8/05/63

สงครามต่อต้าน นกกระจอก ในประเทศจีน ปี 1958

Great Leap Forward 大跃进 หรือที่เรียกว่า โครงการ การก้าวกระโดดไกลไปข้างหน้า ครั้งยิ่งใหญ่ ของประเทศจีน นำโดย ท่านประธาน เหมาเจ๋อตุง ( Mao Zedong ) ระหว่างปี 1958 ถึง 1962 

Great Leap Forward


โครงการ การก้าวกระโดดไกลไปข้างหน้า  รณรงค์เพื่อบูรณะประเทศจากเศรษฐกิจการเกษตรเป็นสังคมคอมมิวนิสต์   ผ่านการตั้งคอมมูนประชาชน ให้เพิ่มผลผลิตเมล็ดพันธุ์เป็นทวีคูณ และขยายอุตสาหกรรมออกสู่ชนบท การควบคุมการเกษตรจากส่วนกลางในการกระจายกำลังการผลิตอุตสาหกรรมและกระจายการทำไร่ไถนา และทำสวนไปทั่วทั้งประเทศจีน  ผูกขาดโดยรัฐบาลแต่เพียงผู้เดียว ในตอนนี้ สงคราม การต่อต้าน “นกกระจอก” ก็เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ ที่ชื่อว่า

สงครามต่อต้าน นกกระจอก ในประเทศจีน ปี 1958

สงครามต่อต้าน นกกระจอก
The Great Sparrow Campaign”


    โดยโครงการนี้ เกิดขึ้น ในช่วงปี 1958-1962 ในประเทศจีน เป็นโครงการรณรงค์การ กำจัดศัตรูพืชและโรคระบาดของสัตว์ที่มีผลกระทบต่อคนจีน โดยเฉพาะเกษตรกรทั่วประเทศ ซึ่งศัตรูตัวที่ถูกเลือกขึ้นมาเพื่อทำการกำจัด และทำสงครามนั้น ...มีทั้งหมด 4 ชนิด คือ ยุง หนู แมลงวัน และ นกกระจอก ( แหม เหมือนกับ แก๊งออฟโฟร์ หรือ แก๊ง 4 คน (四人帮) ทรชนแห่งประวัติศาสตร์จีน เลย )


     สำหรับ ยุง , หนู และแมลงวัน นั่นคือสัตว์ที่เป็นตัวพาหะนำโรคร้ายต่างๆ ท่านคงจะไม่รู้สึกแปลกใจมากนัก พอเข้าใจได้ แต่ทว่า การกำจัด นกกระจอก !! เป็นความคิดที่ไม่ดีนัก เหตุเพราะพวกนกจิกกินพืช ผลไม้ และธัญพืช นกกระจอกบ้าน จึงถูกตราว่า เป็นจำเลย การประกาศฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ กระจอก จึงเริ่มต้นขึ้น

ความคิดที่โง่เขลา ของที่ปรึกษา เหมาเจ๋อตุง


    คณะที่ปรึกษาของเหมาเจ๋อตุงได้คำนวณ และรายงานออกมาว่า นกกระจอกบ้าน 1 ตัว จะกินข้าวถึง 4.5 กิโลกรัม ในแต่ละปี และหากกำจัด (ฆ่า) นกกระจอกบ้าน ให้ได้ 1 ล้านตัว เราจะมีอาหารเพียงพอสำหรับประชากรถึง 60,000 คน

     วันที่ 13 ธันวาคม โครงการทำสงครามกำจัดนกกระจอกบ้านได้เริ่มต้นขึ้น มีการรณรงค์สร้างคำขวัญ และโฆษณาชวนเชื่อ ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียน คนงานของรัฐบาล คนงานในโรงงาน ชาวนา และกองทัพปลดแอกประชาชน ต่างตะโกนคำขวัญ  ทำสงครามกำจัดนกกระจอก”

สงครามต่อต้าน นกกระจอก

สงครามต่อต้าน นกกระจอก


     วิธีการกำจัด (ฆ่า) นกกระจอก มีหลายรูปแบบ โดยประชาชนชาวจีน บ้างถูกยิงในขณะบินบนฟ้า รังนกกระจอก ถูกทำลาย มีการวางยาพิษใส่อาหารและน้ำ มีกิจกรรมส่งเสริมให้ประชาชนเข้าร่วมให้มากที่สุด จัดให้มีการแข่งขันขึ้นมาระหว่าง  คนงานของรัฐบาลกับเด็กนักเรียน ด้วยการมอบรางวัลปให้กับ ใครก็ตามที่ส่งหางหนูจำนวนมาก ซากแมลงวัน ซากยุง และนกกระจอกบ้าน มากที่สุด กิจกรรมดังกล่าวจึงกลายเป็นกีฬาอย่างหนึ่ง ทำให้พวกเด็กนักเรียนเข้าร่วมด้วยความกระตือรือร้น 

      การทำสงครามกำจัดนกกระจอก ดำเนินไปได้ 3 ปี มีการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เซี่ยงไฮ้ รายงานว่า นกกระจอกบ้าน 194,432 ตัว ถูกฆ่าตายภายในวันเดียว นกกระจอกราวๆ 1,000 ล้านตัวถูกกำจัด ภายใน 3 ปี ถือว่า โครงการ The Great Sparrow Campaign บรรลุเป้าหมาย ประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม แต่ทว่า ผลของการกระทำนี้ ส่งผลร้ายตามมาอย่าไม่คาดคิด มีสิ่งที่ต้องจ่าย มหาศาล เกิดผลกระทบครั้งยิ่งใหญ่


      นกกระจอก จิกกินพืช ผลไม้ และธัญพืช ก็จริง แต่ไม่มากเท่า หรือพอๆกันกับ กินแมลง ด้วยเช่นกัน นั่นก็เท่ากับว่า เมื่อนกกระจอกถูกทำลายไป สิ่งที่เพิ่มเข้ามาเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยากกว่า นั่นก็คือ “แมลง” เมื่อ แมลงไม่ได้ถูกกำจัด หรือทำให้ลดลงด้วยนกกระจอก จึงทำให้ ปริมาณของแมลงมีเพิ่มสูงขึ้น แมลง เข้าทำลายผลผลิตของชาวบ้านได้มากขึ้น โดยไม่มีอุปสรรค์ใดๆจากนกระจอก และแน่นอนเมื่อแมลงขึ้น ก็ย่อมใช้สารพิษ เพื่อฆ่าแมลงสูงขึ้น ในครานั้น ทำให้ ประชากรจีนจำนวนกว่า 20ถึง50 ล้านคน ต่างเสียชีวิตเนื่องจากความอดอยาก เป็นภัยพิบัติด้านสิ่งแวดล้อม ที่เลวมากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก

เหมาเจ๋อตุง ประกาศยกเลิก การรณรงค์กำจัดสี่ศัตรู ในเวลาต่อมา นกกระจอกบ้านขาดแคลน เป็นอย่างมาก มีการนำเข้านกระจอก จากสหภาพโซเวียตรัสเซีย แต่การขยายพันธุ์ ก็ทำได้ไม่มากเพียงพอ



U-Face Mask Hook

ที่คล้องแมส ฟิกเกอร์ รูฟี่ การ์ตูนสุดฮิตขวัญใจเด็ก "วันพีช" ใช้งานง่ายช่วยให้เด็กๆรักการใส่แมส ไม่รั้งไม่ดึงหู ไม่เจ็บ ทำให้แมสกระชับกับใบหน้ามากขึ้น 
   
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

 
miscthailand