10/17/68

"วันหมดอายุ" กับ "ควรบริโภคก่อน" ต่างกันอย่างไร ? "Expiration date" and "Best before"

บทความต่อไปนี้ จะพาคุณไปทำความเข้าใจความหมาย และความแตกต่างโดยละเอียด เกี่ยวกับคำว่า "วันหมดอายุ" กับ "ควรบริโภคก่อน" พร้อมทั้งยกตัวอย่างสินค้าในหลากหลายประเภท เพื่อให้คุณเข้าใจ และสามารถตัดสินใจ ได้อย่างถูกต้องและมั่นใจ

"วันหมดอายุ" กับ "ควรบริโภคก่อน"


"วันหมดอายุ" กับ "ควรบริโภคก่อน" ต่างกันอย่างไร?
เข้าใจก่อนเพื่อความปลอดภัยและประหยัดเงิน ....  

     เวลาที่เราจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภคบริโภคในซูเปอร์มาร์เก็ต หรือแม้แต่ตรวจสอบของในตู้กับข้าว หรือในตู้เย็น ที่บ้าน เรามักจะพบกับข้อความบนฉลาก อย่าง "วันหมดอายุ" (Expiration Date) และ "ควรบริโภคก่อน" (Best Before Date)  หลายคนอาจคิดและเข้าใจว่า   ทั้งสองคำมีความหมายเหมือนกัน  และ สามารถใช้แทนกันได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งสองคำนี้ มีความหมายและข้อแตกต่างที่ชัดเจนมาก การเข้าใจความแตกต่างนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เราบริโภคสินค้าได้อย่างปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการทิ้งอาหารที่ยังสามารถบริโภคได้อย่างสูญเปล่าอีกด้วยครับ 

     บทความต่อไปนี้ จะพาคุณไปทำความเข้าใจความหมาย และความแตกต่างโดยละเอียด พร้อมทั้งยกตัวอย่างสินค้าในหลากหลายประเภท เพื่อให้คุณเข้าใจ และสามารถตัดสินใจ ได้อย่างถูกต้องและมั่นใจ ครับ


1. วันหมดอายุ
(Expiration Date: EXP หรือ EXD)

      "วันหมดอายุ" หมายถึง  วันที่ ที่แสดงการสิ้นสุดของคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ภายใต้เงื่อนไขการเก็บรักษาที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ วันที่นี้ เป็นขีดจำกัดสุดท้ายที่ผู้ผลิตรับประกันว่าผลิตภัณฑ์ยังคงมีคุณภาพตามมาตรฐานและมีความปลอดภัยต่อการบริโภค

กล่าวคือ .... หลังจากวันที่ระบุไว้แล้ว ไม่แนะนำให้บริโภคต่อ “โดยเด็ดขาด” เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ วันที่นี้คือ "เส้นตาย" ด้านความปลอดภัย

     สภาพของผลิตหลังหมดอายุ บางชนิด อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี หรือจุลินทรีย์อย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้คุณภาพลดลงอย่างมาก และที่สำคัญที่สุดคือ อาจไม่ปลอดภัยต่อการบริโภค เนื่องจากเชื้อโรคหรือสารพิษอาจเจริญเติบโตจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

ตัวอย่างสินค้าที่มี "วันหมดอายุ" ชัดเจน และควรให้ความสำคัญอย่างที่สุดเลยนะครับ มีดังนี้...

 🍶  นมสดพาสเจอร์ไรส์ : หลังจากวันหมดอายุ นมจะบูด มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว และอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อน

🥩   เนื้อสัตว์สด/ไก่/ปลาสด : เป็นสินค้าที่เสียงต่อการเน่าเสียสูงมาก หลังจากวันหมดอายุแล้วมีความเสี่ยงต่อการเป็นพิษจากอาหารอย่างรุนแรง

🍱  อาหารพร้อมรับประทานแช่เย็น : เช่น สลัดผัก, อาหารสำเร็จรูปในร้านสะดวกซื้อ

 💊  ยารักษาโรค ต่างๆ  : คำว่า "วันหมดอายุ" บนยามีความหมายชัดเจนว่าหลังจากวันที่นั้นแล้ว ประสิทธิภาพของยาอาจลดลงหรือเปลี่ยนแปลงไป และอาจเป็นอันตรายได้ 

🍼  นมผงสำหรับทารก: เป็นหนึ่งในสินค้าที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดที่สุด เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของทารกยังไม่แข็งแรง


 ⚠️  ข้อควรจำ: สินค้าที่มี "วันหมดอายุ" หลังจากวันที่นั้นแล้ว ควร "ทิ้ง" ไปอย่างไม่ต้องเสียดาย เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและครอบครัว



2. ควรบริโภคก่อน
(Best Before Date: BB หรือ BBE)

      "ควรบริโภคก่อน" หมายถึง วันที่แสดงการสิ้นสุดของช่วงเวลาที่ผลิตภัณฑ์นั้น ที่ยังคงคุณภาพดีที่สุด ในด้านของรสชาติ กลิ่น สี เนื้อสัมผัส และคุณค่าทางโภชนาการ ภายใต้เงื่อนไขการเก็บรักษาที่ผู้ผลิตกำหนดไว้

      แต่หาก บริโภค หลังวันที่ระบุ: ผลิตภัณฑ์นั้น อาจยังคงบริโภคได้ และยังปลอดภัยต่อสุขภาพ (ตราบใดที่บรรจุภัณฑ์ยังไม่ถูกเปิดและมีการเก็บรักษาอย่างเหมาะสม) แต่คุณภาพของผลิตภัณฑ์จะเริ่มลดลง เช่น ขนมอาจไม่กรอบเหมือนเดิม , ชาอาจมีกลิ่นหอมลดลง หรือคุณค่าทางโภชนาการอาจลดลงเล็กน้อย


👉 ลักษณะของสินค้าที่ใช้คำว่า “ควรบริโภคก่อน”

เป็นสินค้าประเภท ไม่เน่าเสียง่าย หรือ ผ่านกระบวนการถนอมอาหารแล้ว เช่น   

  • 🍪 บิสกิต / ขนมอบ / ซีเรียล  
→ หลังวัน “ควรบริโภคก่อน” ยังสามารถกินได้ถ้าไม่อับชื้นหรือมีกลิ่นหืน
  • ☕ กาแฟผง / ชา / เครื่องดื่มผงสำเร็จรูป
→ กลิ่นและรสอาจอ่อนลง แต่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
  • 🍜 อาหารแห้ง / บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป / ข้าวสาร
→ หากไม่มีความชื้นหรือแมลงเจาะ ยังสามารถใช้ได้ แม้คุณภาพจะลดลงเล็กน้อย
  • 🧴 ซอสปรุงรส / น้ำปลา / ซีอิ๊ว / น้ำมันพืช
→ สีอาจเข้มขึ้นหรือกลิ่นเปลี่ยนเล็กน้อย แต่ไม่อันตราย หากปิดฝาแน่นและเก็บในที่เย็น
  • 🍫 ช็อกโกแลต / ขนมหวาน / นม UHT
→ หลังวัน “Best Before” อาจมีการแยกชั้นหรือเกิดฝ้าขาว (fat bloom) แต่ยังบริโภคได้


📌 สรุปแบบให้จำง่ายๆ  

  • “ควรบริโภคก่อน” (Best Before / Use By / BB หรือ BBE ) หมายถึง “ยังปลอดภัยหลังวันนั้น” แต่คุณภาพลดลง
  • “วันหมดอายุ” (Expiration Date / EXP หรือ EXD )   หมายถึง “ห้ามบริโภคหลังวันนั้น” เพราะไม่ปลอดภัย

💡  เทคนิคการตรวจสอบ และจัดการหลังวันที่กำหนด  

สำหรับ "วันหมดอายุ" ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ให้มากๆ ในการซื้อและบริโภคให้หมดก่อนวันที่กำหนด หากเลยวันที่แล้วควรทิ้งไป

สำหรับ "ควรบริโภคก่อน"  ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ ...
  • ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์: ว่ายังปิดสนิทดีอยู่หรือไม่ บวม หรือมีรอยรั่วไหม
  • ดูด้วยตา : สีของสินค้าเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน มีเชื้อราขึ้นหรือไม่
  • ดมกลิ่น : มีกลิ่นเหม็นหืน กลิ่นเปรี้ยว หรือกลิ่นผิดปกติใดๆ หรือไม่
  • ชิมรสชาติ (หากผ่านสองขั้นตอนแรก): ลองชิมเพียงเล็กน้อย หากรสชาติยังปกติก็สามารถบริโภคต่อได้

แล้ว ....  สินค้าอุปโภค (ที่ไม่ใช่บริโภค) ล่ะ ?

     สำหรับสินค้าอุปโภค เช่น ยาสีฟัน ครีมบำรุงผิว โลชั่น ส่วนใหญ่จะใช้สัญลักษณ์ "Period After Opening" (PAO)   ซึ่งเป็นรูปกระป๋องเปิดอยู่พร้อมตัวเลขและตัวอักษร m (เดือน) อยู่ด้านใน หมายถึง จำนวนเดือนที่สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้หลังจากเปิดฝาแล้ว โดยที่ยังคงประสิทธิภาพและความปลอดภัย

ตัวอย่าง: สัญลักษณ์ "12M" ในกระป๋องเปิด หมายถึง ควรใช้ให้หมดภายใน 12 เดือน หลังจากเปิดฝา ไม่เกี่ยวกับวันที่ผลิตหรือวันที่ซื้อ 


🌍 มุมมองระดับโลก เกี่ยวกับการลด “Food Waste”


      องค์กรอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ประเมินว่า อาหารกว่า 1 ใน 3 ของโลกถูกทิ้ง  โดยไม่จำเป็น ส่วนหนึ่งเพราะความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “วันหมดอายุ” ในหลายประเทศ เช่น อังกฤษและสหภาพยุโรป มีการ รณรงค์ให้ประชาชนแยกแยะคำว่า “Use By” กับ “Best Before” เพื่อให้ผู้บริโภคกล้าตรวจสอบอาหารก่อนทิ้ง และช่วยลดขยะอาหารได้หลายล้านตันต่อปี 

“การรู้ความหมายของวันที่บนฉลาก ไม่เพียงช่วยให้เรากินของได้ปลอดภัยเท่านั้น ...
แต่ยังช่วยให้เราเคารพอาหารทุกชิ้น และไม่ทิ้งสิ่งที่ยังมีคุณค่าโดยไม่จำเป็น”

      ความรู้นี้ ไม่เพียงแต่จะปกป้องสุขภาพของคุณจากอันตรายที่มองไม่เห็น แต่ยังช่วยให้คุณเป็นผู้บริโภคที่ชาญฉลาด สามารถจัดการกับทรัพยากรในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาการทิ้งอาหารและสินค้าที่ยังใช้ได้อย่างน่าเสียดาย อีกทั้งยังช่วยลดขยะในภาพรวมอีกด้วย ครั้งต่อไปที่หยิบสินค้าใดๆ ขึ้นมา ลองสังเกตุดูให้ดีว่ามันคือวันที่ประเภทไหน แล้วตัดสินใจอย่างถูกต้องตามหลักการนี้


ขับเคลื่อนโดย Blogger.

 
miscthailand