4/23/67

ยุคนี้ เป็นยุคที่ คนทำผิดศีล ผิดธรรม กลายเป็นเรื่องปกติ

.... คนหลงไปกับมายาของโลก ถูกโลกย้อม จนไม่มีโอกาสได้ตื่นขึ้น   การเข้าถึงความสุขที่แท้จริง ที่อยู่ภายในใจของเราเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ได้อยู่ภายนอกที่ใหนเลย อยู่ภายในใจของเราทุกคน พวกเราลองมองดูสิ .... ? 

ยุคนี้ เป็นยุคที่ คนทำผิดศีล ผิดธรรม กลายเป็นเรื่องปกติ

ยุคนี้ เป็นยุคที่ คนทำผิดศีล ผิดธรรม
กลายเป็นเรื่องปกติ ? 

    ผู้คนทั้งหลาย แสวงหาไม่หยุด ไม่มีวันเต็ม ยิ่งแสวงหา ก็ยิ่งต้องเจอกับความสุขที่เป็นมายาของโลก แท้จริงแล้ว มันมีแต่ทุกข์ทั้งนั้น คนจนก็มีความทุกข์แบบคนจน คนรวยก็มีความทุกข์แบบคนรวย ....

   ยิ่งโลภมากอยากได้ แสวงหาเข้าตัวเองมากเท่าไร ก็ก่อการเบียดเบียนผู้อื่น ทางกาย วาจา ใจ
ก่อการเบียดเบียน เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เท่านั้น 

    โลกขาดศีลธรรม มีความเห็นแก่ตัว อยากจะมีเงิน เมื่อมีเงินมากแล้ว ก็อยากจะมีอำนาจ อย่างจะเป็นใหญ่ที่สุดในประเทศ .... อยากจะเป็นใหญ่ที่สุดในโลก !!!

    พวกคนทั้งหลาย กำลังมีความเห็นที่ผิดหมดเลย และ จะลุกลามไปเรื่อยๆ ถ้าพวกเรา เป็นผู้มีสติที่ตั้งมั่น เป็นสมาธิ เห็นโลกตามความเป็นจริง ด้วยใจที่ตั้งมั่น ตื่นรู้ เราจะเข้าใจได้ว่า จักรวาลนี้กว้างใหญ่ไพศาลมาก ... มีความเป็นธรรมชาติ พวกเราทุกคน เป็นแค่เศษฝุ่นในจักรวาล แต่หลงผิดคิดว่าตัวเองใหญ่ ....

กฎแห่งกรรม
คือ กฎที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่มีใครจะใหญ่เกินกรรม 

    ไม่มีใครจะมีอำนาจเหนือกรรม แม้แต่เทวดา เทพ พรหม ทั้งหลาย ก็ไม่มีอำนาจ เหนือกรรม ที่จะบรรดาลพรให้ใครได้ในสิ่งที่หวังได้ .... เทวดาแต่จะช่วยดลจิตดลใจได้ ถ้าเรามีสติอยู่กับปัจจุบันธรรม
เราทำอะไรลงไป ทางกาย วาจา ใจ สิ่งที่ดี และ ไม่ดี  มันจะย้อนกลับมาหาเราหมดเลย เป็นเท่าทวีคูณ ทำดี ความดี ก็จะย้อนกลับมาหาเรา เป็นเท่าทวีคูณ  ทำไม่ดี ความไม่ดี ก็จะย้อนกลับมาหาเราเป็นเท่าทวีคูณ ...

เราฝึกเจริญสติ นั่งสมาธิ เราก็จะเป็นผู้มีปัญญา มีจิตใจที่ตั้งมั่นไม่หวั่นไหว...

      เห็นโลกตามความเป็นจริง เป็นผู้เข้าถึงความสุข ภายในใจ ซึ่งเป็นความสุขที่แท้จริง จนสามารถหลุดพ้น ไปจากวัฎสงสารนี้ จักรวาลนี้ กลับคืนสู่ความบริสุทธิ์ ของธรรมชาติ คือ พระนิพพานได้

      ถ้าเราเป็นผู้มีศีล 5 เป็นอย่างต่ำ    คือ เป็นผู้มีความเป็นปกติ ของกาย วาจา ใจ งดเว้นจากการเบียดเบียน ตนเอง งดเว้นจากการเบียดเบียนผู้อื่น สรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ในโลกนี้ ทางการกระทำ ทางคำพูด และ ทางความคิด เราก็จะเป็นผู้มีศีล และ ไม่มีใครมามีเวร มีภัยกับเรา ...

      ถ้าเราเป็นผู้ที่เสียสละ เป็นผู้มีประโยชน์ กับเพื่อนมนุษย์ และ พระพุทธศาสนา มีการให้ทานอยู่เสมอ  เราก็จะเป็นผู้ที่ได้รับกลับมาอย่างไม่ขาดสาย เหมือนน้ำตกที่ไหลมาสู่เราไม่มีวันหยุด 

    เช่นเดียวกัน

       แต่ถ้าพวกเราท่านทั้งหลาย ขาดปัญญา เหมือนพวกคนที่สร้างปัญหาให้พระพุทธศาสนา ไอ้ที่ไปไล่จัดฉาก ด่าพระ  ไล่พระ แม้แต่ศีล 5 ยังไม่ครบเลย  3 ข้อ ยังได้ไม่ถึงเลย ถ้าเราไปเชื่อ ไปด่าพระตามเค้า ถ้าไปโดนพระอริยสงฆ์เข้านี่ ปิดสวรรค์ ปิดนิพพานเลย วิหารธรรม ภายในนี่ เล่าร้อนไฟนรกได้จุดขึ้นแล้ว ตายไปแล้ว ก็จะจมสู่ความมืดมิดไปอย่างยาวนาน ไม่คุ้มกันเลย ให้พวกเราท่านทั้งหลาย ที่มีความเห็นผิด ให้รีบตั้งสติ เข้ามาอยู่ในขอบเขตของพระพุทธศาสนา .... จะได้ไม่ต้องจมสู่ความเร่าร้อน ในนรกภูมิ...เสวยความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน อย่างยาวนาน ไม่มีโอกาสได้เกิดเป็นมนุษย์ พบพระพุทธศาสนาไปอย่างยาวนาน มีแต่จะตกต่ำลงไปเรื่อยๆ ....

      พระพุทธเจ้าทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ....

     พระพุทธศาสนา จะมีอายุได้ 5,000 ปี  ถึงกึ่งพุทธกาล คือ  2,500 ปี ศาสนาจะเสื่อมลง...  
 
แต่ก่อนที่จะเสื่อมลง ศาสนาจะรุ่งเรือง ... ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะคนจะเห็นภัยของโลก

ส่วนใครที่ยังไม่มีสติ ก็เท่ากับว่า เราศีลเสมอกัน กับพวกเขาเหล่านั้น ก็ไม่สามารถจะช่วยอะไรได้


Cr. เพจ อมตะธรรม ประเทศไทย
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

 
miscthailand