6/23/63

เหรียญกษาปณ์กาสิโน ปี้ และบ่อนเบี้ย คาสิโน

ท่านทราบหรือไม่ ? ประเทศไทย เคยเปิดให้มี บ่อนคาสิโน (บ่อนเบี้ย) ให้ประชาชนเล่น อย่างถูกกฎหมาย ถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรก เรียกว่า “บ่อนเบี้ย” เกิดขึ้นในช่วงสมัย

รัชกาลที่ 2 และทะยอยปิดตัวลงใน รัชกาลที่ 5 และมาถึงการสิ้นสุดของบ่อนถูกกฎหมายในประเทศไทย ในสมัยรัชกาลที่ 6 และครั้งที่สอง ของการเกิดขึ้นอีกครั้งของ บ่อนคาสิโน ในประเทศไทยที่ถูกกฎหมาย ก็เกิดขึ้น หลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครอง แล้ว ผู้เสนอให้ตั้ง “สถานกาซิโน” ของรัฐบาล คือ นายปรีดี พนมยงค์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในสมัยรัฐบาลหลวงพิบูลสงคราม (หนแรก)  ข้อเสนอนี้ มีจุดประสงค์เพื่อหาเงินแทนเงินรัชชูปการที่ยกเลิกไป จนเกิดมี “พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงื่อนไขการพนันตามมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติการพนัน” ดำเนินครั้งแรกที่หัวหิน เมื่อพฤษภาคม ๒๔๘๒ แต่เปิดได้ ๒ วันก็ล่ม เพราะคนไม่เข้า นัยว่าประเจิดประเจ้อเกินไป …..
 
ปี้ และบ่อนเบี้ย

แต่ก็มีความพยายาม เปิดได้สำเร็จในไม่กี่ปีที่ผ่านมา วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2488 โดย นายควง อภัยวงศ์ ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ในสมัยนั้น

    ชิพ  ที่ใช้แทนเงินสดสำหรับการใช้แทงพนันใน บ่อนคาสิโน โดยทั่วไป จะเป็นวัสดุที่ทำมาจากพลาสติก หรือในสมัยครั้งแรกของ บ่อนเบี้ย ในสยาม คือ หอยเบี้ย , ปี้ดินเผา , ปี้ทองเหลือง , ปี้ตะกั่วดีบุก กระเบื้องเคลือบสี แต่สำหรับบ่อนคาสิโนของประเทศไทยในครั้งที่สอง นี้ ชิพในบ่อน จะใช้ เหรียญเนื้อนิกเกิล เรียกว่า กษาปณ์กาสิโน

เหรียญกษาปณ์กาสิโน  ปี้ และบ่อนเบี้ย

    ด้านหนึ่งบทเหรียญ กษาปณ์กาสิโน จะมีรูปนกวายุพักตร์ ด้านหลัง ระบุราคาไว้ และที่ขอบเหรียญมีการตีตราระบุหมายเลขไว้


เหรียญกษาปณ์กาสิโน

   

  เหรียญกษาปณ์กาสิโน ใช้แทนเงินสดในการเล่นพนันในบ่อน   (ชิพ ) มี 4 ราคาด้วยกัน คือ

  • ชนิดราคา 100 บาท ตอกระบุหมายเลข 3 หลัก
  • ชนิดราคา 20 บาท ตอกระบุหมายเลข 4 หลัก
  • ชนิดราคา 10 บาท ตอกระบุหมายเลข 4 หลัก
  • ชนิดราคา 1 บาท ตอกระบุหมายเลข 5 หลัก

ปี้ : เป็นสิ่งที่ใช้แทนเงินตราใน บ่อนการพนัน หรือที่เรียกว่า “บ่อยเบี้ย” เช่นเดียวกัน (เรียกว่า “ชิพ”ในปัจจุบัน ) ถูกผลิตขึ้นมาจากเมืองจีน “ปี้” ทำจากวัสดุหลายชนิด เช่น กระเบื้อง แก้ว หรือโลหะ แต่ส่วนใหญ่ที่พบวัสดุที่ทำจาก กระเบื้องเคลือบสี มีลักษณะ ขนาด ลวดลาย และสีแตกต่างกันไปในแต่ละบ่อน


คำว่า casino มาจากภาษาอิตาลี อ่านว่า "กาซีโน" แปลว่าบ้านพักหลังเล็กใช้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ (casa = บ้าน) ซึ่งต่อมาได้มีการนำมาใช้ในสถานที่ที่เล่นการพนัน

   สถานกาสิโน ครั้งที่สองของประเทศไทยนี้ เปิดให้บริการอยู่เพียง 4 เดือน เท่านั้น โดยปิดตัวลง ในวันเสาร์ที่ 9 มิ.ย. 2488 ด้วยเหตุผลเดียวกันกับครั้งแรก คือ สร้างความเดือดร้อนให้กับราษฎร เพราะเล่นกันจนหมดตัว หลายรายถึงกับฆ่าตัวตาย หลายครอบครัวต้องบ้านแตกสาแหรกขาดก็เพราะการพนัน เกิดอาชญากรรม โจรขโมยจี้ปล้น มากมาย ...

แม้แต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ทรงเห็นเป็นตรรกะว่า การพนันทำให้คนสยามตกลงเป็นทาสมากมาย หากคิดจะเลิกทาสต้องเลิกการพนันเสียก่อน ดังทรงมีพระราชดำริว่า

.... การมีราษฎรที่มัวเมาอยู่ในการพนันย่อมเป็นเหตุนําไปสู่ความวิบัติทั้งทางส่วนตัวและทางความมั่นคงของประเทศชาติ...ข้าพเจ้าเห็นว่ายังมีความขัดข้องอยู่ด้วยกรุงสยามยังมีภาษีหวยถั่วโป การพนันต่างๆ ฝิ่น เหล้าเหล่านี้ที่จริงได้ทําคนให้เป็นทาษ ให้โทษแก่มนุษย์ทั้งหลาย...จะต้องคิดดับของเหล่านี้เสียก่อนจึงจะเลิกทาษได้ .... ”

    แม้จะผ่านมาแล้วกว่า 100 ปี กับบทเรียน ที่เจ็บปวดมาแล้วถึง 2 ครั้ง 2 ครา … ผลเสียของการพนัน ในปัจจุบัน ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตเลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังจะเพิ่มขึ้นอีกด้วย …

ข้อมูลภาพ และข้อมูลอ้างอิง

ภาพSiamese game.gif

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Siamese_game.gif

https://www.facebook.com/BOTLearningCenter/

https://www.facebook.com/siamgreatwarriors/posts/1437332203242466

https://www.facebook.com/kornkitd/posts/10152825236886954?hc_location=ufi

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=6940.15

http://www.gypzyworld.com/article/view/1136

http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/03/K7583938/K7583938.html

ปี้กระเบื้อง เงินตราในบ่อนเบี้ยมักทำลวดลายสวยสดงดงาม

http://oknation.nationtv.tv/blog/horsupawut/2014/07/08/entry-1


 รวมหนังสือ รัชกาลที่ ๕

รวมหนังสือ รัชกาลที่ 5



ขับเคลื่อนโดย Blogger.

 
miscthailand