาก ....


ข้อมูลอ้างอิง



ขับเคลื่อนโดย Blogger.

 
miscthailand