5/31/68

“พระเจ้าแผ่นดิน” ผู้ไม่มีงาน “ออกพระเมรุ”

วันนี้ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๘ คือ วันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗




       หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๕  รัชกาลที่ ๗  กับคณะราษฎร ก็มีเรื่องขัดแย้งกันอยู่ตลอด จนพระองค์เสด็จประพาสยุโรป และรักษาพระอาการประชวร จนในที่สุด พระองค์ตัดสินพระราชหฤทัยสละ ราชสมบัติ  เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๗๗ หลังจากมีพระราชหัตถเลขาสละราชสมบัติ พระองค์ทรงกลับไปใช้พระนามและพระราชอิสริยยศเดิม

  คือ “...สมเด็จเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา...” แทน

🏚️
  พระชนม์ชีพของรัชกาลที่ ๗ หลังสละราชสมบัติ  

     ทรงดำรงพระชนมชีพอย่างเงียบ ๆ ประทับ ณ ประเทศอังกฤษ แต่พระองค์ทรงพระประชวรอยู่เนือง ๆ โดยปี พ.ศ. ๒๔๘๔   พระองค์ทรงพระประชวรมาก ด้วยโรคตัวบิดเข้าไปอยู่ในพระยกนะ (ตับ) แต่แพทย์ได้รักษาจนเป็นปกติ พระอาการประชวรของพระองค์ กำเริบหนักขึ้นโดยลำดับ กระทั่ง  วันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๔๘๔ พระองค์เสด็จสวรรคตโดยฉับพลันด้วยพระหทัยวาย ขณะที่มีพระชนมพรรษา ๔๘ พรรษา

     สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ ทรงจัดการพระบรมศพ เป็นการภายใน  โดยอัญเชิญพระบรมศพประดิษฐาน ณ พระตำหนักคอมพ์ตัน ซึ่งรัฐบาลอังกฤษ ได้อนุญาตเป็นกรณีพิเศษในการประดิษฐานพระบรมศพเป็นเวลา ๔ วัน *** ซึ่งตามปกติจะอนุญาตเพียงวันเดียว เพื่อให้ประยูรญาติที่อยู่ห่างไกลมาถวายบังคมลาเป็นครั้งสุดท้าย

     รัชกาลที่ ๗ ไม่มีพระเมรุมาศ เนื่องจากพระองค์เสด็จสวรรคตที่ต่างประเทศ เเล้วประกอบพิธีอย่างเรียบง่ายที่สุด ก่อนสวรรคต พระองค์ทรงสั่งไว้ว่า....

“...ถ้าพระองค์สวรรคตเมื่อไร ให้ทรงพระภูษาแดง และทรงสะพักผ้าขาวผืนเดียวแล้วเอาลงหีบ แล้วจัดการถวายพระเพลิงพระบรมศพโดยเร็ว ไม่ต้องมีพิธีเกียรติยศอย่างใดทั้งสิ้น และขอให้เอาซอไวโอลินไปเล่นเพลงที่พระองค์โปรดเพียงคันเดียวในขณะที่กำลังถวายพระเพลิง...”

....  ณ  ประเทศอังกฤษ ที่นั้น ต่างบ้านต่างเมือง งานพระบรมศพจัดอย่างเรียบง่ายที่สุด  ตามพระประสงค์ก่อนที่พระองค์จะสวรรคต คือ ไม่ต้องมีงานออกพระเมรุฯ  ไม่ต้องมีพระโกศ   ไม่ต้องมีราชรถ ไม่ต้องประโคมย่ำ  ไม่ต้องมีพระสวด ไม่ต้องเครื่องยศ แล้วเผาให้ไวที่สุด ไม่ต้องร้องไห้ .... 


       ในปี พ.ศ.  ๒๔๙๒ 

      หลังจากการเมืองภายในประเทศสงบลง รัฐบาลในขณะนั้น  จึงได้กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ เสด็จนิวัตกลับราชอาณาจักรไทยเป็นการถาวร .... โดยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ ได้อัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว กลับมาด้วย

       โดยทางกองพระราชพิธี  ได้จัดเตรียมโกศ  สำหรับบรรจุพระบรมอัฐิ ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตรไว้เมื่อพระบรมอัฐิมาถึง  ก็เปลี่ยนใส่ทันที บนเรื่องพระที่นั่ง เจ้าพนักงานอัญเชิญพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว  ลงจากเรือพระที่นั่ง โดยมีสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ เสด็จพระราชดำเนินตามพระบรมอัฐิ ...


เรียบเรียงโดย :  fb/โบราณนานมา








ขับเคลื่อนโดย Blogger.

 
miscthailand