8/16/68

มีทรัพย์คนนับหน้า ตกอับมาคนเดินหนี อ่านนิทานเสี่ยอู๊ดแล้ว ทำให้ได้แง่คิด

  อ่าน "นิทานเสี่ยอู๊ด" แล้วทำให้ได้แง่คิดอย่างหนึ่งว่า  ในวันที่เรามี ทุกคนล้วนใจดีกับเราไปหมด แต่ในวันที่เราหมด ทุกคนอาจใจร้ายกับเรา  เงินซื้อสังคมและความนับถือปลอมๆ ได้ แต่เงินซื้อความจริงใจถาวรจากใครไม่ได้เลย


นิทานเสี่ยอู๊ด

.... เมื่อมั่งมีมากมายมิตรหมายมอง
เมื่อหม่นหมองมิตรมองเหมือนหมูหมา ...


    ใครคือเสี่ยอู๊ด ?   

 “อู๊ด สิทธิกร” เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2514   ในครอบครัวยากจน  ที่จังหวัดระยอง ทำให้เขาได้เรียนเพียงชั้น ม.3 จากนั้นมีคนชักชวนไปค้าขายที่หาดใหญ่ ....

2  ระหว่างนั้น  อู๊ดถูกชักชวนเข้าสู่วงการนักเลงพระเครื่อง 8 ปีต่อมาเขาสร้างเนื้อสร้างตัว จนได้เป็นประธานบริษัทฯ ในวัยเพียง 30 ต้น ๆ กลายเป็น “เสี่ยอู๊ด” ผู้กว้างขวาง และโด่งดังแห่งวงการพระเครื่อง ...


    ในยุครุ่งเรืองของธุรกิจปั๊มพระเครื่องขาย  ....  

3   ในยุคนั้น เป็นยุครุ่งเรือง ของการสร้างพระเครื่องขาย มีการโหมโฆษณาตามสื่อต่างๆ ทั้งทางทีวี หนังสือพิมพ์ , นิตยสารพระ และป้ายบิลบอร์ดขนาดยักษ์ ....

4   มีการขออนุญาตใช้สถานที่ดังๆ ทางประวัติศาสตร์  เพื่อทำพิธีปลุกเสกพระเครื่อง  แล้วนิมนต์เกจิอาจารย์ดังเข้าร่วมพิธี โดยถวายปัจจัยกันหลักหมื่นหลักแสน ....

5   พระเครื่องบางรุ่น ถึงกับตีข่าวว่าปิดโบสถ์ 3 วัน 3 คืนปลุกเสก มวลสารก็ต้องมีสตอรี่  หรือรวบรวมมาจากทุกภาคของไทย เพื่อให้คนฮือฮา ยอดบูชาจะได้ทะเลุเป้า !!! 

6   การตั้งชื่อรุ่นของพระเครื่อง ก็ต้องให้สอดคล้องกับ "กิเลส" และความเหลื่อมล้ำของสังคมไทย เช่น หลวงปู่รุ่นปลดหนี้ หลวงพี่รุ่นรวยเร็ว  เพื่อกระตุ้นให้คนอยากครอบครอง เพื่อจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ...

 ทั้งหมดนี้  ทำให้การสร้างพระเครื่อง  กลายเป็นพุทธพาณิชย์ ที่ทำเงินให้วัดมหาศาล มีเงินหมุนเวียนในระบบเป็นพันล้าน ส่วนจะมีเงินตกใส่ย่ามพระ  หรือกระเป๋าฆราวาสบ้างหรือไม่ คงต้องเดากันเอง ..?!?! 



   เบอร์ 1 แห่งวงการสร้างพระเครื่อง

8   เสี่ยอู๊ดกลายเป็นเบอร์ 1 แห่งวงการปั๊มพระเครื่อง และเป็นลูกศิษย์คนสนิท ของหลวงพ่อ A เจ้าอาวาสวัดดัง เสี่ยอู๊ด สามารถทำเงินเข้าวัดได้หลายร้อยล้านบาท 

9   เสี่ยอู๊ด  ใช้วิธีการนี้   ระดมทุนหาเงินให้องค์กรต่างๆ มากมาย อาทิ สร้างทั้งวัด ,โรงเรียน , โรงพยาบาล มหาวิทยาลัยสงฆ์ ฯลฯ   อาคารบางแห่ง  ถึงกับตั้งชื่อว่า ‘สิทธิกร’   ไม่รวมการให้ทุนเด็กจำนวนมาก จนสภาสังคมสงเคราะห์ฯ ส่งเรื่องขอพระราชทานเครื่องราชฯ ให้เสี่ยอู๊ด ...

10   ในขณะเดียวกัน  เสี่ยอู๊ด  ก็มีความเป็นอยู่หรูหรามาก  เขามีคอนโดราคาหลายสิบล้านใจกลางกรุงเทพฯ และกลายเป็นพ่อบุญทุ่มของ  ดารานักร้องหนุ่มๆ ในวงการบันเทิงยุคปลาย 90 - ยุคต้น 2000 ทั้งพาเที่ยวต่างประเทศ ซื้อรถให้ และเปย์เป็นเงินสด ... 


   พระสมเด็จเหนือหัว และเส้นทางสู่คุก

11  ปลายปี พ.ศ. 2550 เสี่ยอู๊ด ได้สร้างพระเครื่องชื่อ “พระสมเด็จเหนือหัว” ด้านหลังเป็นตราพระมงกุฎ .. โดยอ้างว่า  สร้างจากมวลสารดอกไม้พระราชทานฯ  รายได้สมทบทุนมูลนิธิ ที่หลวงพ่อ A เป็นประธาน

12   เปิดขายได้ไม่กี่วัน  เสี่ยอู๊ดก็ถูกจับ เพราะสำนักพระราชวังฯ  แจ้งความว่า  เป็นการแอบอ้าง ตราพระมงกุฎก็ไม่ได้ขออนุญาตใช้ ...

13   หลวงพ่อ A กับคณะกรรมการมูลนิธิฯ ให้การว่า  "ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง"   อู๊ดจึงโดนคดีคนเดียว ศาลพิพากษาจำคุกเขา 5 ปี ฐานฉ้อโกงประชาชน, ฐานใช้ และเลียนแบบเครื่องหมายราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต 

14    ก่อนเดินเข้าคุก เสี่ยอู๊ด  เขียนจดหมายตัดพ้อหลวงพ่อ A ว่า  ตนยึดมั่นตามคำสอนของท่านและพยายามปกป้องท่าน แต่ผลลัพธ์คือติดคุกอยู่คนเดียว ?!!? 


    สิ้นศรัทธาหลังพ้นโทษ

15   ระหว่างอยู่ในคุก เสี่ยอู๊ดพยายามฆ่าตัวตาย แต่ไม่สำเร็จ เมื่อพ้นโทษออกมา ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2558 เขากลายเป็นคนไม่เชื่อเรื่องบาปบุญอีกต่อไป และยังคิดจะฆ่าตัวตาย ... 

16  หลังพ้นโทษ  เสี่ยอู๊ดให้สัมภาษณ์ในรายการ “วู้ดดี้เกิดมาคุย” ตอนหนึ่งเขาพูดว่า…

"นรก สวรรค์ บุญ บาป ผมไม่เชื่อว่ามีจริง มันเป็นเรื่องที่อุปโลกน์ขึ้น บาปเป็นยังไงอะ ? ผมทำบุญมหาศาล ผลยังเป็นอย่างนี้"

17     เสี่ยอู๊ดบอกว่า เขายังคิดจะฆ่าตัวตายอยู่  ...  "ในเมื่อผมตายในคุกไม่ได้ ถ้ามีโอกาสผมก็จะมาตายนอกคุก คนที่รักผมคือพ่อกับแม่ก็ตายไปหมดแล้ว ตอนนี้คนที่จะเสียใจถ้าผมตายไม่มีแล้ว" 

18  เสี่ยอู๊ดยังพูดถึงหลวงพ่อ A ว่า   “ผมไม่ได้น้อยใจศาล ผมน้อยใจผู้ที่ผมเคารพรัก ผมทำเพื่อท่านมาเยอะ ตอนนั้นคิดว่าถ้ามีปัญหาท่านก็คงช่วยรับผิดชอบ แต่สุดท้ายผมกลายเป็นหนุมานแบกกรุงลงกาอยู่คนเดียว” 

19  หลังพ้นโทษ  เสี่ยอู๊ดตระเวนเยี่ยมสถานที่สาธารณประโยชน์ต่างๆ ที่เขาเคยช่วยมอบเงินสร้าง พบว่าหลายแห่งปลดป้ายชื่อของเขาในฐานะผู้บริจาคออก ....


   จดหมายลาตาย

20    วันที่ 30 ตุลาคม 2558 พบศพเสี่ยอู๊ดในวัย 44 ปี มีเงินติดตัวเพียง 200 บาท นอนเสียชีวิต อยู่ในห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่งที่พิษณุโลก เขาฆ่าตัวตาย  ด้วยการกินยานอนหลับเกินขนาด หลังพ้นโทษออกมาเพียง 4 เดือน 

21   เขาทิ้งจดหมายลาตายไว้หลายฉบับ หนึ่งในนั้น คือ เล่าเรื่องราวการสร้างพระสมเด็จเหนือหัวไว้อย่างละเอียด ใจความว่า… 

⚪   หลวงพ่อ A ต้องการสร้างอุโบสถที่วัดในจังหวัดบ้านเกิด จึงมาขอให้อู๊ดช่วยสร้าง "พระเครื่องสมเด็จเหนือหัว"  โดยให้ทำในนามมูลนิธิที่หลวงพ่อเป็นประธาน ....

  หลวงพ่อ A เคยได้รับดอกไม้พระราชทานจากงานฉลองสิริราชสมบัติเมื่อปี 2549 จึงคิดเอาดอกไม้นั้นมาทำมวลสาร

   หลวงพ่อ A  มีส่วนร่วมทุกอย่าง ตั้งแต่ลงนามแต่งตั้งอู๊ดเป็นผู้สร้างพระ, ทำหนังสือขอใช้วัดดังเป็นสถานที่ปลุกเสก, เป็นประธานในพิธีปลุกเสกด้วยตัวเอง รวมทั้งเปิดบัญชีรับเงินจากการขายพระ 4 บัญชี

⚪   ต่อมา  มีผู้ทักท้วงว่า  การสร้างพระสมเด็จเหนือหัว นี้ ไม่ถูกต้องตามขั้นตอน แต่หลวงพ่อA ยังสั่งเดินหน้า โดยบอกอู๊ดว่า “ทำไปก่อน มีอะไรค่อยว่ากัน”

⚪   รองราชเลขาธิการฯ ถึงกับเดินทางมาหาหลวงพ่อA ที่วัด  เพื่อคุยเรื่องนี้ แต่คลาดกัน อู๊ดขอให้หลวงพ่อโทรกลับไป ขอคำปรึกษาจากรองราชเลขาธิการ แต่หลวงพ่อไม่ยอมโทร ...

  เริ่มมีข่าวลงในหนังสือพิมพ์ แต่หลวงพ่อ กลับรับนิมนต์บินไปจีน พอทางสำนักพระรางวัง ออกหนังสือว่า  ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างพระ  หลวงพ่อก็โทรด่วนจากจีน สั่งให้คนปลดป้ายขายพระ ที่หน้ามูลนิธิออก

⚪   พอกลับจากจีน หลวงพ่อA ต่อสายให้อู๊ดคุยกับผู้ชายคนหนึ่ง อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ และเป็นคนบ้านเดียวกับอู๊ด เขาพูดว่า  “อู๊ดก็รักหลวงพ่อใช่ไหม ดังนั้นอู๊ดรับแทนหลวงพ่อไปก่อนนะ”

⚪   อู๊ดถูกจับ มีหลายสายโทรหา ด้วยความเป็นห่วง แต่ไม่มีสายจากหลวงพ่อA แม้แต่สายเดียว ?!?

⚪   อู๊ดไม่ซัดทอดใคร และไม่ยอมแสดงหลักฐาน ที่หลวงพ่อลงนาม เพื่อกันหลวงพ่อ ออกจากคดี ทำให้เขาถูกฟ้อง และติดคุกคนเดียว ...

⚪   ต่อมา  อู๊ดได้เห็นเอกสารที่หลวงพ่อA ให้การกับ DSI ว่า “ไม่รู้เห็นเรื่องการสร้างพระและการแอบอ้างดอกไม้พระราชทาน นายสิทธิกรทำให้มูลนิธิเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่ไม่ขอติดใจเอาความ”

⚪  เสี่ยอู๊ด อ้างว่า  เรื่องนี้เป็นคดีขึ้นมาเพราะพระผู้ใหญ่รูปหนึ่ง ริษยาหลวงพ่อ A  เพราะอยากขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะก่อนหลวงพ่อ A   จึงเอาข้อมูลที่เสียหายไปแจ้งบุคคลระดับสูง หวังสกัดดาวรุ่งหลวงพ่อ

⚪   ส่วนหลวงพ่อ A ก็อยากขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะเต็มที กลัวว่าหากมีคดีความ เป็นมลทินจะไม่ได้ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะ จึงโยนความผิดให้เสี่ยอู๊ดคนเดียว ....

⚪   ในขณะที่ อู๊ดติดคุก หลวงพ่อ A ก็ได้เลื่อนขั้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะสมใจ แม้จะมีเสียงคัดค้านบ้างก็ตาม โดยตลอดระยะเวลาที่ติดคุก เสี่ยอู๊ดไม่เคยได้รับการเยี่ยมหรือติดต่อจากหลวงพ่อเลย  (ปัจจุบันหลวงพ่อมรณภาพแล้ว)

⚪   ระหว่างที่เสี่ยอู๊ดถูกดำเนินคดี เขาถูกกลุ้มรุม จากข้าราชการของกระบวนการยุติธรรมไทย เพราะหวังได้เงินจากเขา เช่น อ้างว่าจะช่วยปลดอายัดเงินให้ แต่ต้องจ่ายค่าดำเนินการ 13 ล้านบาท


   เมื่อมั่งมีมากมายมิตรหมายมอง เมื่อหม่นหมองมิตรมองเหมือนหมูหมา

22   นอกจากนี้  ยังมีจดหมายอีกฉบับของเสี่ยอู๊ด เล่าว่า   เขาเคยบริจาคเงินให้ทั้งบุคคลและองค์กรต่าง ๆ รวมกว่า 3,000 ล้านบาท ตอนนั้นทุกคนเทิดทูนเขา แต่พอให้ประโยชน์แก่ใครไม่ได้แล้วก็ถูกหมางเมิน เช่น

⚪  มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งหนึ่ง  - ตนอุปถัมภ์มานาน 8 ปี มอบเงินให้จำนวน 186 ล้าน ตอนนั้นเขายกย่องตนเป็นประธาน แต่พอพ้นโทษตนแวะไปเยี่ยมกลับไม่ต้อนรับ ...

⚪  วัดและโรงเรียนที่บ้านเกิด -  เคยบริจาคเงินให้หลายสิบล้าน ทางวัดยกย่องสรรเสริญตนเหมือนเทวดา เวลากลับถึงกับส่งคนไปปิดประตูรถให้ แต่พอติดคุก  เจ้าอาวาสก็รังเกียจ ไม่ยอมไปเบิกความช่วยตนที่ศาลอาญา แล้วยังถอดป้ายชื่อตนออกจากอาคารเรียน ....

⚪   วัดแห่งหนึ่งในสมุทรปราการ - ตนหาเงินให้สร้างอาคารเรียน สร้างศาลา และบูรณะอุโบสถ รวมทั้งขอพัดยศให้เจ้าอาวาส ทางวัดเอาใจตนทุกอย่าง แต่พอติดคุก อาคารเรียนที่สร้างเสร็จจารึกชื่อผู้เกี่ยวข้องมากมาย ยกเว้นชื่อตน เมื่อพ้นโทษ ตนไปไหว้พระที่วัดหลายครั้ง แต่เจ้าอาวาสไม่ยอมให้พบ  ...

⚪   นักร้องชายชื่อดัง - ตนเคยช่วยเหลือหลายอย่าง ทั้งให้เงินนับ 10 ล้าน ทั้งไถ่ถอนบ้านให้ เมื่อก่อนตนเมื่อยตัว แม่นักร้องก็มาคอยบีบนวด พี่ชายมาขับรถให้ แต่พอตนติดคุกไม่เคยไปเยี่ยม และยังกล่าวหาว่าตนแอบอ้างว่ารู้จักเขา 

⚪   นักเรียนทุนในอุปการะ 57 คน -   ขนาดตนติดคุกแล้ว ยังสั่งให้มอบทุนต่อ แต่พอตนพ้นโทษ  ทุกคนก็หายไปจากชีวิต แม้แต่นิสิตแพทย์จุฬาฯ และนักเรียนนายร้อย จปร. ที่เคยเขียนจดหมายพรรณาว่า อยากเจอตน แต่ตอนนี้ไม่ยอมพบหน้า ไม่มีแม้แต่คนเดียว ที่รับปริญญาแล้ว  จะใส่ครุยมาขอถ่ายรูปกับตน ไม่มีใครกล้าเปิดเผยต่อสาธารณชนและในโซเชียลฯ ว่าเรียนจบด้วยทุนของตน ...

23  เสี่ยอู๊ด เคยเล่าในรายการวู้ดดี้ว่า   มีเพียง รพ.มะเร็งลพบุรี  ที่ไม่ทอดทิ้งเขา เขาเคยหาเงินให้สร้างอาคารปฏิบัติการ  และซื้อเครื่องสแกน MRI   ...ระหว่างติดคุกโรงพยาบาลยังเป็นห่วงเป็นใยสุขภาพของเขา และตั้งชื่อห้องประชุมตามชื่อเขาด้วย ...

24   เสี่ยอู๊ดเสียชีวิตไปเกือบ 10 ปีแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าจดหมายลาตายของเขาจริงเท็จแค่ไหน แต่เรื่องราวของเสี่ยอู๊ดยังคงเป็นที่เล่าขานมาจนถึงปัจจุบัน ...



โดย :  fb / Poetry of Bitch
สรุปและเรียบเรียงจาก : วู้ดดี้เกิดมาคุย, ไทยรัฐ, Manager Online, Post Today ฯลฯ




อ่านนิทานเสี่ยอู๊ดแล้วทำให้ได้แง่คิดอย่างหนึ่งว่า


  • ในวันที่เรามี ทุกคนล้วนใจดีกับเราไปหมด แต่ในวันที่เราหมด ทุกคนอาจใจร้ายกับเรา มีทรัพย์คนนับหน้า ตกอับมาคนเดินหนี มันคือสัจธรรมค่ะ
  • เงินซื้อสังคมและความนับถือปลอมๆ ได้ แต่เงินซื้อความจริงใจถาวรจากใครไม่ได้เลย ดังนั้นอย่าทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อนเพื่อใครเด็ดขาด เพราะในวันที่มีภัย คนที่เห็นแต่ได้จะหนีเอาตัวรอดก่อนเสมอ
  • ชีวิตมีขึ้นมีลงตามหลักของโลกธรรม ดั้งนั้นถึงตอนเวลาขึ้นก็อย่าได้หลุ่มหลงในคำคนจนหมด และเมื่อวันที่ชื่อเสียงถูกลด ก็อย่าได้เรียกร้องความเห็นใจจากใครทั้งนั้น (เพราะมันไม่มี)

ข้อมูลข่าวที่เกี่ยวข้อง 

  • ปปง.อายัดเงินสมเด็จวัดสุทัศน์ฯแต่...ไม่ได้อายัด'เสี่ยอู๊ด'!
    : เรื่องไตรเทพ ไกรงู ภาพ กุลพันธ์ ศิริพิมพ์อัมพร   
    https://www.komchadluek.net/amulet/169243

ขุดยับวีรกรรม'ฟิล์ม รัฐภูมิ'เคยทำกับ'เสี่ยอู๊ด สิทธิกร'
ให้ทุกอย่าง แต่ไม่เคยสำนึกบุญคุณ?



ขับเคลื่อนโดย Blogger.

 
miscthailand