ความสุข และความทุกข์ เหมือนกับ พระอาทิตย์ กับ พระจันทร์ กล่าวคือ “เป็นของคู่กัน แต่ไม่อาจอยู่คู่กัน”
เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นจะไม่มีพระจันทร์ แต่เมื่อพระจันทร์ขึ้นพระอาทิตย์ก็ต้องจะจากไป
บทความโดย : เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค
โลกจริง…ที่เสมือนจริง
พระอาทิตย์ กับ พระจันทร์
ความสุข และความทุกข์
“เป็นของคู่กัน แต่ไม่อาจอยู่คู่กัน”
เรื่องนี้ใช้อธิบายความสัมพันธ์ของ ความสุขและความทุกข์ ได้ว่า
"เมื่อมีสุข ให้รู้ว่าทุกข์จะตามมา
และเมื่อมีทุกข์ ให้รู้ว่าสุขจะตามมา"
สลับกันไปมา เป็นวัฎจักรตลอดไป ซึ่งเป็นธรรมชาติของโลกและชีวิตมนุษย์ สุขก็ไม่ยั่งยืน ทุกข์ก็ไม่ยั่งยืน
แต่….ในความเป็นธรรมดาของโลก ก็ยังคงมีความไม่ธรรมดาอยู่ดี
เนื่องจาก พระอาทิตย์กับพระจันทร์ ซึ่งไม่น่าจะมีวันมาบรรณจบพบกันได้ ก็ยังมาบรรณจบพบกันได้อยู่ดี
และถ้าหากวันใดพระอาทิตย์เวียนมาบรรณจบพบกับพระจันทร์
- วันนั้น…กลางวันจะกลายเป็นกลางคืน
และวันใดที่ พระจันทร์มาบรรณจบพบกับพระอาทิตย์
- วันนั้น…กลางคืนจะกลายเป็นกลางวัน
อาจจะดูเหมือนว่าเป็นความวิปริตผิดธรรมชาติ แต่ความจริงนั้นคือ "ธรรมชาติ"
" ธรรมชาติที่ไม่มีจริง ไม่อะไรเที่ยงแท้
ไม่มีอะไรยั่งยืน แม้แต่ความตายก็ยังไม่จริง.."
กล่าวคือ การตายของมนุษย์เกิดจากร่างกายหยุดทำงาน แต่ดวงจิตซึ่งเป็นตัวตนของเราจริงๆ ไม่เคยตาย ยังคงเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสารตลอดไป จนกว่า…ดวงจิตจะสงบ จากการปล่อยวางจากกิเลส เมื่อนั้นดวงจิตซึ่งเป็นตัวตนจริงๆ ของเราจึงจะหลุดพ้นจากวัฏสงสารไปตลอดกาล
อมิตาพุทธ
(อมิตาพุทธะ แปลว่า ผู้มีแสงส่องสว่างไปไม่มีที่สิ้นสุด หรือหมายถึง ปัญญาที่หาที่สุดมิได้)
บทความโดย : เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค
> ดูเพิ่มเติม
