2/08/66

หนังสือ “Twilight Over Burma: My Life as a Shan Princess” สิ้นแสงฉาน

อิงเง เซอร์เจนท์ หรือเจ้านางสุจั่นตี อดีตมหาเทวีแห่งสีป้อ รัฐฉาน ในเจ้าฟ้าจาแสง สิ้นพระชนม์แล้ววันนี้ด้วยพระชันษา ๙๑ ชันษา ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นอดีตมหาเทวีที่ผ่านเรื่องราวสุข ทุกข์มามากมาย ถ้าใครเคยอ่านสิ้นแสงฉาน ต้องรู้จักท่านเป็นอย่างดี ขอให้ดวงวิญญาณเจ้านางสู่สุคติ 


สิ้นแสงฉาน โดย เจ้านางสุจั่นตี


หนังสือเรื่อง “ Twilight Over Burma
: My Life as a Shan Princess” 
แปลเป็นภาษาไทยในชื่อ  "สิ้นแสงฉาน"

หนังสือ “Twilight Over Burma
.... เรื่องราวของเจ้านางสุจั่นตี ถูกถ่ายทอดเผยแพร่ออกมาในหนังสื่อชื่อ “สิ้นแสงฉาน” โดยเจ้านางเป็นมหาเทวีของเจ้าจ่าแสง เจ้าฟ้าเมืองสีป้อ ที่ถูกทหารพม่าในยุคเผด็จการนายพลเนวินลักพาตัวและหายสาบสูญมาจนถึงทุกวันนี้

อิงเง เซอร์เจน เธอเป็นชาวออสเตรีย เกิดเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. ๑๙๓๒ หรือ พ.ศ. ๒๔๗๕ เธอและ “เจ้าจาแสง” ได้พบรักกันที่ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา ทั้งคู่เป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ทั้งสองได้แต่งงานกัน วันที่ ๗ มีนาคม ปี ๑๙๕๓ ที่เมืองเดนเวอร์ โดยในตอนแรก เจ้านางสุจั่นตี่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเจ้าจ่าแสงนั้นเป็นเชื้อสายเจ้าฟ้าของไทใหญ่ 

   ความจริงก็มาเปิดเผยเมื่อเจ้าจาแสงพาอิงเง่เดินทางกลับไปใช้ชีวิตที่เมืองสีป่อ เมื่อเรือเข้าเทียบท่าที่พม่า อิงเง่ สงสัยว่า ทำไมถึงมีผู้คนมาต้อนรับการกลับมามากมายถึงขนาดนั้น เจ้าจาแสง จึงเผยว่าตน คือ ผู้ปกครองนครรัฐสีป่อในรัฐฉาน  

อิงเง เซอร์เจน ได้รับการแต่งตั้งเป็นมหาเทวีแห่งสีป่ออย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ปี ค.ศ. ๑๙๕๗ ได้รับชื่อใหม่ว่า “สุจันทรี”

ตลอดเวลา ๑๒  ปี  ที่ เจ้านางสุจั่นตี่ อยู่ในรัฐฉานในฐานะมหาเทวี เจ้านางได้เป็นแรงสนับสนุนสำคัญของเจ้าจ่าแสงในการบริหารกิจการบ้านเมือง จนเป็นที่รักของชาวเมืองสีป้อ ทั้งสองมีบุตรธิดาร่วมกัน ๒ คน คือ เจ้าหญิงกิ่งหน่ารี และ เจ้าหญิงหม่าหย่ารี

ทั้งสองมีบุตรธิดาร่วมกัน ๒ คน คือ เจ้าหญิงกิ่งหน่ารี และ เจ้าหญิงหม่าหย่ารี


กระทั่งในปี  พ.ศ. ๒๕๐๕  เมื่อนายพลเนวินทำรัฐประหารในพม่า และเข้ามาครอบครองรัฐฉาน ล้มล้างระบอบเจ้าฟ้าลงทั้งหมด


 เจ้าจ่าแสง ถูกทหารพม่าจับกุมตัวไปคุมขัง และไม่ได้กลับไปยังเมืองสีป้ออีกเลย 


 

    ที่สีป่อ เจ้านางสุจั่นตี่ ได้พยายามสืบหาว่า นายพลเนวินนำตัวเจ้าจาแสงไปไว้ที่ไหน แต่ก็ถูกทหารจับตามองแทบไม่คลาดสายตา เธอจึงตัดสินใจพาพระธิดาคือมายรีและเกนรีเดินทางเข้าไปพำนักที่กรุงย่างกุ้ง เพื่อจะได้สืบข่าวอย่างละเอียดได้มากขึ้น


เมื่อสุจันทรีทราบถึงข่าวร้ายว่า เจ้าจาแสง น่าจะถูกทหารปลงพระชนม์แล้ว

เจ้าจ่าแสง และเจ้านางอิงเง แห่งสีป้อ (ภาพจาก facebook Hsipaw Generation. (သီပေါသား/သူများ))

     จนกระทั่งปี ค.ศ. ๑๙๖๔  หรือ 
พ.ศ. ๒๕๐๗  อิงเง เซอร์เจน จึงตัดสินใจพาลูกทั้งสอง คือ ‘เจ้าเกนรี’ และ ‘เจ้ามายารี เดินทางออกจากเมียนม่ากลับไปรัฐโคโลราโดและแต่งงานใหม่อีกครั้ง

     อิงเง เซอร์เจน ได้ทำงานอยู่ที่โรงเรียนมัธยมปลายจนกระทั่งเกษียน เธอและสามี นายโฮวาร์ด เซอร์เจน ได้ก่อตั้งองค์กร Burma Lifeline เพื่อทำงานการกุศลช่วยเหลือประชาชนจากเมียนมา  โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ตามเขตชายแดน

     ปัจจุบันแม้จะล่วงเลยมาเป็นเวลาเกือบ ๖๐ กว่าปี นับตั้งแต่นายพลเนวินยึดอำนาจ และเจ้าจ่าแสงถูกจับตัวไป แต่ในทุก ๆ ปี อดีตมหาเทวีแห่งสีป่อ และธิดาทั้งสอง ยังคงเขียนจดหมายถึงรัฐบาลเมียนม่า รวมถึงรัฐบาลเต็งเส่ง เพื่อทวงถามชะตากรรมของเจ้าจ่าแสง แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบใด ๆ ... 



  สั่งซื้อ หนังสือ สิ้นแสงฉาน (ฉบับปรับปรุง) บน Shopee  


✔ Twilight Over Burma (My Life as a Shan Princess)  

    : "อิงเง่" สาวน้อยชาวออสเตรียซึ่งแต่งงานและย้ายมาลงหลักปักฐาน ณ แผ่นดินเกิดของสามีที่แตกต่างและห่างไกลจากโลกใบเดิมของเธอโดยสิ้นเชิง...และนั่นยังไม่นับรวมบทบาท "สุจันทรีมหาเทวี" ราชินีคู่บัลลังก์ของ "เจ้าจาแสง" แห่งรัฐฉาน ตำแหน่งที่เธอได้รับมาโดยไม่ทันตั้งตัว แต่แล้วภาพชีวิตครอบครัวแสนงามราวเทพนิยาย เมื่อความผันผวนทางการเมืองปะทุขึ้น !!!

     
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

 
miscthailand